คราวนี้เรามาวิเคระห์กับว่า สีน้ำตาลในฉากหลังกับสีขาวในตัวพรีเซนเตอร์ เมื่อมองพร้อมกันเกิดอะไรขึ้น ความรู้สึกที่ออกมาเมื่อบรรยายออกมาเป็นคำพูดก็คือ ?คนดีๆจะอยู่ที่ไหนก็ยังทรงคุณค่า? การที่สีขาวมาอยู่หน้าสีน้ำตาลให้เรามองออกว่า สีใดเป็นสีที่สำคัญกว่านั้น นั้นก็คือสีขาว ซึ่งเป็นตัวแทนของความดี ด้านหลังเป็นสีน้ำตาลเป็นตัวแทนของความแห้งแล้ง ปริ้นแอดชิ้นนี้มาถูกทางแล้วสำหรับโฆษณาชุดนี้ เพราะคนที่อยู่นอกยุโรปหรืออเมริกา ส่วนมากจะมองตนเองว่าเป็นประเทศที่ด้อยพัฒนากว่าปะเทศในฝั่งยุโรป เหมือนกับการกระตุ้นในต่อมความรู้สึกของเขาว่า พวกเขาสามารถเป็นเหมือนชาวยุโรปได้ แต่ถ้าชาวยุโรปหรืออเมริกาก็อาจจะตีความของปริ้นแอดนี้ต่างออกไป เพราะสีที่ใช้ไม่ได้ทำให้คนในประเทศแถวนั้นเกิดอารมณ์ร่วมแบบที่ตัวสินค้าได้คาดหวัง แต่อาจจะตีความกลับกัน ทำให้สินค้าดูแล้วไม่ทันสมัยก็เป็นได้ เหมือนกับเอาเสื้ออดิดาสมาให้นักฟุตบอลทีมชาติไทยใส่แล้วถ่ายรูปไปให้ฝรั่งดู นั้นแหละความรู้สึกแบบนั้นเลย สรุปแล้วปริ้นแอดนี้จะโดนใจประเทศนอกยุโรปและอเมริกามากกว่าถ้าเราพิจารณาองค์ประกอบในมิติด้านสี





มาดูมิติด้านสีสีสุดท้าย ซึ่งก็คือสี น้ำเงินกับสีส้ม ที่อยู่ที่ตัวโลโก้ของแคมเปญของตัวโฆษณาชุดนี้ โดยโลโก้นี้กับกับทุกสื่อของแคมเปญนี้ ซึ่งถ้าใครดูแล้วก็คงจะตีความได้ง่าย มาดูเรื่องมิติด้านสีกันต่อ ทำไมโลโก้บางส่วนต้องสีน้ำเงิน บางส่วนต้องสีส้ม เรามาวิเคราะห็ที่สีน้ำเงินกันก่อนเลย สีน้ำเงินตามความหมายทางหลักจิตวิทยาแล้วมีความหมายว่า ความเวิ้งว้าง ว่างเปล่า กว้างขวาง สงบนี่ ซึ่งอยู่ที่ตัวของทีมนักฟุตบอลที่ยืนอยู่ ปริ้นแอดนี้เลือกใช้สีน้ำเงินกับนักฟุตบอลคนอื่นๆเพราะว่า ไม่อยากให้ภาพของพวกเขาเป็นจุดสนใจ อยากให้ดูแล้วรู้สึกสงบนิ่งและดูแล้วเรียบๆไม่ร้อนแรง พูดง่ายๆว่าให้ความรู้สึกเป็นเหมือนผู้เล่นธรรมดาไม่ใช่คนใหญ่คนโตอะไรในทีม ก็เลยต้องเป็นสีแบบนี้ไป มาดูสีที่สองกันบ้าง นั้นก็คือสีส้ม สีส้มทางหลักจิตวิทยาแล้วมีความหมายว่า ความร่าเริง ความมีพลัง ถ้าสังเกตให้ดีในตัวโลโก้ จะมีคนอยู่คนหนึ่งที่ตัวสีส้ม(คนที่ยืนอยู่ริมซ้ายสุด) ซึ่งเราดูขนาดของตัวแล้วน่าจะเป็นเด็กแล้วก็เป็นตัวแทนของเจ้าหนูJoseแน่นอน และเมื่อมีการเน้นสีให้เจ้าหนูคนนี้ ก็เป็นเหมือนกับการปล่อยคีเวิร์ดคำสำคัญออกมา นั้นก็คือใครใช้สินค้าของเขาแล้ว ก็จะเป็นผู้ทรงพลัง เป็นผู้นำ(กับตันทีมนั้นเอง) ถ้าใครไม่ใช้สินค้าของเราก็เป็นแบบพวกตัวสีน้ำเงินไปแล้วกัน เป็นผู้ที่ไม่มีใครสนใจไม่มีพลัง ไม่มีความสามารถอะไนที่โดดเด่นกว่าคนอื่น เหมือนกับกำลังพูดถึงสินค้ากีฬาชนิดหนึ่งยังไงก็ไม่รู้


