View Full Version : มาทำความรู้จักกับ สาธารณรัฐเกาหลี หรือ เกาหลีใต้ กันเถอะพวกเรา


poohba
09-07-2012, 07:16
มาทำความรู้จักกับ สาธารณรัฐเกาหลี หรือ เกาหลีใต้ กันเถอะพวกเรา
ถ้าเพื่อนๆ อยากเรียนรู้ขนบธรรมเนียมประเพณีและวัฒนธรรมของเกาหลีใต้ วันนี้เรามีความรู้รอบตัวมาฝากกัน ซึ่งเพื่อนๆ จะได้เรียนรู้ถึงประวัติศาสตร์ความเป็นมาตั้งแต่สมัยก่อน ที่บางครั้งเราจะได้ยินชื่อพวกเมืองเหล่านี้ในหนังเกาหลีซะด้วย อะนั่นแน่ อยากรู้แล้วล่ะสิ รวมทั้งถ้าหากเพื่อนๆ จะเดินทางไปเกาหลี เราจะบอกแหล่งชอปปิ้งที่เขาจะไปกันด้วย เราไปติดตามกันเลยดีกว่าจ้า แล้วเพื่อนๆ จะได้ความรู้เกี่ยวกับเกาหลีเยอะเลย

http://board.roigoo.com/attachment.php?attachmentid=3746&stc=1&d=1341798274


สาธารณรัฐเกาหลี หรือ เกาหลีใต้ (South Korea) เป็นประเทศในเอเชียตะวันออก มีพื้นที่ครอบคลุมส่วนใต้ของคาบสมุทรเกาหลี พรมแดนทางเหนือติดกับประเทศเกาหลีเหนือ มีประเทศญี่ปุ่นตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้โดยมีทะเลญี่ปุ่นและช่องแคบเกาหลีกั้นไว้ เมืองหลวงของประเทศคือกรุงโซล ซึ่งจัดเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดและมีจำนวนประชากรอยู่อาศัยมากที่สุดของประเทศ

คำขวัญ: Broadly bring benefit to humanity


เพลงชาติ คนเกาหลีเป็นคนที่รักในชาติของตนเป็นอย่างมาก เพลงชาติของประเทศก็มีความหมายที่บ่งบอกถึงความรักชาติเป็นอย่างยิ่ง เรามาทำความรู้จักกับประวัติของเพลงชาติของประเทศนี้กันซักนิด?

เพลงของผู้รักชาติ ( ??? อ่านว่า เอกุกกา) เป็นเพลงชาติประเทศเกาหลีใต้ เชื่อกันว่าคำร้องได้ประพันธ์ขึ้นใน ค.ศ. 1896 ซึ่งจารึกอยู่ที่ประตูอิสรภาพโดย ยุนชิโฮ (???) นักการเมือง หรือ อันชางโฮ (???) ผู้ใช้นามปากกา โดซาน (??) ผู้นำในการต่อสู้เพื่อเอกราชของเกาหลี และเป็นนักการศึกษา

ในช่วงที่เกาหลีตกเป็นเมืองขึ้นของญี่ปุ่น เพลงนี้ได้รัองโดยชาวเกาหลีโพ้นทะเล เพื่อขอพรให้ประเทศเกาหลีได้รับอิสรภาพ ต่อมา อันอิกแท (???) นักดนตรีเกาหลีในสเปน ผู้ประพันธ์ทำนองเพลงนี้ในปี ค.ศ. 1935

เพลงนี้ได้บรรเลงในพิธีฉลองการสถาปนาสาธารณรัฐเกาหลี ในวันที่ 15 สิงหาคม ค.ศ. 1948 โดยนายลีซึงมาน (???) ประธานาธิบดีคนแรกของสาธารณรัฐเกาหลี หลังการปลดปล่อยเป็นอิสระจากญี่ปุ่นเป็นเวลาสามปี และนำมาใช้เป็นเพลงชาติในปีเดียวกัน

