View Full Version : ประวัติของชูชกหลวงปู่ขุ้ย (แค่อ่านชื่อก็แปลกแล้วชูชกหลวงปู่ขุ้ย)


ChangNoi and Light
18-06-2012, 09:00
ประวัติของชูชกหลวงปู่ขุ้ย (แค่อ่านชื่อก็แปลกแล้วชูชกหลวงปู่ขุ้ย)
ใครที่อยู่ในวงการพระอาจจะรู้จักชูชกหลวงปู่ขุ้ยเป็นอย่างดี แต่สำหรับวัยรุ่นที่ไม่ค่อยได้อยู่ในวงการนี้
ฟังชื่อชูชกหลวงปู่ขุ้ยอาจจะสงสัยว่าทำไมชื่อของพระรูปนี้ถึงได้แปลกเช่นนี้ วันนี้เรามาอ่านประวัติของ
พระท่านนี้ที่มีชื่อว่า "ชูชกหลวงปู่ขุ้ย" กันดีกว่าครับ ขอบอกว่าเราจะได้มุมมองใหม่ๆของชีวิตพอสมควร
เพราะเราอยู่ในวงการดิจิตอลกันแต่ชูชกหลวงปู่ขุ้ยอยู่ในวงการโลกของพระพุทธศาสนาและความเชื่อ

http://board.roigoo.com/attachment.php?attachmentid=3501&stc=1&d=1339984745



เงินทองไหลมา-โชคลาภเพิ่มพูน-ค้าขายร่ำรวย ?เหนือลิขิต ประกาศิตฟ้าดิน? ฉบับนี้ ขอนำท่านผู้อ่านพบกับสุดยอดวัตถุมงคล เครื่องรางชูชกเรียกทรัพย์ ชิ้นน้ำอ้อย จินดามณี หรือ ?ตาเฒ่าเจ้าทรัพย์? ซึ่งปลุกเสกอย่างเข้มขลัง โดยพระเกจิอาจารย์ ๕ แผ่นดิน นามว่า หลวงปู่ขุ้ย ฐิตธัมโม เจ้า อาวาสวัดซับตะเคียน ต.ท่าด้วง อ.หนองไผ่ จ.เพชรบูรณ์ ซึ่งท่านเป็นพระภิกษุที่มีใจใฝ่ปฏิบัติธรรมและรักษาธรรมวินัยอย่างเคร่งครัด อีกทั้งยังเป็นพระนักปฏิบัติที่เคร่งครัดในพระธรรม วินัยเป็นอย่างยิ่ง


http://board.roigoo.com/members/ohmohm-albums-%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%95%E0%B8%B41-picture1111-%E0%B8%8A%E0%B8%B9%E0%B8%8A%E0%B8%81%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%A7%E0%B8%87%E0%B8%9B%E0%B8%B9%E0%B9%88%E0%B8%82%E0%B8%B8%E0%B9%89%E0%B8%A2.jpg (http://board.roigoo.com/members/ohmohm-albums-%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%95%E0%B8%B41-picture1111-%E0%B8%8A%E0%B8%B9%E0%B8%8A%E0%B8%81%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%A7%E0%B8%87%E0%B8%9B%E0%B8%B9%E0%B9%88%E0%B8%82%E0%B8%B8%E0%B9%89%E0%B8%A2.html)


http://p2.s1sf.com/ho/0/ud/186/930489/b_02390_003.jpg




พระอธิการวิชัยรัตน์ ฐิตธัมโม หรือที่ชาวบ้านทั่วไปรู้จักดีในนาม หลวงปู่ขุ้ย ฐิตธัมโม เป็นศิษย์เอกสืบสายวิทยาคมจากพระครูวิชิตพัชราจารย์ หรือหลวงพ่อทบ อดีตพระเกจิชื่อดังแห่งเพชรบูรณ์ ถือกำเนิดในสกุล ท่อนทอง เมื่อวันที่ ๒๐ พฤษภาคม ๒๔๖๔ ที่บ้านท่ามะทัน ต.ท่าอีบุญ อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ โยมบิดา-มารดา ชื่อนายทองดีและนางทองสุข ท่อนทอง ช่วงวัยเยาว์เรียนจบชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ ที่บ้านเกิด พออายุได้ ๑๒ ขวบ บิดาถึงแก่กรรม จึงได้บรรพชาบวชหน้าไฟให้โยมบิดา แต่ด้วยความศรัทธาต่อพระพุทธศาสนาอย่างแรงกล้า แม้จะเสร็จงานศพบิดา แต่ไม่ยินยอมลาสึก ขออนุญาตโยมมารดา บวชเรียนต่อไป




http://p2.s1sf.com/ho/0/ud/186/930489/b_02390_004.jpg




ต่อมา ได้ทราบถึงกิตติศัพท์ หลวงพ่อทบ วัดพระพุทธบาท อ.ชนแดน ว่าเป็นพระเกจิอาจารย์ที่มีประชาชนเคารพนับถือมาก จึงเกิดศรัทธา เดินทางจากบ้านเกิดไปยัง อ.ชนแดน เพื่อฝากตัวเป็นลูกศิษย์อยู่รับใช้อุปัฏฐาก ตักน้ำ เทกระโถนน้ำหมาก ล้างบาตร ปัดกวาดเสนาสนะ ด้วยความเมตตาหลวงพ่อทบ จึงได้ถ่ายทอดสรรพวิชาคาถา การทำตะกรุดโทน ลงเลขยันต์คาถา ผ้ายันต์ และได้ศึกษาวิปัสสนากัมมัฏฐานและกำหนดจิต มีความรู้แก่กล้าตามลำดับ สามารถเสกข้าวสารให้ไก่กิน และศึกษาเรียนรู้ในการจัดสร้างพระกริ่ง หล่อ ตามประเพณีโบราณ ผลสัมฤทธิ์ได้เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้สามเณรขุ้ยมีความชำนาญอย่างยิ่ง ครั้นอายุได้ ๒๒ ปี จึงเข้าพิธีอุปสมบท ที่วัดศรีมงคล อ.หล่มสัก เมื่อวันที่ ๔ มีนาคม ๒๔๘๖ โดยมีพระมหาหยวก เจ้าคณะอำเภอหล่มสัก เป็นพระอุปัชฌาย์, พระอธิการคำปัน เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระอธิการวันดี เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายาว่า ฐิตธัมโม หมายความว่า ผู้มีจิตใจตั้งมั่นในธรรม ภายหลังอุปสมบท อยู่ปรนนิบัติรับใช้พระ อุปัชฌาย์ ๒ พรรษา จึงได้กราบลา เดินทางไปจำพรรษายังวัดชนแดน เพื่อศึกษาเล่าเรียนวิทยาคมและปฏิบัติกัมมัฏฐานจากหลวงพ่อทบอีกครั้งหนึ่ง เมื่อการปฏิบัติธรรมแก่กล้า ท่านได้กราบลาหลวงพ่อทบ ออกเดินท่องธุดงควัตรไปยังสถานที่ต่าง ๆ ทั้งในและต่างประเทศ




http://p2.s1sf.com/ho/0/ud/186/930489/b_02390_005.jpg






พ.ศ. ๒๔๘๖ ท่านได้รับแต่งตั้งให้เป็นเจ้าคณะตำบลท่าอี บุญ ปกครองพระสงฆ์-สามเณร ได้ระยะหนึ่ง เกิดความเบื่อหน่าย จึงได้ขอลาออก และออกเดินธุดงค์ไปตามสถานที่ต่าง ๆ อาทิ แขวงจำปาสัก ประเทศลาว ประเทศเขมร ตลอดระยะเวลาในการถือธุดงควัตร ท่านได้สนทนาธรรมกับพระสายวัดป่าหลายรูป และศึกษาไสยเวทจากอาจารย์เขมรและลาวหลายรูป พ.ศ. ๒๕๑๗ หลวง ปู่ขุ้ย ได้เดินธุดงควัตรตามแนวเทือกเขาเพชรบูรณ์ มุ่งหน้าขึ้นทิศตะวันออก ในที่สุด หลวงปู่ได้เดินทางมายังบ้านท่าด้วง ได้เล็งเห็นความเจริญที่จะเกิดขึ้นแก่หมู่บ้านนี้ในอนาคต ประกอบกับมีป่าไม้ แหล่งน้ำไหลผ่าน ท่านจึงได้หยุดธุดงค์ และชักชวนชาวบ้าน สร้างวัดขึ้นที่หมู่บ้านซับตะเคียน และได้รับแต่งตั้งจากคณะสงฆ์ให้เป็นเจ้าอาวาสวัดซับตะเคียนแห่งนี้ ด้านวัตถุมงคล หลวง ปู่ขุ้ยได้รับการถ่ายทอดวิชาจากหลวงพ่อทบ อดีตเกจิอาจารย์ดังแห่งเพชรบูรณ์ บรรดาคณะศิษยานุศิษย์ที่รู้ในกิตติศัพท์ด้านวิทยาคมของท่าน จึงได้ขอร้องให้ท่านจัดสร้างวัตถุมงคล เพื่อนำเงินมาจัดสร้างเสนาสนะ ศาลา อุโบสถ




