View Full Version : อ่านแล้วคุ้มแน่ บทความเปลี่ยชีวิตคนเปลี่ยนความคิด [for เด็กมหาลัย]


ChangNoi and Light
11-01-2013, 10:47
น้องๆหลายคนในเว็บหรอยกูของเราตอนนี้ก็อยู่มหาวิทยาลัยกันแล้วใช่ไหม รู้หรือไม่ว่าแนวคิดบางอย่างในประเทศไทยยังผิดอยู่บ้างเล็กๆน้อยๆ บทความนี้มันอาจจะเปลี่ยนชีวิตคนหรือเปลี่ยนความคิดของการหางานการทำงานไปได้ทั้งชีวิต พี่ก็เหมือนกับมนุษย์เงินเดือนทั่วไปละ ตอนแรกออกมาก็คิดแค่จะหางานทำ สมัยนั้นยังไม่มีอินเตอร์เน็ตก็ต้องเดินสมัครกันไปยื่นไปเรื่อยๆ แต่น้องๆเชื่อไหม ว่าบางครั้งการจบมหาวิทยาลัยมา ไม่ต้องเข้าทำงานในบริษัทคนอื่นเสมอไป เราอาจจะตั้งของเราเองก่อนก็ได้ การหาประสบการณ์ในองค์กรก็สำคัญ สรุปแล้ว อ่านบทความนี้ดูดีกว่าครับ ไม่ผิดหวังแน่นอนสำหรับน้องๆมหาลัย


http://board.roigoo.com/members/ohmohm-albums-picture01-picture1145-%E0%B8%9A%E0%B8%97%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B9%80%E0%B8%9B%E0%B8%A5%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%A2%E0%B8%8A%E0%B8%B5%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%95%E0%B8%84%E0%B8%99.jpg (http://board.roigoo.com/members/ohmohm-albums-picture01-picture1145-%E0%B8%9A%E0%B8%97%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B9%80%E0%B8%9B%E0%B8%A5%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%A2%E0%B8%8A%E0%B8%B5%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%95%E0%B8%84%E0%B8%99.html)

http://board.roigoo.com/attachment.php?attachmentid=5636&stc=1&d=1357875991

โดย สุภศักดิ์ จุลละศร
ออกจากงานประจำ = นักโทษแหกคุก ?

ช่วงปลายปีเรามักได้ยินเพื่อนๆ บ่นอยากลาพักร้อนไปเที่ยวกับครอบครัว แต่หลายคนก็บ่นกระปอดกระแปดว่างานล้นมือจนไม่สามารถลาไปไหนกับใครเขาได้ ผมจึงคิดถึงเรื่องราวของ ?นักโทษแหกคุก? ขึ้นมา

คนทำงานประจำมีอยู่ 2 กลุ่ม กลุ่มแรกเป็นคนที่ทำงานด้วยความรักในงานอย่างแท้จริง และแทบไม่เคยบ่น ไม่เคยเจ็บปวด ไม่เคยน้อยใจในชีวิตการทำงาน แน่นอนว่าคนกลุ่มแรกนี้เป็นคนที่โชคดีมาก และเขาคงไม่มีคุกให้ต้องแหกแต่อย่างใด ที่จริงแล้วเขาอาจเต็มใจ ?จ่ายเงิน? เพื่อให้ได้ไปทำงานเสียด้วยซ้ำ

แต่สำหรับคนกลุ่มที่สอง คือ คนที่ทำงานด้วยความจำเป็นทางเศรษฐกิจเป็นหลัก อาจมีความรักในงานอยู่ด้วย แต่พวกเขาก็มีความเจ็บปวด น้อยใจ หรือไม่พอใจกับชีวิตอยู่เรื่อยๆ คนกลุ่มนี้มีคุกให้แหก แต่เขาจะแหกหรือไม่ อันนี้เป็นสิทธิส่วนตัวซึ่งคงไปก้าวก่ายไม่ได้

สิ่งที่ผมพอทำได้ คือ บอกพวกเขาว่า logic ของนักโทษแหกคุก สามารถนำมาใช้กับชีวิตได้อย่างไร และบางทีพวกเขาอาจจะเปลี่ยนชีวิตไปได้ตลอดกาล?

