คำถามแนวชีวิต!!! ทำงานแล้วมีความสุข Vs ทำงานแล้วรวย คำถามแนวชีวิต!!! ทำงานแล้วมีความสุข Vs ทำงานแล้วรวย ตอนนี้สับสนในชีวิตเล็กน้อย ตอนนี้กำลังอยู่ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อค่ะ อายุจะเข้าเลข 3 แล้วก็งี้ ต้องยอมรับว่าเงินเดือนของเราก็เยอะพอสมควร คนอื่นบอกว่าเท่านี้ก็รวยแล้ว แต่ด้วยใจจริงของเรา เราคิดว่า ความสุขจากความรวยมันช่างน้อยนิดเสียเหลือเกิน ตอนนี้อยากจะทำงานที่ให้ความสุข มากกว่าทำงานแล้วรวย มันจะมีทางสายกลางที่ดีกว่านี้ไหม ทำงานแล้วมีความสุขแล้วไม่มีเงิน ความสุขคนจะหายไปกับสายลบ แต่ถ้าทำงานมีแต่เงินใช่ว่าจะมีความสุข ใครก็ได้แสดงความคิดเห็น ในเรื่องนี้ทีค่ะ ปล.จะลาออกจากงานกลัวที่บ้านโกรธ :undecided: |
ทำงานเเล้วได้เเต่เงินก็มีเยอะเเยะนะค่ะ เเต่ทำงานเเล้วเรามีความสุขไปกับงานด้วยเนี่ยสิคงหายาก เเต่ว่าถ้าทำงานที่เราชอบต่อให้ได้รา่ยได้น้อยเราก็ยังมีความสุขกับงานนะค่ะ ซึ่งมันก็เป็นเรื่องที่ดีค่ะ :sleep: //เเวบมา เเหะๆ |
ผมจะไม่บอกว่าทางไหนถูกหรือผิดนะครับ แต่ถ้าเป็นผมแล้ว จะทำแบบนี้ครับ 1.ลองเขียนถึงปัญหาในตอนนี้ ว่ามันเป็นอย่างไร มีอะไรเกิดขึ้นบ้าง 2.แล้วลองเขียนวิธีแก้ปัญหาดู ว่ามีทางออกอะไรบ้าง 1 2 3 4 3.เอาคำตอบในการแก้ปัญหาเหล่านั้นมาวิเคราะห์ ว่าเราสามารถทำได้จริงไหม 4.คราวนี้ถึงขั้นที่ต้องตัดสินใจ ว่าเราจะเลือกทางออกข้อไหน มีกรอบในการตัดสินใจ จุดสำคัญผมว่าต้องเขียนปัญหานั่นออกมาครับ จะทำให้เราเข้าใจภาพชัดขึ้น แล้วก็สามารถตอบตัวเองได้ถูกต้อง และต้องตั้งใจจริงในการเปลี่ยนแปลงด้วยครับ |
คำถามแนวนี้พี่เอ็มชอบเลยครับ ก่อนที่จะตอบคำถามนี้ ต้องตอบเลยว่า ทุกคนไม่สามารถที่จะทำได้เหมือนกัน เพราะ ปัจจัยพื้นฐานของชีวิตล้วนไม่เหมือนกัน ทำให้กลไกการเลือกนั้นแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง ถ้าให้ตอบอย่างง่ายๆ คงจะเป็นการยกตัวอย่างน่าจะตอบได้ดีที่สุด ดังต่อไปนี้ครับ นาย ก. มีความฝันอยากเปิดร้าน (ที่เขาชอบ) เป็นของตัวเอง แต่ด้วยความรู้และประสบการณ์ไม่ถึง จึงต้องมาเป็นลูกจ้างเขาก่อน เพราะที่บ้านก็ไม่ได้ร่ำรวย ต้องหาเลี้ยงต้วเองเพราะโตแล้ว ทำงานเป็นลูกจ้างก็ได้เงินดี (ก็ถือว่ารวยสำหรับช่วงเวลานั้นๆ) จนในที่สุดเมื่อตำแหน่งหน้าที่สูงขึ้น เขาได้เงินเดือนสูงขึ้น แม้จะเป็นงานที่อยากทำบ้างไม่อยากทำบ้าง ทำแล้วเซ็งๆ บ้าง แต่ก็มีภาระมากขึ้น มีเมียมีลูก ความรู้เกี่ยวกับการเปิดร้านที่อยากทำก็ไม่พร้อมเสียที ทำให้ท้ายที่สุดแล้ว เขาก็ไม่ได้เปิดร้านจนตัวเองเกษียณกันไป นาย ข. มีความฝันอยากเป็นนักวาดการ์ตูน เรียนจบก็ไปวาดการ์ตูนตามถนนเรื่อยมา ทางบ้านไม่ว่าอะไรอีกทั้งยังช่วยสนับสนุน แถมยังได้เงินค่าขนมจากที่บ้านบ้างอะไรบ้างแม้ไม่ได้มากมาย แต่ก็ถือว่ายังมีคนซัพพอร์ต ในท้ายที่สุด เขาก็ไปได้ดีกับสายงานวาดการ์ตูน แม้จะใช้เวลาในการเริ่มต้นถึง 6 ปีก็ตาม และ เขาก็โคตรมีความสุข น.ส. กุ๊กไก่ มีความฝันอยากเป็นเจ้าของร้านเพ็ทชอป แต่ที่บ้านทำนา จบมาก็ต้องทำงานไปก่อน แต่ทำงานไป ก็เก็บเงินไปเรื่อย จนในที่สุดก็มีเงินทุนของตัวเอง คุณเธอก็ลาออกจากงาน ไปเปิดร้านรับตัดขนหมาก่อน ที่จะขยายกิจการร้านไปเรื่อยๆ จนในที่สุดร้านเธอก็ติดตลาดและประสบความสำเร็จในที่สุด และ เธอก็โคตรมีความสุข พี่แยกออกมาก็มีประมาณนี้แหละครับ สุดท้ายแล้ว มันขึ้นอยู่กับ พื้นฐานของบุคคลส่วนหนึ่ง และ ใจของบุคคล อีกส่วนหนึ่งครับ อันที่จริงแล้ว พี่เชื่อว่า ถ้าให้ตอบแบบดราม่า ทุกคนก็คงจะเลือกตอบว่า ทำงานแล้วมีความสุข ทำงานที่อยากทำ เป็นคำตอบในอุดมคติที่สุด แต่ถ้าเราทำงานแบบนั้น แล้วพ่อแม่เราลำบาก มันจะอาร์ทหรืออินนี้ออกหรือครับ ใครมีความเห็นอย่างไร ลองมาแชร์กับพี่เอ็มดูครับ อยากฟังๆ !! |
เราเป็นคนหนึ่งที่เคยทำงานประจำ เงินเดือนสูงประมาณเฉียด 30,000 กับอีกงานได้ทำแค่อาทิตย์ละ 2-3 วัน ค่าแรงประมาณวันละ 2000 อัพค่ะ งานไม่มีอะไรเลย ไปประชุมแล้วกลับ ไปออกไอเดียแล้วกลับ ไม่มีงานกลับมาทำที่บ้านด้วย แต่เราอยู่แล้วไม่มีความสุขเลยค่ะรู้สึกถูกบีบอัดทางความคิด (เพราะกรอบการทำงานสูงมาก มีโจทย์แน่น มีผู้ใหญ่ครอบอีกที) ไม่ได้ใช้ความคิดสร้างสรรค์เต็มที่ เราเลยตัดสินใจลาออก เสี่ยงไปตายเอาดาบหน้า แล้วทำงานกระจุกกระจิกทุกอย่าง เงินนิดๆหน่อยๆก็เอาหมด เพื่อให้มีเงินพอเลี้ยงตัวได้แค่ไม่พึ่งพ่อแม่ก็พอ ขอแค่แลกกับอิสระทางความคิดและความสุขใจที่ได้จากงานแล้วเอาเวลาว่างที่เหลือไปทำงานที่เราถนัดและรักจริงๆ (ซึ่งงานนั้นไม่ได้เงิน) มีคนเคยบอกว่าถ้าทำสิ่งที่เรารักแล้วเงินมันจะมาเอง ตอนนี้เรากำลังทดลองทำแบบนั้นอยู่ แต่ไม่รู้ว่าจะได้เงินมาจริงๆหรือเปล่านะคะ เราก็อายุเท่าๆคุณ แต่เคยได้ยินผู้ใหญ่คนหนึ่งบอกไว้ว่าก่อน 35 ให้ล้มลุกคลุกคลาน และตัดสินใจให้มันพลาดให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ แล้วหลังจาก 35 อย่าปล่อยให้ตัวเองพลาดอีกเลย เราก็ยึดคำนั้นมาใช้ในการดำเนินชีวิตตลอด |
เป็นเรื่องจริงอย่างที่สุดเลยครับน้อง Pattra (น้องเจ๋ใช่ไหมครับ) ก่อนหน้านี้ไม่เคยคิดอะไรแบบนี้ แต่พออายุย่างจะเข้า 30 แมร่งเกิดอารมณ์อย่างที่เขาเรียกว่า Quater Life Crisis คือ มันมีคำถามโลกแตกประดังเข้ามาในชีวิตไปเสียหมด ไม่ว่าจะเรื่องชีวิตส่วนตัว เรื่องงาน หรือ เรื่องครอบครัว บางครั้งก็มีคำตอบให้กับมัน แต่บางครั้ง มันแทบจะไม่มีคำตอบเสียด้วยซ้ำ ลำพังเฉพาะเรื่องงาน คำถามของน้องหนูเรย์เป็นคำถามที่ดีครับที่จะเริ่มถามตัวเอง แต่ส่วนเรื่องว่าเราจะเลือกเส้นทางไหนนั้น ต้องตรวจสอบองค์ประกอบในชีวิตให้เรียบร้อย แล้วก็เหลือแค่เลือก กับยอมรับให้ได้กับสิ่งที่จะตามมา อยู่ที่ว่าเรากล้าที่จะเลือกและตัดสินใจทำสิ่งที่เราอยากทำไหม ถ้าน้องเจ๋ชอบเรือ่งแนวนี้ (จิตวิทยา) คุณกับพี่เอ็มยาวๆ กันเลยครับ 555+ |
ยังไงเราต้องขอขอบคุณพี่ๆน้องๆในหรอยกูมากมากนะค่ะ คือจริงๆ เว็บนี้มันสะท้อนแนวคิดที่ดีผ่านการ์ตูนอยู่แล้ว เลยกล้าตั้งคำถามท้าทาย ประชาชนแบบนี้ เพราะรุ้ว่า ต้องมีคนมาให้ความคิดเห็นที่ดีแล้วก็เป็นแบบนั้นจริงๆ ตอนนี้ได้ข้อคิดอะไรดีๆกลับไปเยอะเลย ไม่นึกว่าจะมีคนกลับมาตอบเยอะขนาดนี้ ขอบคุณค้าาา :tongue: |
อ่าคุณโอม ใช่ค่ะ เรื่อง quater life crisis น่าสนใจมากเลยค่ะขอรายละเอียดเพิ่มเติมหลังไมค์ได้ไหมคะ อยากจะเขียนบทความอยู่พอดี ด้าน nuray ยินดีด้วยนะคะที่สบายใจขึ้นแล้ว คำถามแบบนี้ถามมาอีกได้บ่อยๆเลยนะคะ ชอบมากเลยค่ะ |
อ้างอิง:
:undecided: |
อ้างอิง:
|
เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 03:45 |
vBulletin รุ่น 3.8.7
สงวนลิขสิทธิ์ ©2000-2024, บริษัท Jelsoft Enterprises จำกัด