นายสันดาน
01-11-2012, 00:55
http://sphotos-a.ak.fbcdn.net/hphotos-ak-ash4/384253_548388058511897_1919146586_n.jpg (http://board.roigoo.com/tags/%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%AA%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%94%E0%B8%B2%E0%B8%99.html)
http://board.roigoo.com/attachment.php?attachmentid=6560&stc=1&d=1367998595 (http://board.roigoo.com/tags/%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%AA%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%94%E0%B8%B2%E0%B8%99.html)
ถ้าขี้เกียจอ่านให้ข้ามไปข้างล่างเลยครับ
หลายคนสงสัยและถามเข้ามาว่า ช้างดูดเลือด กับ แดร๊คคูล่า Dracula นั้นเกี่ยวข้องกันหรือไม่ จะว่าใช่ก็ไม่เชิง คงต้องเกริ่นกันยาวพอสมควรในเรื่องนี้
ก่อนอื่น ต้องทำความเข้าใจก่อนว่า แดร๊คคูล่า Dracula นั้นเป็นตัวละครในนวนิยายของ บราม สโตกเกอร์ (
Bram Stoker) ซึ่งอ้างอิงมาจาก บุคคลทางประวัติศาตร์ท่านหนึ่งของโรมาเนีย คือ เจ้าชาย วลาด เซเปช(Vlad ?epe?)ผู้ครองแคว้นวาลาเคีย
วลาด เซเปช หรือในอีกชื่อหนึ่งคือ วลาดิสลาฟ ดรากูลา(DRACUL) คำนี้ในภาษาโรมาเนียนั้นแปลว่า "มังกร" ซึ่งเราเคยได้กล่าวไปแล้วว่า ในความเป็นจริงนั้น "มังกร" ไม่มีจริง แต่ มังกรนั้นคือช้างตั่งหาก จึงกล่าวได้ว่า วลาด เซเปช นั้นเป็นตระกูลถุงมือช้างรุ่นแรกๆที่ทรงอำนาจและโด่งดังในประวัติศาตร์เลยก็เป็นได้
แค่ชื่อคล้ายก็กลายเป็นถุงมือช้างเลยเหรอ? ถูกในส่วนหนึ่งแต่สิ่งที่ทำให้ วลาส ต้องสงสัยว่าเป็นถุงมือช้างนั้นมาจากพฎติกรรมวิปริตจิตงุดเงี้ยว จนทำให้พี่ท่านได้รับฉายาว่า วลาส จอมเสียบต่างหาก
ตามบันทึกที่มาของฉายา จอมเสียบ(The Impaler) นั้นไม่ได้มาจาก วลาส ไปตระเวณเสียบสาวไซน์ไลน์หรือเลี้ยงต้อยอย่างที่หลายคนเข้าใจ ถึงวลาสจะ แก่ สปอร์ต ใจร้าย โรมาเนีย ก็ตามที
แต่มาจาก พี่ท่านชอบนำ เชลยหรือชาวบ้านมาเสียบไว้บนไม้ แล้วนั่งจิ๊บเก็กฮวยเย็นมองอย่างสบายใจขณะที่เหยื่อค่อยๆดิ้นทุรนทุรายจนตาย เคยมีบันทึกว่า ครั้งหนึ่ง วลาส เกิดคึกคักถึงขนาดจัดอีเว้น เสียบคนอย่างเป็นทางการ เป็นทางยาวกว่า สองกิโลเมตร จนข้าศึกที่เข้ามาบุกเมืองเสียวดากอยากหนีกลับบ้านเลยทีเดียว
การเสียบเพื่อความบันเทิงนี้ มันเกี่ยวข้องกับช้างอย่างไร?
