View Full Version : ชีวิตนี้เก่งอย่างเดียวก็พอครับ (อยากให้น้องน้องอ่าน)


ohmohm
24-05-2012, 21:44
ชีวิตนี้เก่งอย่างเดียวก็พอครับ
(อยากให้น้องน้องอ่าน)

อยากให้น้องน้องอ่านกระทู้นี้กันทุกคนครับ อยากจะบอกว่าระบบการศึกษาบ้านเราตอนนี้มันผิดมหันเลยทีเดียวในเรียนการสอน เพราะมันไม่ได้สอนให้คนทำตามความฝันของตัวเองอยากถึงที่สุด แต่มันสอนให้คนเราเรียนจบและทำงานเป็นลูกจ้างคนอื่นเท่านั้น น้องน้องหลายคนอาจจะคิดว่าเออแนวคิดเรื่องเรียนมาจบมาทำงานในบริษัทมันก็มั่นคงดีนิ ไม่เห็นมันจะแปลกตรงไหน

การเรียนแล้วมีงานทำนั้นหมายความว่าอะไรครับ ต้องเรียนคณะที่มีงานใช้ไหมครับ งานที่เค้ารับแต่ลูกจ้างเท่านั้น ซึ่งอันที่จริงแล้วบางคณะเรียนไปแล้วเป็นได้มากกว่าลูกจ้างด้วยซ้ำ แต่ถ้าเรามีความมั่นใจในฝีมือของเรา ขอบอกว่าการเป็นนายตัวเองมีโอกาสได้อนาคตที่สดใสมากกว่ามากครับ

http://i.dailymail.co.uk/i/pix/2011/07/17/article-0-0D0CF71900000578-832_634x356.jpg

เล่นแต่พอเสมอตัว ไม่ต้องเสี่ยง แต่ไม่มีทางก้าวไปข้างหน้าได้ เพราะฉะนั้นอย่า Save Par หลายครั้งเกินไป



การทำงานเป็นลูกจ้างเหมือนกับการเล่นกอล์ฟแบบ Save Par ครับ นั้นก็คือเล่นแบบเสมอตัว ไม่ได้เสี่ยงอะไรไปมากกว่านั้น และคงดีกว่านั้นไปไม่มาก แต่ถ้าหวัง Hole in One ต้องมีความฝันครับ ความฝันจะนำน้องน้องมาสู้ความกล้าที่จะเดินตามมัน การเรียนฟิสิก คณิตเก่ง ไม่ได้ช่วยให้เราประกอบอาชีพเก่งเลย มันพียงแต่ดันให้เราได้อยู่คณะดีๆมหาวิทยาลัยดีๆเท่านั้น

เคยสังเกตไหมครับ บางคนทำขนมเก่ง วาดรูปเก่ง ทำกราฟฟิกเก่ง ทำไมเค้ามีแค่นี้เค้าถึงทำงานเลี้ยงชีพมีเงินแถมทำฝันของตัวเองได้ เพราะเค้ามีความกล้าที่จะทำตามความฝันครับ แถมเขายังมีความรักในสิ่งสิ่งเดียวและก้าวไปถึงที่สุด โดยไม่หันเหไปตามคำบอกเล่าของคนอื่นว่า ทำแบบนี้ไม่มั่นคง อดตาย เราต้องมั่นคงครับความพยายามพิสูจน์ตัวเองนั้น และเราต้องทำงานหนักถึงจะพิสูจน์ตัวเองให้คนอื่นเข้าใจ

http://www.konsilia.es/eng/wp-content/uploads/2012/04/messi031.jpg
ซ้อมหนัก ตั้งใจ และแก้ไขปัญหา
อยากวิ่งเร็วต้องวิ่งให้เยอะ วิ่งให้เป็น วิ่งให้ถูกวิธี ไม่ใช่ก้มหน้าก้มตาวิ่ง


เหมือนเมสซี่ นักฟุตบอลระดับโลก น้องน้องคิดว่าเขาซ้อมบอลเหมือนเพื่อนๆเข้าหรือไม่ ไม่เลยครับเขาซ้อมเยอะกว่านักบอลคนอื่นๆ ตั้งใจกว่านักบอลคนอื่นๆ ทุ่เทมากกว่า ตอนแข่งก็วิ่งมากกว่า ตั้งใจมากกว่า พร้อมมากกว่า ความตั้งใจทำสิ่งที่ตัวเองรักสำคัญที่สุดครับ อย่ากลัวกับคำด่าทอของคนอื่นขอให้สู้ต่อไปในทางของตัวเอง ทำให้ดีที่สุด