ในประวัติศาสตร์เกาหลี แบ่งเป็นราชอาณาจักรทั้งสาม คือราชอาณาจักรโคกูเรียว อาณาจักรแพ็คเจ และอาณาจักรซิลลา ซึ่งปกครองคาบสมุทรเกาหลีและบางส่วนของจีน ระหว่าง 57 ปีก่อน คริสตศักราช ถึงปี ค.ศ. 668 อาณาจักรทั้งสามนับเป็นอาณาจักรที่มีอำนาจสูงสุดในแถบนั้น คาบสมุทรเกาหลีทั้งหมดและดินแดนส่วนใหญ่ของประเทศจีนอยู่ภายใต้การปกครองของสามอาณาจักร คือ โคกูเรียว แพ็กเจ และชิลลา

ปี ค.ศ. 676 อาณาจักรโคกูเรียว และอาณาจักรแพ็กเจได้รวมเข้ากับอาณาจักรชิลลา จึงเป็นการรวมเอาดินแดนในคาบสมุทรเข้าด้วยกัน ยุคชิลลารวมอาณาจักร (ปี ค.ศ. 676-935) นับเป็นยุคทองของวัฒนธรรมเกาหลี โดยเฉพาะทางด้านพุทธศิลป์

ค.ศ.918-1392 อาณาจักรโคเรียว ได้ถือกำเนิดขึ้น และมีการจัดตั้งรัฐบาลแห่งชนชั้นปกครองขึ้น พุทธศาสนาเป็นศาสนาประจำชาติ และมีอิทธิพลต่อระบบการเมืองการปกครองเป็นอย่างมาก

ชื่อประเทศเกาหลีก็มาจากคำว่า โคเรียว นั่นเอง

ค.ศ. 1392-1910 ในสมัยอาณาจักรโชซอน อันเป็นอาณาจักรสุดท้ายของประเทศเกาหลี มีการปฏิรูปการเมืองการปกครองอย่างเอาจริงเอาจัง ความเปลี่ยนแปลงที่สำคัญที่สุดคือ

การยกย่องให้ลัทธิขงจื้อกลายเป็นคติธรรมประจำชาติ การสร้างสรรค์งานด้านวรรณศิลป์ และการประดิษฐ์ตัวอักษร ฮันกึล ในปี ค.ศ. 1443 ทำให้ยุคนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อวัฒนธรรมของชาวเกาหลี

มีเมืองฮันยาง (ปัจจุบันรู้จักกันในชื่อกรุงโซล) เป็นเมืองหลวงในปี ค.ศ. 1394 พระราชวังและกำแพงเมืองจากในยุคนี้ยังคงมีให้เห็นจนกระทั่งปัจจุบัน

หลังจากสิ้นสุดรัชสมัยของพระเจ้าซุนจง (โดยราชวงศ์ลีเป็นราชวงศ์สุดท้าย) เกาหลีก็ได้ถูกปกครองโดยญี่ปุ่นในปี ค.ศ. 1910

จนกระทั่งสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 2 ในปี ค.ศ. 1945

ประเทศเกาหลีต้องแยกเป็นสองประเทศตามข้อตกลงพอตสดัม (Potsdam) โดยประเทศเกาหลีใต้สถาปนาเป็น สาธารณรัฐเกาหลี ประเทศเกาหลีเหนือ สถาปนา สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลี

วัฒนธรรม

ชาวเกาหลีได้สร้างวัฒนธรรมที่โดดเด่นผ่านช่วงประวัติศาสตร์อันยาวนานและมรดกทางวัฒนธรรมอันเด่นเฉพาะตัวก็สามารถพบ ได้ตลอดคาบสมุทร

ชาวเกาหลีให้คุณค่ากับการเรียนรู้และมีชื่อเสียงมากในการอุทิศตนและความมุมานะอุตสาหะ บางทีอาจเป็นเพราะลักษณะเหล่านี้ก็ได้ ที่ทำให้พวกเขาสามารถใช้แรงกระตุ้นทางวัฒนธรรมซึ่งนำมาประยุกต์อย่างถี่ถ้วนกับสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติ

ศิลปะเกาหลี

ศิลปะเกาหลีมีลักษณะเด่นหลายประการที่ทำให้เกิดแบบของตัวเอง ศิลปะเกาหลียกย่องธรรมชาติ และการใช้สีอ่อนและเรียบก็ปรากฏอยู่เสมอ ในภาพเขียนและเครื่องปั้นแบบเกาหลีวัฒนธรรม

งานหัตกรรมพื้นบ้านคือศิลปะที่สืบทอดกันมาหลายร้อยปี งานไม้และเครื่องเขินของเกาหลีเป็นที่รู้จักกันดี โดยเน้นการออกแบบที่เพื่อประโยชน์ใช้สอยและความเรียบง่ายสิ่งสะดุดตาในงานไม้เกาหลีคือศิลปะการประดับมุก งานหัตกรรมโลหะทำด้วยทอง ทำด้วยสำริด

ทางด้านพระพุทธศาสนามีการสร้างพระพุทธรูปสำริด ระฆังวัดที่หล่อด้วยสำริด เอกลักษณ์ของระฆัง เกาหลีคือรูปร่างการออกแบบและเสียง

ศิลปะเครื่องปั้นดินเผาเกาหลีเป็นประเทศที่เป็นที่ยอมรับในการพัฒนาศิลปะด้านนี้ และเครื่องปั้นดินเผาที่มี ชื่อเสียงคือ ศิลาดล เป็นเครื่องเคลือบที่มีความสดใสฝีมือประณีตนิยมเคลือบด้วยสีขาวซึ่งพัฒนาให้สวยงามในยุคโกเรียว

ในด้านศิลปะการเขียน เดิมรูปแบบตัวอักษรเกาหลีเป็นอักษรจีน ซึ่งเป็นตัวเขียนที่ยังใช้อยู่ในเอเชียตะวันออกร่วมพันปี แม้ว่าหลังจากที่เกาหลี ประดิษฐ์อักษรฮันกึล ในปี ค.ศ. 1446 ตัวอักษรจีนยังคงใช้ในภาษาราชการ จนถึงปลายคริสต์ศตวรรษที่ 19

เพราะว่าตัวอักษรจีนมีอยู่นับหมื่นตัว แต่ละตัวมีความแตกต่างกัน มีวิธีเขียนหลายแบบ หลายความหมาย การเรียนอ่านและการเขียนตัวอักษรจีน จึงไม่ใช่เรื่องง่าย

สำหรับการเขียนตัวอักษรด้วยพู่กันเกาหลีเรียกว่า บุดกึลซี ต้องอาศัยปัจจัย 4 ของนักปราชญ์ ได้แก่ หมึก แท่งหินฝนหมึก พู่กันและกระดาษ

ศิลปินเขียนพู่กันส่วนใหญ่มักเป็นทั้งนักปราชญ์และจิตกร ศิลปินเหล่านี้อาจใช้พู่กันเล่มเดียวกันเขียนกลอนบรรยายภาพ ภาพวาดเกาหลี เป็นศิลปะที่มีธรรมเนียมนิยมของตนเองอย่างสมบูรณ์

จิตรกรรม

ภาพจิตรกรรมของเกาหลีมีมานานแล้ว สถาบันภาพวาดก่อตั้งขึ้นในยุคโกกุริวสถาบันแห่งนี้เน้นภาพวาด ที่เกี่ยวข้องกับพระพุทธศาสนา รูปแบบจิตรกรรมมีหลากหลาย นำรูปแบบศิลปะจีนแบบใหม่รวมทั้งเทคนิคการวาดภาพแบบตะวันตก มีการใช้สีสันสดใสในภาพที่วาดเกี่ยวกับศาสนานี้

อิทธิพลของภูมิอากาศยังบ่งบอกถึงสถาปัตยกรรมสิ่งปลูกสร้างที่แตกต่างกันของเกาหลี โดยบ้านแบบเกาหลีจะมีออนดอล (Ondol) ซึ่งทำปฏิกิริยาภายใต้พื้นเพื่อช่วยเพิ่มความร้อนในช่วงฤดูหนาว และโดยทั่วไปบ้านจะมีหลังคาต่ำ มีห้องเล็กและผนังหนามีหน้าต่างและประตูเปิดสู่ภายนอกซึ่งมักจะทำเป็นสองชั้นเพื่อป้องกัน ลมเข้ามาภายในห้อง

บ้านเกาหลีแบบโบราณจะมีห้องโถงเป็นพื้นไม้ โดยห้องสำหรับอยู่อาศัยนั้นโดยปกติจะอยู่กลางบ้านใหญ่ ห้องรับแขกจะอยู่อีกหลังต่างหาก ห้องครัวก็สร้างเป็นหลังต่างหาก

การแบ่งเขตการปกครอง

ประเทศเกาหลีใต้แบ่งเขตการปกครองออกเป็น 8 จังหวัด (provinces) 1 จังหวัดปกครองตนเองพิเศษ (special autonomous province) 6 มหานคร (metropolitan cities) และ 1 นครพิเศษ (special city)

นครพิเศษ
1.โซล (Seoul Teukbyeolsi: โซล ตึกเบียลซิ; ?? ???; ?????)

มหานคร
1.ปูซาน (Busan Gwangyeoksi)
2.แทกู (Daegu Gwangyeoksi)
3.อินชอน (Incheon Gwangyeoksi)
4.กวางจู (Gwangju Gwangyeoksi)
5.แทจอน (Daejeon Gwangyeoksi)
6.วุลซาน (Ulsan Gwangyeoksi: วุลซาน กวางยอคซิ)

จังหวัด
1.เกียงกี (Gyeonggi-do)
2.กังวอน (Gangwon-do: กังวอน-โด)
3.เกียงซางเหนือ (Gyeongsangbuk-do: เกียงซางบุค-โด)
4.เกียงซางใต้ (Gyeongsangnam-do: เกียงซางนัม-โด)
5.เจียลลาใต้ (Jeollanam-do: เจียลลานัม-โด)
6.เจียลลาเหนือ (Jeollabuk-do: เจียลลาบุค-โด)
7.ชุงชองเหนือ (Chungcheongbuk-do: ชุงชองบุค-โด)
8.ชุงชองใต้ (Chungcheongnam-do: ชุงชองนัม-โด)

จังหวัดปกครองตนเองพิเศษ
1.เชจู (Jeju)

ภูมิศาสตร์

ตั้งอยู่ที่ ละติจูด 33-39 องศาเหนือ ลองจิจูดที่ 125-131 องศาตะวันออก 70% ของประเทศเป็นภูเขา

เศรษฐกิจ
เป็นประเทศอุตสาหกรรมใหม่ ที่มีการพัฒนาทางเศรษฐกิจอย่างก้าวกระโดด เป็นประเทศกำลังพัฒนาขั้นสูง

- การเพาะปลูก : พืชสำคัญได้แก่ ข้าวเจ้า ข้าวบาร์เลย์ แอปเปิล มันฝรั่ง ถั่วเหลือง ข้าวสาลี
- การเลี้ยงสัตว์ : สัตว์เลี้ยงสำคัญได้แก่ สุกร โค สัตว์ปีก และตัวไหม
- การประมง : ผลผลิตทางการประมงของเกาหลีใต้มีเหลือใช้ในประเทศจนสามารถส่งเป็นสนค้าส่งออกที่สำคัญอย่างหนึ่ง เกาหลีใต้สามารถจับปลาได้เป็นอันดับ 10 ของโลก (ไทยเป็นอันดับ 9 สถิติปี พ.ศ. 2535)
- การทำเหมืองแร่ : เกาหลีใต้ขาดแคลนถ่านหินและน้ำมันปิโตเลียม แต่มีแร่ธาตุอื่นๆอีกหลายชนิด ได้แก่ แกรไฟต์ ดินเกาลิน และทังสเตน
- อุตสาหกรรม : อุตสาหกรรมในเกาหลีใต้ส่วนใหญ่เป็นอุตสาหกรรมเบา ผลผลิตทางอุตสาหกรรมที่สำคัญได้แก่ เครื่องใช้ไฟฟ้า สิ่งทอ รถยนต์ ปิโตรเคมี และเรือเดินสมุทร