-นักวิเคราะห์ทางประวตัิศาตร์ได้กล่าวว่า พฎติกรรมนี้ ใกล้เคียงกับ กิจกรรม ฟูลมูนปาร์ตี้ของช้างมาก (กิจกรรมที่ช้างจะเอางวงเสียบตูดคนแล้วนำมาโชว์ร่วมกันในคืนจันท์เพ็ญ)
จึงกล่าวได้ว่า ตำนานวิปริตของ วลาส นั้น แท้จริงแล้ว คือ กิจกรรมฟูลมูนปาร์ตี้แบบเปิดเผยของช้างในสมัยแรกๆ และวลาสเองก็คือ ถุงมือช้างชุดแรกๆเลยที่ได้เข้าเผยแพร่กิจกรรมนี้สู่สายตา ชาวบ้าน สร้างความระทึกใจแก่ผู้พบเห็นจนกลายเป็นตำนานน่ากลัวมาถึงทุกวันนี้
สรุปได้ว่า แดร๊คคูล่า กับช้างดูดเลือดนั้น ไม่ได้เกี่ยวพันกันโดยตรง แต่ แดร๊คคูล่า ได้รับแรงบันดาลใจมาจาก บุคลในประวัติศาตร์ ผู้เป็นถุงมือช้างนั้นเอง
สุขสันต์ฮาโลวีน ขอให้ทุกท่านโชคดีไม่มีช้างโฉบครับ
ก่อนหน้านี้ที่ผมบอกนายเอ็มว่า ไอ้เพจช้างห่าอะไรนั้นอ่ะครับ
นี่เป็นตัวอย่างมุขที่ผมเล่นในเพจ ที่ผมเอามาแปะเพราะอยากจะบอกว่า มันเป็นสไตลมุขที่ นายเอ็มน่าจะลองดูๆเอาไว้
มันจะเป็นสไตล์มุขอีกแบบ ประมาณว่า กึ่งชักชวนให้เชื่อและกึ่งแกล้งทำเป็นมึน เป็นมุขที่คล้ายๆกับพวกคุโรไมตี้นั้นแหละครับ ทำเป็นเชื่อ แล้วเออออว่าเชื่อ ในสิ่งที่ มันเป็นไปไม่ได้ เอ๊ะแต่มีโอกาสน่ะ มุขแนวนี้เรียกว่า Deadpan Comedy{ตลกหน้าตาย} ซึ่งอาจจะไม่คุ้นชินในไทยมากนัก เพราะคนไทยชอบมุขแบบ วันแพ็ทเทิ้ลครับ ปู ชง ตบ จบ เข้าใจได้เลยว่ากูเล่นตลก แต่มุขแนวนี้จะเป็นอะไรที่ถ้าเข้าใจร่วมกันแล้ว มันจะ เงิบไปอีกแบบ
ความหน้าตายของผมในเพจคือ ผมเป็นนักวิจัยที่พยายามเผยแพร่ข้อมูลที่แท้จริงว่า ช้างมันน่ากลัวมากๆน่ะ
ซึ่งถึงใครมาด่าหรือเอาทฏษีความเป็นจริงมาเถียงให้ตาย ผมที่ได้คือเราก็จะยังมึนต่อไป พร้อมกับแถในคอนเสปแบบวิชาการ ความเงิบมันก็จะเกิดกับคนที่เข้าใจว่า มันไม่จริงและอ่านให้เคลียร์จะรู้ว่าข้อมูลมันัญญาอ่อนเอามากๆ ความเงิบที่สองคือ การทำตัว หน้ามึน ใส่คนที่ไม่เข้าใจมุขด้วยนั้นแหละครับ
ประยุกต์ใช้กับการ์ตูนยังไงเรอะ : ผมว่าเป็นมุขที่ใช้กับตัวละครเนริด์ๆแบบสมหยัดได้ดีมาก ยิ่งกับคอมโบกับตัวละคร มึนๆแบบไอ้หยิก โดยมีไอ้ชิ้นเป็นคนเบรก จะเป็นอะไรที่ลงตัวพอดี
