View Full Version : วันวาเลนไทน์ วันที่ใครหลายคนรอคอย ขอให้มีความสุขเจ้าค่ะ


poohba
30-05-2012, 06:16
แหม ปีหนึ่งมีวันสำคัญหลายวันเหมือนกันนะ แต่เชื่อว่า แทบทุกคนคงรอวันนี้เป็นแน่ วันที่ความรักเบ่งบาน ก็วันวาเลนไทน์ ไงล่ะจ๊ะ วัยหนุ่มสาว ตลอดจนวัยกลางคนที่มีความรัก มักใช้วันนี้ในการมอบของขวัญ ดอกไม้ ตุ๊กตา ช็อกโกแลต หรืออกไปทานอาหารด้วยกัน ซึ่งในวันนี้ เรามักเห็นร้านดอกไม้ขายดีมาก เห็นคนเดินกันเป็นคู่ มองแล้วอยากให้ทุถกวันเป็นวันวาเลนไทน์จังเลย ส่วนใครที่ไม่มีคู่ วันวาเลนไทน์คงเหงาเปล่าเปลี่ยว อย่าเพิ่งหมดหวังเนอะ เพราะเราสามารถมอบความรักให้กับครอบครัว พ่อ แม่ ญาติพี่น้อง เพื่อน โดยไม่จำเป็นต้องเป็นความรักแบบชายหนุ่มหญิงสาวก็ได้เนอะ

http://board.roigoo.com/members/ohmohm-albums-%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%AA%E0%B8%B3%E0%B8%84%E0%B8%B1%E0%B8%8D+24513-picture4620-%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%AA%E0%B8%B3%E0%B8%84%E0%B8%B1%E0%B8%8D1.jpg (http://board.roigoo.com/members/ohmohm-albums-%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%AA%E0%B8%B3%E0%B8%84%E0%B8%B1%E0%B8%8D+24513-picture4620-%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%AA%E0%B8%B3%E0%B8%84%E0%B8%B1%E0%B8%8D1.html)
http://board.roigoo.com/attachments/education-zone/3293d1338532002-%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B9%80%E0%B8%A5%E0%B8%99%E0%B9%84%E0%B8%97%E0%B8%99%E0%B9%8C-%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B9%83%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%84%E0%B8%99%E0%B8%A3%E0%B8%AD%E0%B8%84%E0%B8%AD%E0%B8%A2-%E0%B8%82%E0%B8%AD%E0%B9%83%E0%B8%AB%E0%B9%89%E0%B8%A1%E0%B8%B5%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%AA%E0%B8%B8%E0%B8%82%E0%B9%80%E0%B8%88%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%84%E0%B9%88%E0%B8%B0-%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B9%80%E0%B8%A5%E0%B8%99%E0%B9%84%E0%B8%97%E0%B8%99%E0%B9%8C45%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B9%80%E0%B8%A5%E0%B8%99%E0%B9%84%E0%B8%97%E0%B8%99%E0%B9%8C.jpg?stc=1

กำเนิด วันวาเลนไทน์ เทศกาลวาเลนไทน์ เริ่มมีขึ้นตั้งแต่ยุคที่จักรวรรดิโรมันเรืองอำนาจ ในยุคนั้น
วันที่ 14 กุมภาพันธ์ของทุกปี ถูกจัดให้เป็นวันหยุด เพื่อเป็นเกียรติแต่เทพเจ้าจูโน่ผู้เป็นจักรพรรดินีแห่งเทพเจ้าโรมัน นอกจากนี้แล้วพระองค์ยังทรงเป็นเทพเจ้าแห่งอิสตรีเพศและการแต่งงาน และในวันถัดมา คือวันที่ 15 กุมภาพันธ์ เป็นวันเริ่มต้นเทศกาลเฉลิมฉลองแห่งลูเพอร์คาร์เลีย การดำเนินชีวิตของหนุ่มสาวจะถูกตัดขาดออกจากกันอย่างสิ้นเชิง อย่างไรก็ตาม มีขนบธรรมเนียมอย่างหนึ่งของชายหนุ่มก็คือ การจับฉลาก ในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ ก่อนที่จะเริ่มต้นเทศกาลลูเพอร์คาร์เลีย ชื่อของเด็กสาวจะถูกเขียนลงในเศษกระดาษและใส่ลงในไห ชายหนุ่มแต่ละคนจะจับฉลากเพื่อเลือกคู่ในเทศกาลเฉลิมฉลองนี้ บ่อยครั้งที่หนุ่มสาวต่างถูกใจกัน และแต่งงานกันในเวลาต่อมา