ส่วนโลโก้ที่เขียนว่า +10 นั้น ก็เป็นเหมือนกับพลังของเจ้าหนูคนนั้น ที่เด็กคนเดียวสามารถเป็นผู้นำทีมที่มี 10 คนได้และเป็นเหมือนกับการผู้ก่อตั้งทีมขึ้นมา สรุปแล้วสีน้ำเงินกับสีส้ม เป็นสีที่มีความต่างกันโดยสิ้นเชิง แต่ความแตกต่างนั้น ช่วยผลักดันคำว่า +10 ดังไกลได้


3.มิติด้านการจัดองค์ประกอบเชิงพื้นที่
มิติด้านการจัดองค์ประกอบของปริ้นแอดชิ้นนี้ดูแล้วอาจจะเหมือนกับปริ้นแอดธรรมดาๆไม่มีอะไร แต่ปริ้นแอดที่เสียค่าออกแบบจำนวนหลายล้านบาทนั้นต้องมีความหมายอยู่ในการจัดองค์ประกอบของวัตถุต่างๆที่อยู่ในปริ้นแอดนี้แน่นอน โดยปริ้นแอดตัวนี้ไม่ใช้เทคนิคเส้นำสายตาเพื่อโยงภาพ ใช้การจัดองค์ประกอบแบบธรรมดาสุดๆในการทำปริ้นแอด ก็คือการจัดองค์ประกอบระดับเดียวกับสายตา เหตุผลแรกของการจัดองค์ประกอบแบบนี้เพราะทำให้ปริ้นแอดดูแล้วเข้าใจง่าย มีความง่ายในความต่อการตีความ ต่อไปจะมาดูกันว่าการจัดองค์ประกอบต่างๆในภาพนี้นั้นเจ้าของต้องการให้เราสนใจสิ่งใดในตัวปริ้นแอดก่อนหลังและสนใจได้อย่างไร

ถ้าจะพูดถึงการจัดองค์ประกอบแล้ว หลักการสำคัญในการจัดองค์ประกอบหรือการสร้างจุดเด่นของพื้นที่ในงานภาพ มีหลักการปฎิบัติทั้งหมด 12 ข้อ เขียนไว้โดยสมชาย พรหมสุวรรณ ได้ประยุกต์ใช้หลักการสร้างจุดสนใจของภาพในงานทัศนศิลป์มาปรับใช้ในการสร้างสรรค์ผลงานให้มีความน่าสนใจยิ่งขึ้น โดยปริ้นแอดนี้ตรงกับหลักปฎิบัตินิยมถึง 2 ข้อ

ข้อ แรกคือ การเน้นโดยการใช้รูปคน โดยรูปคนเป็นสิ่งที่เราคุ้นตากว่าสิ่งอื่น เมื่อรูปคนปรากฏในภาพโดยมีพื้นหลังเป็นรูปของวัตถุหรือสิ่งมีชีวิตประเภท อื่นเช่น ต้นไม้ ตุ๊กตา ฝูงนักพิราบ ก็ทำให้คนกลายเป็นจุดเด่นได้ เนื่องจากภาพที่คุ้นย่อมถูกรับรู้ก่อนสิ่งอื่น

