View Full Version : ความรู้เกี่ยวกับวิธีทําให้ผิวขาวโดยกลูต้าไธโอน


JigSaW
04-03-2012, 21:04
สมัยนี้มีวิธีทำให้ผิวขาวมาใหม่เลยค่ะส่วส่วหลายคนชอบเหลือเกินกับการฉีดกลูต้าไธโอน ไม่น่าเชื่อว่าเพื่อนๆหลายคนที่เราเห็นนั้นเคยฉีดกันมาแล้วทั้งนั้นค่ะ วิธีทำให้ผิวขาวแบบนี้มันจะดีอย่างนั้นจริงหรือ วันนี้มีนายแพทย์มาให้ความรู้เรื่องกลูต้าไธโอนค่ะว่ามีข้อห้ามหรืออะไรอย่างไรบ้าง คนที่ป่วยอะไรที่ห้ามฉีดกลูต้าไธโอน ลองอ่านดูค่ะบทความข่าวนี้เขียนได้ดีเลยทีเดียว

http://board.roigoo.com/attachment.php?attachmentid=1949&stc=1&d=1330869844



ผู้อำนวยการศูนย์ผิวหนังมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ระบุสาร กลูต้าไทโอน ไม่ใช่สารพิษที่ประชาชนหลายคนเข้าใจตามกระแสข่าวที่เกิดขึ้นในระยะนี้ ทั้งยังเป็นสารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย ทำให้ร่างกายเกิดความสมดุล และยังเป็นตัวขจัดของเสียหรือสารพิษที่เข้าสู่ร่างกาย ฝากถึงนักวิจัยที่ทำงานด้านยาหรือการรักษา หากต้องการใช้ยาประเภท กลูต้าไทโอน ควรจะทำการวิจัยให้จริงจัง

ศ.นพ.ปิติ พลังวชิรา ผู้อำนวยการศูนย์ผิวหนังมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ (มศว) กล่าวถึงสารกลูตาไทโอน (glutathione) ว่า คนไทยจำนวนไม่น้อยที่รู้สึกไม่ดีกับสารตัวนี้ คนจำนวนมากเข้าใจพิษคิดว่าสารตัวนี้เป็นสารพิษ ซึ่งในความเป็นจริงสาร กลูตาไทโอน เป็นสารแอนติออกซิเดนซ์ หรือสารที่ต้านอนุมูลอิสระ ร่างกายมนุษย์จะได้รับสารชนิดนี้จากการบริโภคอาหารประเภทโปรตีน ไข่และนม รวมถึงผลไม้ประเภท อะโวคาโด และจะถูกเก็บไว้ที่ตับ ทั้งนี้ สาร กลูตาไทโอน นี้ เป็นสารที่มีประโยชน์ต่อร่างกายทำให้ร่างกายเกิดความสมดุล โดยเฉพาะเมื่อร่างกายต้องรับสารอนุมูลอิสระเข้าไป สารต้านอนุมูลอิสระก็จะช่วยปรับให้สภาพร่างกายเกิดความสมดุล และยังเป็นตัวขจัดข้อเสีย หรือสารพิษที่เข้าสู่ร่างกาย ตั้งแต่สารปรอท ยาฆ่าแมลง หรือยาบางชนิดที่เราต้องกินเข้าไป และเหลือตกค้าง ตับจะทำหน้าที่ขับสารพิษออกมาโดยสารกลูต้าไทโอนมีบทบาทสำคัญ

ดังนั้น จึงอยากทำความเข้าใจว่า ยาที่มีส่วนส่วนประกอบของ กลูตาไทโอน ไม่ได้น่ากลัว ยาที่อยู่ในกลุ่มของยากินนั้นในต่างประเทศมีขายอยู่ตามร้านขายยาทั่วๆ ไป ในเมืองไทยสาร กลูตาไทโอน อยู่ในผลิตภัณฑ์เสริมสุขภาพ แต่ยาที่อยู่ในรูปของการฉีด เพื่อรักษาฝ้านั้นในเมืองไทยยังไม่มีการวิจัย จึงอยากฝากถึงนักวิจัยที่ทำงานด้านยาหรือการรักษา หากต้องการใช้ยาประเภท กลูต้าไทโอน ควรจะได้ทำการวิจัยให้จริงจัง

?ระดับ กลูตาไทโอน ของคนที่ป่วยด้วยโรคบางชนิด เช่น โรคทางสมอง อย่างพากินซัน โรคหัวใจบางชนิดหรือบางคนกินยาแก้ปวดอย่างพาราเซตามอลบ่อยๆ ความเครียด หรือคนที่ได้รับสารพิษบ่อยๆ ระดับ กลูต้าไทโอน จะลดลง การกินยาที่มีสารประเภท กลูต้าไทโอน จะถูกซึมเข้าสู่ร่างกายได้น้อยกว่าการฉีด ซึ่งทำให้ผู้ที่ใช้ยาประเภทนี้นิยมฉีด และที่สำคัญ ต้องฉีดเข้าเส้นเลือด ซึ่งต้องอยู่ในความดูแลของแพทย์ที่มีความรู้ความชำนาญ นอกจาก ฉีด เข้าเส้นแล้วยังสามารถฉีดเข้ากล้ามเนื้อ หรือใช้สูดดมได้อีกด้วยขึ้นอยู่กับโรคในแต่ละโรคว่าเหมาะกับการใช้ยาชนิดนี้ด้วยวิธีการไหน

http://board.roigoo.com/attachment.php?attachmentid=1950&stc=1&d=1330869844


อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยา กลูตาไทโอน ที่ใช้ในการรักษาฝ้านั้น ยังถือว่าผิดกฎหมาย เพราะการนำเข้ายาประเภทนี้เข้ามายังไม่ได้ขึ้นทะเบียน อย. และหากจะใช้ยาชนิดนี้เพื่อรักษาฝ้าควรจะนำเข้ามาให้ถูกกฎหมายและขึ้นทะเบียนยาให้ถูกต้องด้วย ถ้าต้องนำมาใช้ในการรักษาฝ้าควรจะมีการค้นคว้าวิจัย ซึ่งคนที่เป็นฝ้าจำนวนมากพอใจกับการรักษาด้วยยา กลูต้าไทโอน เนื่องจากกลูต้าไทโอนจะไปเปลี่ยนยูเมลานินซึ่งเป็นสีผิวที่คล้ำ ให้กลายเป็นฟีโอเมลานิน ซึ่งจะทำให้สีผิวจางหรือขาวขึ้น