http://board.roigoo.com/attachments/3293d1338531966-%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B9%80%E0%B8%A5%E0%B8%99%E0%B9%84%E0%B8%97%E0%B8%99%E0%B9%8C45%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B9%80%E0%B8%A5%E0%B8%99%E0%B9%84%E0%B8%97%E0%B8%99%E0%B9%8C.jpg (http://board.roigoo.com/tags/%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B9%80%E0%B8%A5%E0%B8%99%E0%B9%84%E0%B8%97%E0%B8%99%E0%B9%8C.html)


ในรัชสมัย ของจักรพรรดิคลอดิอัสที่ 2 แห่งโรม พระองค์ทรงเป็นกษัตริย์ที่มีใจคอดุร้าย และทรงนิยมการทำสงครามนองเลือด ได้ทรงตระหนักว่าเหตุที่ชายหนุ่มส่วนมาก ไม่ประสงค์จะเข้าร่วมในกองทัพ เนื่องมาจาก ไม่อยากจากคู่รัก และครอบครัวไป จึงทรงมีพระราชโองการสั่งห้ามมิให้มีการจัดพิธีหมั้น และแต่งงานกันในโรมโดย เด็ดขาด ทำให้ประชาชนทุกข์ใจเป็นอย่างยิ่ง ขณะนั้นเอง พระรูปหนึ่งนามว่า เซนต์วาเลนไทน์ซึ่งอาศัยอยู่ในโทรม ได้ร่วมมือกับเซนต์มาริอัส จัดพิธีแต่งงานให้กับชาวคริสต์หลายคู่ และด้วยความปรารถนาดีของท่านนี้เอง จึงทำให้ท่านถูกตัดสินประหารชีวิตโดยเจ้าหน้าที่บ้านเมือง ในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ ค.ศ.270 ซึ่งตรงกับเทศกาลลูเพอร์คาร์เลีย ตามประเพณีโบราณพอดี ณ โอกาสนี้เอง กลุ่มคนนอกศาสนาได้รื้อฟื้นประเพณีจับฉลากขึ้นมาใหม่ โดยชายหนุ่มจะเป็นผู้เขียนชื่อหญิงสาวลงไปด้วยตัวเอง ต่อมาพระในนิกายโรมันคาทอลิกจึงเลือกให้วันที่ 14 กุมภาพันธ์ เป็นวันเฉลิมฉลองเทศกาลแห่งความรัก และดูเหมือนว่ายังคงเป็นธรรมเนียม ที่ชายหนุ่มจะเลือกหญิงสาวที่ตนเองพึงใจในวันวาเลนไทน์ สืบต่อกันมาจนถึงทุกวันนี้