เช่น สมหยัดเสนอทฏษีบ้าบอห่าเหวขึ้นมาสักหนึ่งเรื่อง หยิกซัพพอตเพราะหยิกแม่งมน แต่ลูกชิ้นหงุดงิดเพระาดูยังไงก็รู้ว่าแม่งบ้าแต่พวกนี้มันจริงจังไปได้ยังไง
http://board.roigoo.com/attachment.php?attachmentid=6560&stc=1&d=1367998595 (http://board.roigoo.com/tags/%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%AA%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%94%E0%B8%B2%E0%B8%99.html)
ถ้าขี้เกียจอ่านให้ข้ามไปข้างล่างเลยครับ
หลายคนสงสัยและถามเข้ามาว่า ช้างดูดเลือด กับ แดร๊คคูล่า Dracula นั้นเกี่ยวข้องกันหรือไม่ จะว่าใช่ก็ไม่เชิง คงต้องเกริ่นกันยาวพอสมควรในเรื่องนี้
ก่อนอื่น ต้องทำความเข้าใจก่อนว่า แดร๊คคูล่า Dracula นั้นเป็นตัวละครในนวนิยายของ บราม สโตกเกอร์ (
Bram Stoker) ซึ่งอ้างอิงมาจาก บุคคลทางประวัติศาตร์ท่านหนึ่งของโรมาเนีย คือ เจ้าชาย วลาด เซเปช(Vlad ?epe?)ผู้ครองแคว้นวาลาเคีย
วลาด เซเปช หรือในอีกชื่อหนึ่งคือ วลาดิสลาฟ ดรากูลา(DRACUL) คำนี้ในภาษาโรมาเนียนั้นแปลว่า "มังกร" ซึ่งเราเคยได้กล่าวไปแล้วว่า ในความเป็นจริงนั้น "มังกร" ไม่มีจริง แต่ มังกรนั้นคือช้างตั่งหาก จึงกล่าวได้ว่า วลาด เซเปช นั้นเป็นตระกูลถุงมือช้างรุ่นแรกๆที่ทรงอำนาจและโด่งดังในประวัติศาตร์เลยก็เป็นได้
แค่ชื่อคล้ายก็กลายเป็นถุงมือช้างเลยเหรอ? ถูกในส่วนหนึ่งแต่สิ่งที่ทำให้ วลาส ต้องสงสัยว่าเป็นถุงมือช้างนั้นมาจากพฎติกรรมวิปริตจิตงุดเงี้ยว จนทำให้พี่ท่านได้รับฉายาว่า วลาส จอมเสียบต่างหาก
ตามบันทึกที่มาของฉายา จอมเสียบ(The Impaler) นั้นไม่ได้มาจาก วลาส ไปตระเวณเสียบสาวไซน์ไลน์หรือเลี้ยงต้อยอย่างที่หลายคนเข้าใจ ถึงวลาสจะ แก่ สปอร์ต ใจร้าย โรมาเนีย ก็ตามที
แต่มาจาก พี่ท่านชอบนำ เชลยหรือชาวบ้านมาเสียบไว้บนไม้ แล้วนั่งจิ๊บเก็กฮวยเย็นมองอย่างสบายใจขณะที่เหยื่อค่อยๆดิ้นทุรนทุรายจนตาย เคยมีบันทึกว่า ครั้งหนึ่ง วลาส เกิดคึกคักถึงขนาดจัดอีเว้น เสียบคนอย่างเป็นทางการ เป็นทางยาวกว่า สองกิโลเมตร จนข้าศึกที่เข้ามาบุกเมืองเสียวดากอยากหนีกลับบ้านเลยทีเดียว
การเสียบเพื่อความบันเทิงนี้ มันเกี่ยวข้องกับช้างอย่างไร?