พัฒนาตัวเองไปเรื่อยๆเรายังเก่งได้อีก ต้องคิดแบบนี้ครับ เรายังเก่งได้อีก อุปสรรค์คือสิ่งพิสูจน์ความสามารถที่เพิ่มขึ้นของพวกเรานั้นเองแหละครับ

Naoshima
24-05-2012, 22:12
คิดว่าชีวิตต้องมีเสียงกันบ้างครับ จะพยายามทำตามฝันให้เต็มที่ ชีวิตนี้ไม่คิดอยากจะเป็นลูกจ้างใครจริง ๆ (แต่ถ้าไม่เก้บเกี่ยวประสบการณ์เลยคิดว่าคงไม่ไหวเหมือนกัน) แล้วก็เห้นด้วยกับเรื่องการศึกษาไทยนะครับ ดูอย่างคนต่างประเทศสิ เรียนน้อยกว่า เวลาว่างเยอะกว่า ทำไมถึงมีคุณภาพมากกว่าไทยได้ (ถึงจะไม่ใช้ทุกคนก็ตาม คนไทยเก่ง ๆ ก็มี)

bankbcool
03-08-2012, 07:43
ชีวิตเราทุกคนล้วนแล้วแต่ต้องพบกับความเสี่ยง อยู่ที่ว่าจะเสี่ยงมากเสี่ยงน้อยก็เท่านั้น ดังคำโฆษณาที่กล่าวไว้ว่า"หากคุณกล้าที่จะเสี่ยง ก็มีสิทธิ์ที่จะประสบความสำเร็จ" ความสำเร็จทุกอย่างล้วนต้องเริ่มต้นจากตัวเราเอง เพียงแค่เรามีการตั้งความหวังหรือจุดมุ่งหมาย และพยายามที่จะไปให้ถึงฝั่งฝันในสิ่งมี่เราชอบและรัก นี่ถึงจะเรียกว่าความสุขที่แท้จริง บางทีสิ่งที่เราเรียกว่าแพทเทิร์นหรือรูปแบบที่ทำตามกันมาอาจจะดูเหมือนง่ายและไม่ต้องเสี่ยงอะไร แต่นั่นคือสิ่งที่เราชอบหรือรักหรือเปล่า ในทางกลับกัน หากเรากล้าที่จะปลีกตัวออกจากรูปแบบเดิมเดิม เพื่อที่จะทำตามความฝันหรือสิ่งที่เรารัก เราก็จะสามารถพบกับความแตกต่างในชีวิต ซึ่งเป็นสิ่งที่น่าจะจดจำมากกว่า ทางเดินในชีวิตย่อมมีให้เลือกหลายทางเสมอ อยู่ที่ว่าเราจะเดินทางไหน...

M150
03-08-2012, 09:01
ถ้าหากพูดถึงเรื่องความฝันแล้ว พี่เชื่อว่าทุกคนมีความฝัน ส่วนความฝันของแต่ละคนจะเป็นจริงได้ไหม ขึ้นอยู่กับว่าแต่ละคนมีความปรารถนาและแรงผลักดันภายที่อยากจะให้ความฝันของเราเหล่านั้นมันเป็นจริงขนาดไหน เพราะสิ่งที่ต้องยอมรับอย่างหนึ่งคือ แต่ละคนมีความสามารถและต้นทุนชีวิตที่ไม่เหมือนกัน ดังนั้นจากหัวข้อที่คุณโอมพูดถึงมา เรื่อง ความเก่ง บางครั้งก็อาจจะไม่ใช่ตัวแปลที่จะทำให้เขาเหล่านั้นประสบความสำเร็จได้ มันมีรายละเอียดปลีกย่อยอีกหลายๆ อย่างเช่น โอกาส จังหวะ การสนับสนุนของบุคคลรอบข้าง บางครั้งก็มีเรื่องโชคมาเกี่ยวข้องด้วยอีก แต่สิ่งที่พี่มองว่าสำคัญที่สุดมากกว่าเรื่องความเก่ง ก็คือ "การรู้ว่าตัวเองชอบอะไร" เพราะหากเรารู้ว่าตัวเองชอบอะไรจริงๆ แล้ว แค่เราได้ทำเราก็มีความสุขแล้ว หากแต่ผลิกมุมคิดนิดหน่อยแปลผันให้ความชอบของตัวเองเป็นธุรกิจ ได้ทำอะไรที่มีความสุขและมีรายได้รายรับจากมัน พี่เชื่อว่า หากทำได้ มันคือความฝันของคนครึ่งหนึ่งบนโลกนี้แล้วหละครับ

ohmohm
03-08-2012, 09:02
ไม่น่าเชื่อว่ายังมีน้องน้องมาทยอยอ่านกระทู้นี้กันอีก ขอบคุณที่มาอ่านกันครับ