นักโทษในออฟฟิศ

ด้วยความเคารพในเกียรติภูมิของมนุษย์เงินเดือนที่มีอยู่เป็นล้านๆ คนในประเทศไทย ผมไม่มีเจตนาจะกล่าวหาว่าการทำงานประจำเป็นสิ่งเลวร้ายหรือปราศจากอิสรภาพ เพราะผมเองก็อาศัยเงินเดือนเลี้ยงชีพและตั้งตัวมาได้จนถึงทุกวันนี้ พูดแบบกลางๆ ก็คือ ผมเห็นทั้งข้อดีและข้อเสียของงานประจำมาพอสมควร

งานประจำ หรือ งานที่รับเงินเดือน นั้นใช่ว่าจะไม่ดี อย่างน้อยเราก็มีรายได้ที่แน่นอน มีสวัสดิการพอสมควร บางครั้งก็เป็นหน้าเป็นตาด้วย โดยเฉพาะถ้าเราทำงานกับบริษัทใหญ่ๆ หรือบริษัทที่มีชื่อเสียง แต่ปัญหาก็คือ ชีวิตของเราจำเป็นต้องขึ้นกับ ?คนอื่น? หรือ ?ปัจจัยอื่นๆ? อยู่มากเกินไป และบางครั้ง เหตุ ที่ดีก็ไม่ได้นำไปสู่ ผล ที่ดีเสมอไป

http://board.roigoo.com/members/ohmohm-albums-%E0%B8%A3%E0%B8%B9%E0%B8%9B%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%8C%E0%B8%95%E0%B8%B9%E0%B8%99-picture387-%E0%B9%80%E0%B8%9B%E0%B8%A5%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%A2%E0%B8%8A%E0%B8%B5%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%95%E0%B8%84%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%9B%E0%B8%A5%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%A2%E0%B8%99%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%84%E0%B8%B4%E0%B8%942.jpg (http://board.roigoo.com/members/ohmohm-albums-%E0%B8%A3%E0%B8%B9%E0%B8%9B%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%8C%E0%B8%95%E0%B8%B9%E0%B8%99-picture387-%E0%B9%80%E0%B8%9B%E0%B8%A5%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%A2%E0%B8%8A%E0%B8%B5%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%95%E0%B8%84%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%9B%E0%B8%A5%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%A2%E0%B8%99%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%84%E0%B8%B4%E0%B8%942.html)


ตัวอย่างเช่น คุณอาจมีตรรกะว่า ทำงานเก่งแล้วจะได้เลื่อนขั้น แต่ในโลกของความเป็นจริง ยังมีคนอื่นและปัจจัยอื่นอีกมาก เช่น

งานที่คุณเก่งนั้นมีความสำคัญกับแผนกหรือองค์กรแค่ไหน?
หัวหน้าเห็นคุณค่าของสิ่งที่คุณทำหรือไม่? หรือต่อให้เห็น เขาอยากให้คุณเติบโตหรือไม่?
การเลื่อนขั้นมีโควต้าหรือเปล่า? บางทีอาจจะมีคนอื่นที่มีผลงานโดดเด่นกว่าคุณ
การเลื่อนขั้นของคุณอาจสร้างความเดือดร้อนให้คนอื่นหรือเปล่า?

การที่เราไม่สามารถกำหนดชะตาชีวิตของตัวเองได้ บวกกับระเบียบปฏิบัติต่างๆ ขององค์กรที่เราอยู่ เป็นต้นว่าการเข้างาน 8.30 น. เลิกงาน 17.00 น. (ซึ่งก็ไม่เคยได้เลิกงานตามเวลานั้น) การลาหยุดต้องได้รับอนุญาต บางครั้งต้องทำงานวันเสาร์หรือวันอาทิตย์ หรือทำงานล่วงเวลาโดยไม่ได้รับค่าตอบแทน งานไม่เสร็จก็ยังกลับบ้านไม่ได้ หรือต้องหอบงานกลับมาทำที่บ้าน ฯลฯ

เมื่อคุยเรื่องนี้กับเพื่อนที่ทำงานประจำ เขาก็หัวเราะ แล้วว่า ?แล้วจะให้ทำยังไง??? ถ้าย้อนเวลากลับไปได้ ผมจะบอกเขาว่า ?แกก็เลิกเป็นนักโทษในออฟฟิศสิ แหกคุกซะ!?