-นักวิเคราะห์ทางประวตัิศาตร์ได้กล่าวว่า พฎติกรรมนี้ ใกล้เคียงกับ กิจกรรม ฟูลมูนปาร์ตี้ของช้างมาก (กิจกรรมที่ช้างจะเอางวงเสียบตูดคนแล้วนำมาโชว์ร่วมกันในคืนจันท์เพ็ญ)
จึงกล่าวได้ว่า ตำนานวิปริตของ วลาส นั้น แท้จริงแล้ว คือ กิจกรรมฟูลมูนปาร์ตี้แบบเปิดเผยของช้างในสมัยแรกๆ และวลาสเองก็คือ ถุงมือช้างชุดแรกๆเลยที่ได้เข้าเผยแพร่กิจกรรมนี้สู่สายตา ชาวบ้าน สร้างความระทึกใจแก่ผู้พบเห็นจนกลายเป็นตำนานน่ากลัวมาถึงทุกวันนี้
สรุปได้ว่า แดร๊คคูล่า กับช้างดูดเลือดนั้น ไม่ได้เกี่ยวพันกันโดยตรง แต่ แดร๊คคูล่า ได้รับแรงบันดาลใจมาจาก บุคลในประวัติศาตร์ ผู้เป็นถุงมือช้างนั้นเอง
สุขสันต์ฮาโลวีน ขอให้ทุกท่านโชคดีไม่มีช้างโฉบครับ
ก่อนหน้านี้ที่ผมบอกนายเอ็มว่า ไอ้เพจช้างห่าอะไรนั้นอ่ะครับ
นี่เป็นตัวอย่างมุขที่ผมเล่นในเพจ ที่ผมเอามาแปะเพราะอยากจะบอกว่า มันเป็นสไตลมุขที่ นายเอ็มน่าจะลองดูๆเอาไว้
มันจะเป็นสไตล์มุขอีกแบบ ประมาณว่า กึ่งชักชวนให้เชื่อและกึ่งแกล้งทำเป็นมึน เป็นมุขที่คล้ายๆกับพวกคุโรไมตี้นั้นแหละครับ ทำเป็นเชื่อ แล้วเออออว่าเชื่อ ในสิ่งที่ มันเป็นไปไม่ได้ เอ๊ะแต่มีโอกาสน่ะ มุขแนวนี้เรียกว่า Deadpan Comedy{ตลกหน้าตาย} ซึ่งอาจจะไม่คุ้นชินในไทยมากนัก เพราะคนไทยชอบมุขแบบ วันแพ็ทเทิ้ลครับ ปู ชง ตบ จบ เข้าใจได้เลยว่ากูเล่นตลก แต่มุขแนวนี้จะเป็นอะไรที่ถ้าเข้าใจร่วมกันแล้ว มันจะ เงิบไปอีกแบบ
ความหน้าตายของผมในเพจคือ ผมเป็นนักวิจัยที่พยายามเผยแพร่ข้อมูลที่แท้จริงว่า ช้างมันน่ากลัวมากๆน่ะ
ซึ่งถึงใครมาด่าหรือเอาทฏษีความเป็นจริงมาเถียงให้ตาย ผมที่ได้คือเราก็จะยังมึนต่อไป พร้อมกับแถในคอนเสปแบบวิชาการ ความเงิบมันก็จะเกิดกับคนที่เข้าใจว่า มันไม่จริงและอ่านให้เคลียร์จะรู้ว่าข้อมูลมันัญญาอ่อนเอามากๆ ความเงิบที่สองคือ การทำตัว หน้ามึน ใส่คนที่ไม่เข้าใจมุขด้วยนั้นแหละครับ
ประยุกต์ใช้กับการ์ตูนยังไงเรอะ : ผมว่าเป็นมุขที่ใช้กับตัวละครเนริด์ๆแบบสมหยัดได้ดีมาก ยิ่งกับคอมโบกับตัวละคร มึนๆแบบไอ้หยิก โดยมีไอ้ชิ้นเป็นคนเบรก จะเป็นอะไรที่ลงตัวพอดี
เช่น สมหยัดเสนอทฏษีบ้าบอห่าเหวขึ้นมาสักหนึ่งเรื่อง หยิกซัพพอตเพราะหยิกแม่งมน แต่ลูกชิ้นหงุดงิดเพระาดูยังไงก็รู้ว่าแม่งบ้าแต่พวกนี้มันจริงจังไปได้ยังไง