ที่พี่เขียนบทความนี้ขึ้นมาเพื่อปลุกแรงบันดาลใจในตัวน้องน้อง ว่าอยากทำอะไร

ให้รีบทำเลย บางทีมันอาจไม่เท่ อาจไม่มีใครเชื่อชม คนเราก็งี้แหละครับชื่นชม

คนเมื่อยามที่เขาสำเร็จ เพราะฉะนั้น เต็มที่กับชีวิตนะครับน้องๆไฟในตัวเรามีทุกคน

taira
03-08-2012, 12:54
เป็นกระทู้ที่ดีมากๆค่ะ คนส่วนใหญ่มักจะคิดว่าการเป็นลูกจ้างประจำนั้นมั่นคง แต่เราเองกลับคิดว่า มันจะมั่นคงได้ยังไงในเมื่อเรากำหนดอะไรเองไม่ได้ แม้กระทั่งการทำงาน ให้ทำอะไรก็ต้องทำ ทำไม่ดีก็อาจถูกไล่ออก เงินเดือนก็กำหนดเองไม่ได้ เปรียบเสมือนการเอาตัวเองเข้าไปอยู่ในกรงขัง (เคยทำงานออฟฟิศมาก่อน) เราทำงานดีก็ใช่ว่าจะได้ดีนะคะ ทำดีอาจจะพ่ายแพ้คนที่เลียเก่งแต่ไม่ทำงาน (ประสบการณ์ตรง) เราโชคดีที่ได้ทำงานในบริษัทที่มีผู้ร่วมงานที่ห่วย ขี้เกียจ เอาเปรียบ เราก็เลยลาออก ปัจจุบันดีใจมากที่มีชีวิตอิสระ ได้ทำงานที่ชอบ เหนื่อยขี้เกียจก็หยุดได้ไม่ต้องเขียนใบลา อาจจะกรอบในช่วงที่ขี้เกียจแต่ไม่เคยอดอยาก

ไม่ว่าความฝันอะไร ถ้าเราไม่ทิ้งมันไปเสียก่อน ฝันก็จะไม่ทิ้งเราเหมือนกัน
เป็นกำลังใจให้คนที่กำลังเดิมตามความฝันนะคะ

taira
03-08-2012, 12:56
ยุคสมัยเปลี่ยนไปแล้วค่ะ อย่ายึดติดกับอะไรเดิมๆ เดี๋ยวนี้อาชีพใหม่ๆ เกิดขึ้นแทบจะทุกวัน อยู่ที่ความคิดสร้างสรรค์ค่ะ

NuRay
03-08-2012, 14:05
ความฝันของแต่ละคนแตกต่างกันนะค่ะ อย่ากลัวเมื่อมีคนมาดูถูกความฝันของเรา
โลกวันนี้เปลี่ยนไปแล้วค่ะ ไม่ว่าเราจะอยู่ส่วนไหนของโลกกำลังทำอะไรอยู่เรา
สามารถฝันได้ ทำได้ สู้เพื่อความฝัน โลกของการเรียนแล้วทำงานพนักงาน
หรือราชการ อาจใช่ได้ยากในโลกในยุคสมัยนี้ที่งานมีน้อย ไม่ดีกว่าหรือค่ะที่้เรา
จะได้ทำงานที่ตัวเองฝัน แต่ความยากมันอยู่ที่ใจของเราต้องเต็มที่กับมัน
และอาจไม่ได้ง่ายเหมือนกับที่เราคิดแน่นอนค่ะ