ประวัติวันวาเลนไทน์
มีผู้นำคริสตชนคนหนึ่งชื่อ "วาเลนตินัส" เขาเป็นคนที่มีความรักและความเมตตาต่อเพื่อนมนุษย์มาก โดยทุกๆ วันเขาจะแอบนำอาหารและของใช้ที่จำเป็นไปวางไว้ประตูหน้าบ้านของคนยากจนโดย ไม่ให้คนเหล่านั้นรู้ ซึ่งในสมัยนั้น ศาสนาคริสต์ยังไม่เป็นที่ยอมรับในจักรวรรดิโรมัน และถือว่าใครที่นับถือศาสนาคริสต์จะมีความผิดร้ายแรงมาก พวกคริสตชนจึงถูกข่มเหงและทารุณกรรมอย่างหนัก เพื่อบังคับให้เลิกนับถือศาสนาคริสต์ ใครที่ไม่ยอมเลิกนับถือคริสต์จะถูกทรมานและฆ่าทิ้ง วาเลนตินัสก็รวมอยู่ในกลุ่มขบวนการถูกขู่เข็ญและทรมานบังคับให้เลิกนับถือ ศาสนาคริสต์ แต่เขาไม่ยอม จึงถูกจับเข้าคุกในข้อหาเป็นคริสตชน


ในขณะที่วาเลนตินัสถูกจับขังคุกนั้น เขาได้พบรักกับสาวตาบอดซึ่งเธอเป็นลูกสาวของผู้คุมในนั้น และด้วยความรักและคำอธิษฐานของเขา พระเจ้าได้ทรงโปรดรักษาตาของคนรักของเขาให้หายเป็นปกติ จากเหตุการณ์นี้เอง จึงทำให้ผู้คุมและครอบครัวของเขาหันมานับถือพระเจ้าของชาวคริสต์ ต่อมาเรื่องนี้รู้ถึงจักรพรรดิคลอดิอุสที่ 2 ของโรม พระองค์ทรงกริ้วมาก จึงได้สั่งลงโทษวาเลนตินัสอย่างหนักด้วยการโบยและนำไปประหารชีวิตด้วยการตัด ศีรษะ


ในคืนสุดท้ายก่อนที่เขาจะถูกนำไปประหารนั้น วาเลนตินัส ได้เขียนจดหมายสั้นๆ เป็นการอำลา เพื่อส่งไปให้หญิงคนรักของเขา และลงท้ายในจดหมายว่า "จากวาเลนไทน์ของเธอ"


รุ่งเช้าวันที่ 14 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 270 วาเลนตินัสก็ถูกนำไปตัดศีรษะ และเอาศพไปฝังไว้ที่เฟลมิเนี่ยนเวย์ ซึ่งภายหลังมีการสร้างโบสถ์หลังใหญ่คร่อมสุสานของเขาไว้เพื่อเป็นอนุสรณ์ รำลึกถึงชีวิตและความรักอันยิ่งใหญ่ของเขา ด้วยเหตุนี้ จึงทำให้คนทั่วไปประทับใจกับความรักของเขา และยึดถือเอาวันที่ 14 กุมภาพันธ์ของทุกปี เป็น "วันวาเลนไทน์" ภาษาอังกฤษเรียกว่า Saint Valentine?s Day หรือ Valentine?s Day หรือ "วันแห่งความรัก"


วันแห่งความรักที่ใครหลายคนรอคอย เพื่อจะได้บอกรัก เพื่อจะได้มอบช่อดอกไม้ เพื่อจะได้ซื้อของขวัญที่พิเศษๆ แก่คนที่เรารัก หรือเพื่อที่จะรับสิ่งเหล่านั้นในวันพิเศษนี้ด้วยเช่นเดียวกัน และก็อาจจะแตกต่างจากใครบางคน ที่เฝ้าฝันให้วันวันนี้ คือวันโชคดีที่จะได้พบเจอคนรักที่รอคอยมานานแสนนาน


มันจึงเป็นวันสากลที่ใครหลายล้านคนบนโลกใบนี้ เจาะจงเลือกให้เป็นวันที่พิเศษสุดสำหรับความรักที่กำลังเบ่งบานในหัวใจ แต่หารู้ไม่ว่า แท้จริงแล้ว มันเป็นวันที่มนุษย์คนหนึ่งต้องยอมเสียสละชีวิตทั้งชีวิต เพื่อให้คนที่เขารักได้มีโอกาสอยู่รอดต่อไป