View Full Version : นิทานพื้นบ้านภาคกลาง ความเป็นมาของตำนานชาละวัน


ChangNoi and Light
21-02-2012, 20:13
หลังจากตอนนี้แล้วในนิทานพื้นบ้านภาคกลางเราได้เล่าถึงความเป็นมาของไกรทองกันมาแล้วนะครับ แต่ผมยังไม่ได้เล่นนิทานพื้นบ้านภาคกลางในส่วนของเจ้าจระเข้ชื่อชาละวันเลย วันนี้เลยเอาเนื้อหาของชาละวันมาให้ชม ทำให้เรารู้เลยว่าก่อนมันจะเป็นนิทานพื้นบ้านภาคกลางได้นี่เค้ามีประวัติอะไรที่มันยืดยาวมากเลยทีเดียวครับ ลองอ่านลองชมดูแล้วท่านจะอยากอ่านนิทานพื้นบ้านภาคกลางขึ้นมาอีกเยอะครับ

http://board.roigoo.com/attachment.php?attachmentid=1713&stc=1&d=1329829935 (http://board.roigoo.com/tags/%E0%B8%99%E0%B8%B4%E0%B8%97%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%9E%E0%B8%B7%E0%B9%89%E0%B8%99%E0%B8%9A%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%99-%E0%B8%8A%E0%B8%B2%E0%B8%A5%E0%B8%B0%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%99.html)

ต่อยอดนิทานพื้นบ้านภาคกลางเรื่องไกรทอง
ส่วนของประวัติชาละวัน
ชาลวัน เป็นจระเข้ใหญ่เลื่องชื่อแห่งแม่น้ำน่านเก่าเมืองพิจิตร สันนิษฐานว่าเกิดขึ้นในสมัยที่พิจิตรมีเจ้าเมืองปกครองตามตำนานกล่าวว่า มีตายายสองสามีภรรยา ออกไปหาปลาพบไข่จระเข้ที่สระน้ำแห่งหนึ่ง จึงเก็บมาฟักเป็นตัวแล้วเลี้ยงไว้ในอ่างน้ำ เพราะยายอยากเลี้ยงไว้แทนลูก ต่อมาจระเข้ตัวใหญ่ขึ้นจึงนำไปเลี้ยงไว้ในสระใกล้บ้านหาปลามาให้เป็นประจำ ต่อมาตายายหาปลามาให้เป็นอาหารไม่พออิ่ม จระเข้ตัวนั้นจึงกินตายายเป็นอาหารเมื่อขาดคนเลี้ยงดูให้อาหาร จระเข้ใหญ่จึงออกจากสระไปอาศัยอยู่ในแม่น้ำน่านเก่าซึ่งอยู่ห่างจากสระตายายประมาณ ๕๐๐ เมตร แม่น้ำน่านเก่าในสมัยนั้นยังอุดมสมบูรณ์ไปด้วยพันธุ์ปลานานาชนิด และมีน้ำบริบูรณ์ตลอดปี แม่น้ำน่านเก่าขณะนั้นไหลผ่านบ้านวังกระดี่ทอง บ้านดงเศรษฐี ล่องไปทางใต้ ไหลผ่านบ้านดงชะพลู บ้านคะเชนทร์ บ้านเมืองพิจิตรเก่า บ้านท่าข่อย จนถึงบ้านบางคลาน จระเข้ใหญ่ก็เที่ยวออกอาละวาดอยู่ในแม่น้ำตั้งแต่ย่านเหนือเขตวังกระดี่ทอง ดงชะพลู จนถึงเมืองเก่า แต่ด้วยจระเข้ใหญ่ของตายายได้เคยลิ้มเนื้อมนุษย์แล้ว จึงเที่ยวอาละวาดกัดกินคนทั้งบนบกและในน้ำไม่มีเว้นแต่ละวัน จึงถูกขนานนามว่า ?ไอ้ตาละวัน? ตามสำเนียงภาษาพูดของชาวบ้านที่เรียกตามความดุร้ายที่มันทำร้ายคน ไม่เว้นแต่ละวัน ต่อมาก็เรียกเพี้ยนเสียงเป็น ?ไอ้ชาละวัน? และเขียนเป็น ?ชาลวัน? ตามเนื้อเรื่องในพระราชนิพนธ์ของรัชกาลที่ ๒ชื่อของชาลวันแพร่สะพัดไปทั่วเพราะเจ้าชาลวันไปคาบเอาบุตรสาวคนหนึ่งของเศรษฐีเมืองพิจิตรขณะกำลังอาบน้ำอยู่ที่แพท่าน้ำาหน้าบ้าน เศรษฐีจึงประกาศให้สนบนหลายสิบชั่ง พร้อมทั้งยกลูกสาวที่มีอยู่อีกคนหนึ่งให้แก่ผู้ที่ฆ่าขาลวันได้ ไกรทอง พ่อค้าจากเมืองล่าง สันนิษฐานว่าจากเมืองนนทบุรี รับอาสาปราบจระเข้ใหญ่ด้วยหอกลงอาคมหมอจระเข้ถ้ำชาลวัน สันนิษฐานว่าอยู่กลางแม่น้ำน่านเก่า

http://board.roigoo.com/attachment.php?attachmentid=1712&stc=1&d=1329829935 (http://board.roigoo.com/tags/%E0%B8%99%E0%B8%B4%E0%B8%97%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%9E%E0%B8%B7%E0%B9%89%E0%B8%99%E0%B8%9A%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%99-%E0%B8%8A%E0%B8%B2%E0%B8%A5%E0%B8%B0%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%99.html)

ปัจจุบันอยู่ห่างจากที่พักสงฆ์ถ้ำชาลวัน บ้านวังกระดี่ทอง ตำบลย่านยาว ไปทางใต้ประมาณ ๓๐๐ เมตร ทางลงปากถ้ำเป็นโพรงลึกเป็นรูปวงกลมมีขนาดพอดีจระเข้ขนาดใหญ่มากเข้าได้อย่างสบาย คนรุ่นเก่าได้เล่าถึงความใหญ่โตของชาลวันว่า เวลามันอวดศักดาลอยตัวปริ่มน้ำขวางคลอง ลำตัวของมันจะยาวคับคลอง คือหัวอยู่ฝั่งนี้ หางอยู่ฝั่งโน้นเรื่องชาลวันเป็นเรื่องที่เลื่องลือมาก จนล้นเกล้าฯ รัชกาลที่ ๒ พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัยทรงพระราชนิพนธ์บทละครนอกเรื่อง ?ไกรทอง? และให้นามจระเข้ใหญ่ ?พญาชาลวัน?