M150
03-08-2012, 14:27
เป็นกระทู้ที่ดีมากๆค่ะ คนส่วนใหญ่มักจะคิดว่าการเป็นลูกจ้างประจำนั้นมั่นคง แต่เราเองกลับคิดว่า มันจะมั่นคงได้ยังไงในเมื่อเรากำหนดอะไรเองไม่ได้ แม้กระทั่งการทำงาน ให้ทำอะไรก็ต้องทำ ทำไม่ดีก็อาจถูกไล่ออก เงินเดือนก็กำหนดเองไม่ได้ เปรียบเสมือนการเอาตัวเองเข้าไปอยู่ในกรงขัง (เคยทำงานออฟฟิศมาก่อน) เราทำงานดีก็ใช่ว่าจะได้ดีนะคะ ทำดีอาจจะพ่ายแพ้คนที่เลียเก่งแต่ไม่ทำงาน (ประสบการณ์ตรง) เราโชคดีที่ได้ทำงานในบริษัทที่มีผู้ร่วมงานที่ห่วย ขี้เกียจ เอาเปรียบ เราก็เลยลาออก ปัจจุบันดีใจมากที่มีชีวิตอิสระ ได้ทำงานที่ชอบ เหนื่อยขี้เกียจก็หยุดได้ไม่ต้องเขียนใบลา อาจจะกรอบในช่วงที่ขี้เกียจแต่ไม่เคยอดอยาก ไม่ว่าความฝันอะไร ถ้าเราไม่ทิ้งมันไปเสียก่อน ฝันก็จะไม่ทิ้งเราเหมือนกัน เป็นกำลังใจให้คนที่กำลังเดิมตามความฝันนะคะ

ไม่น่าเชื่อเลยนะครับว่าน้องเคยผ่านการทำงานมาแล้ว นึกว่ายังเป็นเด็กเล็กเด็กวัยรุ่นน่ารักอยู่ เห็นแบบนี้แล้วจะมาเป็นกระบอกเสียงและเป็นกำลังใจให้กับทุกคนที่มความฝันครับ ท้อได้ถอยได้ แต่อย่าละทิ้งตัวตนและความฝันของตัวเองไปเสียครับ ยังมีคนที่คอยเป็นกำลังใจอีกเยอะ ไม่เชื่อลองมองรอบๆ ตัวดูสิครับ !?!

taira
03-08-2012, 15:32
ไม่น่าเชื่อเลยนะครับว่าน้องเคยผ่านการทำงานมาแล้ว นึกว่ายังเป็นเด็กเล็กเด็กวัยรุ่นน่ารักอยู่ เห็นแบบนี้แล้วจะมาเป็นกระบอกเสียงและเป็นกำลังใจให้กับทุกคนที่มความฝันครับ ท้อได้ถอยได้ แต่อย่าละทิ้งตัวตนและความฝันของตัวเองไปเสียครับ ยังมีคนที่คอยเป็นกำลังใจอีกเยอะ ไม่เชื่อลองมองรอบๆ ตัวดูสิครับ !?!

555 คิดว่ายังเด็กอยู่ เพราะฝีมือ ยังดูเหมือนเด็กวาดใช่ไหมคะ เป็นกำลังใจให้ทุกๆคนเลยนะคะ การทำความฝันให้เป็นจริงอาจจะดูยากสำหรับใครบางคน ค่อยๆเริ่ม ก็ได้ค่ะ แต่ต้องทำให้ได้ในตอนที่เรายังมีกำลัง

ทุกวันนี้ทำงานก็เหมือนไม่ได้ทำ ค่ะ เพราะงานก็คืองานอดิเรก มีเวลานอนกลางวัน ดูหนัง ได้แทบทั้งวัน ถ้าขยันเหมือนตอนทำงานออฟฟิศก็คงจะรวย 55555 คนมองว่าเราขี้เกียจ นอนตื่นสาย แต่ไม่แคร์ค่ะ เพราะเราไม่ได้ขอเงินใครใช้ แถมรายได้ดีกว่าเป็นลูกจ้างตอนอยู่ออฟฟิศเสียอีก

มีข้อคิดสำหรับคนที่ลาออกจากงานประจำมาแล้ว หรือคิดจะมาทำงานอิสระ ถ้าเจอปัญหา อย่าหนีปัญหานะคะ ปัญหาทุกอย่างต้องมีทางออก หากเราติดนิสัยหนีปัญหาแล้วไม่ว่าจะทำอะไรก็ยากที่จะประสบความสำเร็จได้ การทำงานไม่ว่างานอะไรก็ต้องเจอกับปัญหาทั้งนั้น

อ่านหนังสือ พ่อรวยสอนลูก ให้แง่คิดดีมากๆ แนะนำให้อ่าน:kiss: