......เพื่อเพิ่มความฮาของเว็บการ์ตูนหรอยกู เราตัดสินใจยื่นหัวข้อวิจัยเกี่ยวกับเว็บไซต์หรอยกูให้อาจารย์ดูเผื่อจะได้ทำกับเค้า อาจารย์ก็บ้าจี้ให้เราทำซะด้วยต้องขอบพระคุณอาจารย์จริงๆที่เห็นอกเห็นใจและเหตุประโยชน์ของเว็บไซต์แห่งนี้ ขอบคุณอาจารย์มากๆคร๊าบบบบบ

เว็บไซต์การ์ตูนหรอยกูได้จดทะเบียนเว็บไซต์ขึ้นในวันที่ 24 ธันวาคม 2550 และเริ่มเปิดใช้งานครั้งแรกวันที่ 1 มกราคม 2551 โดยมีสองผู้ก่อตั้งเว็บไซต์ก็คือ

?การ์ตูนหรอยกู รุ่งอรุณแห่งความฮา? คือ สโลแกนของเว็บไซต์การ์ตูนหรอยกู โดยผู้จัดทำเว็บการ์ตูนหรอยกูต้องการสร้างเสียงหัวเราะในยามเช้าให้กับทุก ๆ คน ผ่านทางการสื่อสารที่อยู่ในรูปแบบของการ์ตูน ไม่ว่าจะเป็นนักเรียน นักศึกษา หรือบุคคลที่อยู่ในช่วงวัยทำงานก็สามารถเข้ามารับเสียงหัวเราะจากการ์ตูนที่ผู้จัดทำทั้งสองคนได้วาดขึ้นมาได้
คำว่า ?หรอยกู? มาได้อย่างไร คำว่าหรอยกูนั้นเป็นคำในภาษาใต้ โดยคำว่า ?หรอย? ในภาษาใต้แปลว่า อร่อย สนุกสนาน ดีใจ เป็นความหมายในเชิงพวก และคำว่ากู แปลว่า ตัวเรา รวมกันแล้วก็คือ สนุกนเฉพาะตัวเรา สนุกเฉพาะเราเอง มันเป็นชื่อพี่ฟังแล้วแปลกดีและมีความหมายที่ตลก และตัดสินใจจดทะเบียนเว็บไซต์ในชื่อ Roigoo.com
ถ้าย้อนกลับไปในสมัยยังอยู่ชั้นประถมศึกษาทั้งสองคนได้วาดการ์ตูนแก๊กส่งให้หนังสือการ์ตูนขายหัวเราะของสำนักพิมพ์บรรลือสาส์นเพราะหวังในเงินรางวัลล่อใจที่ทางขายหัวเราะได้เสนอเอาไว้ นั้นห็คือการ์ตูนแก๊กแก๊กละ 200 บาทและแน่นอนว่ามันไม่ผ่านการพิจารณา แต่มันไม่ได้ทำให้ความยากวาดการ์ตูนนั้นหมดลงไป เว็บไซต์การ์ตูนหรอยกูอันที่จริงแล้วนั้น เป็นการ์ตูนที่ไม่ได้รับการเผยแพร่เพราะการ์ตูนในช่วงแรกของเว็บไซต์การ์ตูนหรอยกูที่นำมาเผยแพร่ส่วนมากนั้นมาจากไดอารี่ประจำตัวของผู้ก่อตั้งทั้ง 2 ที่ได้วาดการ์ตูนเกือบไว้อ่านเป็นจำนวนมาก โดยเป็นเนื่อหาที่เกี่ยวกับเรื่องที่ประสบพบเจอมาในแต่ละวันในแง่มุมตลก การวาดการ์ตูนใส่ในไดอารี่ช่วยให้หรอยกู มีพัฒนาการในงานการ์ตูนที่แตกต่างไปจากนักวาดคนอื่น เห็นได้จากสไตร์การวาดและเนื้อเรื่องที่ไม่เหมือนใครในประเทศไทย

ในที่สุดเว็บไซต์การ์ตูนหรอยกูกำเนิดขึ้น อันที่จริงแล้วมันเหมือนกับเรื่องตลกเพราะเว็บไซต์นั้นได้รับการช่วยเหลือจากนายเอกสิทธิ์ เพื่อนสนิทของนายเอ็ม (สมัยนั้น) ทั้งนี้เพราะเห็นในความรักในงานการ์ตูนมาเป็นเวลานาน นายเอกสิทธิ์จึงตัดสินใจทำเว็บไซต์การ์ตูนหรอยกูให้ โดยชื่อว่าหรอยกูนั้นทั้งนายเอ็ม และนายโอม เป็นคนเลือกใช้ชื่อนี้เพราะมันเป็นคำพูดติดปาก ในการทำอะไรตามตัวเอง