http://p2.s1sf.com/ho/0/ud/186/930489/b_02390_006.jpg


วัตถุมงคลที่ได้รับความนิยมสูงก็เช่น ตะกรุดโทน ตะกรุด ๙ ชั้น ตะกรุดคู่ชีวิต รูปหล่อลอยองค์ และอีกหลายรุ่น วัตถุ มงคลที่สร้างขึ้นมีผู้มาขอบูชาหมดไปในเวลาไม่นาน และผู้ที่เช่าหาวัตถุมงคลของท่านต่างมีประสบการณ์แคล้วคลาดต่าง ๆ มากมาย นอกจากนี้ยังมี กริ่งเพชรกลับ ที่สร้างขึ้นตามตำรับโบราณ ที่ร่ำเรียนมาจากหลวงพ่อทบ ได้รับความนิยมสูง จนกลายเป็นของหายาก แต่ที่ฮือฮาโด่งดังที่กล่าวขวัญอย่างมากเหมาะกับยุคเศรษฐกิจตกต่ำ ข้าวยากหมากแพง ขณะนี้ก็คือ เครื่องรางชูชกเรียกทรัพย์ ชิ้นน้ำอ้อย จินดามณี ซึ่งหลวงปู่เรียกว่า ?ตาเฒ่าเจ้าทรัพย์? ด้านหลังลงยันต์จินดามณีเต็มสูตร ที่พระสังข์เรียกเนื้อเรียกปลาได้ เราก็เรียกเงินทองโชคลาภได้เช่นกัน เป็นการทำชูชกรุ่นแรกของหลวงปู่ที่พลิกตำราเก่าดั้งเดิม ใช้ยอดสวาท ทั้ง ๙ ยอดรัก-มะยม-กาหลง-มะรุม-ดอกไม้ทอง เป็นต้น ผสมขยะกลางตลาด สีผึ้ง สาวพรหมจารี น้ำตาเด็กร้องไห้ตามแม่ น้ำมันไม้ตะเคียน เถาวัลย์พันรังนก ข้าว ๗ นา ดินนาดอนมูลเหล็กจากการเล่นแร่แปรธาตุ ผสมสร้างเป็นชูชก ตาเฒ่าเจ้าทรัพย์ เดินหัวใจปฐมอักขระด้านหลัง ลงยันต์จินดามณีเพิ่มรูปสูตรเต็ม เสกให้คน นำเนื้อข้าวปลาอาหาร บริโภคมามอบให้ เอ่ยปากขอก็ได้ ไม่ขอเขาก็เอามาประเคนถึงที่


http://p1.s1sf.com/ho/0/ud/186/930489/b_02390_007.jpg
นอกจากนี้ หลวงปู่ยังเน้นที่การค้าขายดี เวลาที่หลวงปู่ทำพิธีเสกชูชก ท่านจะทำพิธีอยู่นาน โดยเล่นกสิณไฟตบเปลวเทียนให้วิ่งเป็นสายชายธง ท่านบอกเวลาทำวิชาชูชกเพ่งกสิณไฟไปด้วย ทำให้ชูชกของท่านร้อนแรงมีฤทธิ์มาก ช่างภาพอิสระถ่ายรูปเวลาที่หลวงปู่เสกเปลวเทียนวิ่งเป็นสายอย่างน่าอัศจรรย์ ?วันโกนวัน พระให้ว่าคาถาปลุก จุดธูปดอกเดียว เอาข้าวปลาอาหารเซ่นไหว้ชูชกให้อิ่มหมีพีมันบ้าง เขาจะมีฤทธิ์แรง ชูชกของหลวงปู่ไม่เหมือนที่อื่น มีตัวเหมือนกันนะ กินได้นะ ขยันเลี้ยงเขามากเขาช่วยมากนะ? หลวงปู่บอก
http://p2.s1sf.com/ho/0/ud/186/930489/b_02390_008.jpg


สำหรับวิชาชูชกที่หลวงปู่ได้มานี้เป็นวิชา ชูชกตำรับหลวงปู่พรหมสร (รอด) ซึ่งได้มาตอน ไปเรียน ฝึกกรรมฐานขั้นอุกฤษฏ์ กับหลวงปู่พรหมสร (รอด) อดข้าวอดน้ำ ๙ วัน ๙ คืน ร่างกาย เจ็บป่วยจนเกือบตายจึงบรรลุมรณกรรมฐาน สืบต่อมาก็ใช้จิตหยั่งรู้อะไรได้มากมาย บางครั้งถึงการถอดจิตไปรับรู้อะไร ๆ ที่ไหนก็ได้ ในด้านการเผยแผ่ธรรม หลวงปู่ขุ้ยเป็นพระที่ทันสมัย ใช้ธรรมะสั่งสอนชาวบ้าน ให้รู้จักทำมาหากินด้วยความสุจริต มีความอดทน ขยัน หมั่นเพียร มิให้ลุ่มหลงมัวเมาในอบายมุข ใช้ชีวิตอย่างสมถะ และพอเพียง ได้สั่งสอนให้ชาวบ้าน ได้เจริญภาวนาสมาธิ ให้ยึดมั่นในหลักธรรมของพระพุทธเจ้าและปฏิบัติตามศีล ๕ ศีล ๘ หรืออุโบสถศีล อย่างเคร่งครัด ให้เป็นคนคิดดี ทำดี พูดดี ไม่เบียดเบียนผู้อื่น หรือทำให้ผู้อื่นได้รับความเดือดร้อน นับเป็นพระดีอีกรูปหนึ่งของเมืองมะขามหวาน. อาราธนานัง รายงาน