จากข้อแรกที่กล่าวมาตรงกับภาพโฆษณาที่เรานำมาทั้งนี้เพราะมีคนเป็น พรีเซนเตอร์ยืนอยู่ตรงกลางซึ่งเป็นจุดเด่นตามที่ได้กล่าวมา แต่ทำไมตัวภาพโฆษณาชุดนี้จึงต้องให้มนุษย์เป็นจุดเด่น ทั้งนี้เพราะคนเป็นคนใช้ผลิตภัณฑ์ เมื่อมีการเน้นรูปคนที่ใช้สินค้าของตนทำให้คนที่ชมปริ้นแอดชุดนี้ มีความคุ้นเคยกับสินค้าของตนเองมากขึ้น ถึงแม้จะเป็นการมองผ่านๆก็จะสามารถจดจำโลโก้หรือรูปแบบของสินค้าได้ โดยสินค้าที่ตัวพรีเซนเตอร์ทื่ยืนเด่นอยู่ถือลูกฟุตบอลยี่ห้ออดิดาส ซึ่งจะใช้ใน 1 ปีต่อหลังจากปริ้นแอดตัวนิ้ออกไปละมีการโชว์โลโก้ที่ลูกบอลอีกด้วย(บังเอิญ เหลือเกินที่โลโก้โล่ออกมาพอดี) ทำให้เราเห็นได้ว่าการนำลูกบอลมาให้เจ้าหนูคนนี้ถือว่า ทำให้มีความโดดเด่นขึ้น ทำให้ลูกบอลลูกนี้มีความน่าสนใจมากกขึ้นตามไปด้วยและลูกบอลนี้ทำให้คนจดจำ ลูกบอลและโลโก้ของสินค้านั้นได้

ส่วนที่ตัวของเด็กชาย มีคำว่า ?Adidas? เขียนอยู่บนเสื้อ ซึ่งอาศัยความรู้สึกคุ้นเคยที่เรามีต่อคน ดึงสายตาของเราไปที่ตัวเด็กและตัวเสื้อนั้นด้วย ซึ่งนั้นทำให้คนรู้ชื่อสินค้าไปด้วย ปริ้นแอดชิ้นนี้ยังมีความฉลาดอีกอย่างหนึ่งที่ให้เจอหนูคนนี้ยืนถือลูกบอล เพราะถ้าเจ้าหนูคนนี้ยืนอยู่เฉยๆจุดเด่นก็จะตกอยู่ที่ตัวเด็กชายเท่านั้น ทำให้คนรู้จักแต่ชื่อสินค้าที่ติดอยู่ที่เสื้อแต่ไม่รู้จักโลโก้ของสินค้าแต่เมื่อนำเอาลูกบอลมา ทำให้คนที่ชมปริ้นแอดตัวนี้เห็นโลโก้ของสินค้าด้วยและนี้คือข้อดีของการจัดองค์ประกอบโดยวิธีการเน้นรูปคน วิธีนี้ถือว่าเป็นวิธีพื้นฐานในการทำปริ้นแอดเลยก็ว่าได้ที่มีการใช้คนเข้ามามีส่วนร่วมกับปริ้นแอดเพราะความน่าสนใจของคน ทำให้ดึงดูดความสนใจของเราได้ง่ายกว่าของอื่นๆที่เราไม่แน่ใจว่าจะดึงดูดเท่ากับการใช้คนหรือไม่ พูดง่ายๆว่าคนคือสิ่งดึงดูดที่เป็นมาตรฐานที่สามารถลดความเสี่ยงของภาพโฆษณาชิ้นนั้นๆได้ ในอดิดาสส่วนมากแล้วก็จะนำคนเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของปริ้นแอดบางครั้งก็เอาแต่บางอวัยวะเข้ามาลงในปริ้นแอด ก็สร้างความโดดเด่นได้อีกอย่างหนึ่ง

สรุปเรื่ององค์ประกอบภาพปริ้นแอดชิ้นนี้ส่วนที่คนจะมองส่วนแรกก็คือ เจ้าหนูJose ต่อมาก็คือ โลโก้ประจำแคมเปญนี้(+10) ตามด้วยโลโก้อดิดาสที่อยู่ขวาบน ซึ่งเป็นการตอกย้ำตราสินค้าได้ดี หลังจากเราดูสินค้าของเขามาครบถ้วนแล้ว