ประชากร

- เชื้อชาติ : ประเทศเกาหลีแทบจะไม่มีชนชาติอื่นนอกจากเกาหลีเอง แต่ก็มีชาวจีนประมาณ 3 หมื่นคน ซึ่งอยู่ตามเขตเมืองหลวงมาช้านานแล้ว และยังมีชาวฟิลิปปินส์อีก 72,000 คน

- ศาสนา : ชาวเกาหลีใต้ไม่มีศาสนาประมาณ 46 % ศาสนาคริสต์ 26 % ศาสนาพุทธ 26 % ลัทธิขงจื๊อ 1 % ศาสนาชอนโดเกียว ศาสนาอิสลาม และอื่นๆ 1 %

ช็อปปิ้งเกาหลี ตลาดที่ดังๆ อย่าง ทงแดมุน เมียงดง อิเทวอน ใช้ได้เฉพาะเงินวอนเกาหลีเท่านั้น ต่อรองราคาสินค้าได้ 10-30% ส่วนร้านค้าปลอดภาษี ห้างสรรพ

สินค้าและซูเปอร์มาร์เก็ตเกาหลี ไม่สามารถต่อรองราคาได้ ควรมีเครื่องคิดเลขติดตัวไปด้วย

ฤดูกาลเกาหลี ฤดูใบไม้ผลิ เดือนมีนาคม-พฤษภาคม อุณหภูมิ 10-25 องศาเซลเซียส

ฤดูร้อน เดือนมิถุนายน-สิงหาคม อุณหภูมิ 25-35 องศาเซลเซียส

ฤดูใบไม้ร่วง เดือนกันยายน-พฤศจิกายน อุณหภูมิ 5-15 องศาเซลเซียส

ฤดูหนาว เดือนธันวาคม-กุมภาพันธ์ อุณหภูมิ -10-10 องศาเซลเซียส

ช่วงอากาศหนาว ราวเดือนพฤศจิกายน-เมษายน โรงแรมจะเปิดฮีทเตอร์แทน หากต้องการอากาศเย็น ให้เปิดหน้าต่างรับลมได้ ระบบแอร์ในเกาหลีเป็นแบบรวม ควบคุมจากศูนย์กลางแห่งเดียว

โรงแรมเกาหลี ส่วนใหญ่จะไม่มีแปรงสีฟัน ยาสีฟัน ยาสระผมและที่โกนหนวด ต้องเตรียมไปเอง รวมทั้งผ้าเช็ดตัวด้วย โรงแรมในเกาหลีจะมีแต่ผ้าเช็ดตัวผืนเล็กนุ่งไม่ได้

น้ำดื่มเกาหลี ไม่มีบริการ ถ้าจะดื่มในมินิบาร์ต้องเสียเงิน อาหาร ทุกมื้อจะมีกิมจิเป็นเครื่องเคียงหลัก

โทรศัพท์เกาหลี มือถือจากประเทศไทยไม่สามารถใช้ในเกาหลีได้ เนื่องจากมีระบบที่แตกต่างกัน เกาหลีใช้ระบบ CDMA หากต้องการนำโทรศัพท์มือถือไปใช้ในเกาหลี ต้องแจ้งเปลี่ยนระบบจากเมืองไทยก่อน

ถ้าต้องการโทรศัพท์กลับเมืองไทย เพื่อความสะดวกควรใช้บัตรโทรศัพท์ที่มีขายในโรงแรมทั่วไป

การให้ทิปในเกาหลี ในประเทศเกาหลีมีความสำคัญมาก โดยปกติตามร้านอาหารและโรงแรม ไม่มีบริกรคอยอำนวยความสะดวก ผู้ใช้บริการต้องดูแลตัวเอง เช่น นำกระเป๋าขึ้นห้องพักเอง ดังนั้น ถ้าใช้บริการของบริกรควรให้ทิปตามธรรมเนียม