แหกคุก ? ทำยังไง?

คนส่วนมากไม่น่าจะมีความรู้เกี่ยวกับการแหกคุก(จริงๆ) แต่อย่างน้อยก็คงจะเคยเห็นจากในภาพยนตร์กันมาบ้าง เพียงแต่จะมีสักกี่คนที่จะเห็นตรรกะบางอย่างที่เอามาใช้สร้างอิสรภาพให้กับชีวิตมนุษย์เงินเดือนได้

ถามแบบง่ายๆ ถ้านักโทษจะแหกคุก เขาต้องทำอะไรเป็นอันดับแรก?

คำตอบง่ายมากครับ? ก็ต้อง ?วางแผน? ไง!

อย่างน้อยเราจะต้องมีแผนผังของคุกที่จะแหกออกมา การวางแผนทำให้เรารู้ว่าจะต้องเตรียมอุปกรณ์อะไรบ้าง ต้องหาเพื่อนร่วมอุดมการณ์มาคอยช่วยเหลือหรือไม่ จะใช้เวลานานแค่ไหน จะลงมือได้เมื่อไร เป็นต้น หากปราศจากการเตรียมการที่ดี แผนแหกคุกก็ยากที่จะสำเร็จได้ และทุกคนก็น่าจะรู้ดีว่าการแหกคุกที่ไม่สำเร็จนั้นจะส่งผลอย่างไร

การวางแผนที่ดีทำให้เราสามารถกำหนดรูปแบบการแหกคุกออกมาได้ว่าควรใช้วิธีใดหรือเส้นทางไหน รู้ว่าต้องมี ?อะไร? และจะใช้มัน ?เมื่อไหร่? จากนั้นจึงค่อยคิดว่าจะหาสิ่งเหล่านั้นได้ ?อย่างไร? รวมทั้งเมื่อทำได้สำเร็จแล้วจะใช้ชีวิตต่อไปอย่างไร

สิ่งที่สำคัญไม่แพ้กัน คือ ต้องไม่ให้คนอื่นรู้เรื่องนี้ก่อนเวลาอันควร โดยเฉพาะผู้คุมของคุณ

?ไอ้คนมีฝัน?

ในทำนองเดียวกัน หากคุณคิดจะแหกคุกออกไปจากออฟฟิศ คุณก็ย่อมจะไม่อยากให้หัวหน้างานของคุณรู้เรื่องพวกนี้ก่อนเวลาอันควร ถ้าวันหนึ่งที่คุณพร้อมหมดทุกอย่างแล้ว และเดินไปบอกเขาว่า ?พี่ครับ ผมจะลาออกไปทำตามฝันของผม ตอนนี้ผมพร้อมทุกอย่างแล้วทั้งเงินทุน สถานที่ บุคลากร และได้วางแผนไว้อย่างรอบคอบแล้ว ผมดีใจที่ได้ร่วมงานกับทุกๆ คนครับ?

เทียบกับการที่คุณ ?โดนจับได้? ก่อนที่จะพร้อม สิ่งที่จะเกิดขึ้นคือ คุณจะไม่อยู่ในรายชื่อต้นๆ ที่จะได้รับการโปรโมทในครั้งต่อไป เพราะหัวหน้าย่อมไม่อยากเข็นคุณขึ้นทั้งที่รู้ว่าคุณอยากลาออกไปโลดโผนด้วยตัวเอง และการเลื่อนขั้นให้กับคนที่ ?พร้อมใจ? จะทำงานเป็นมือซ้ายมือขวาให้กับเขาในระยะยาวย่อมเป็นทางเลือกที่ดีกว่า

นี่ยังไม่นับนะครับว่าคุณจะถูกจัดจำแนกไปอยู่ในพวก ?ไอ้คนมีฝัน? ซึ่งแตกต่างจากมนุษย์ออฟฟิศที่ช้อปกระจายตอนพักเที่ยง เดินถือกาแฟสดหรือชาไข่มุกกลับเข้าออฟฟิศ พอบ่ายก็สุมหัวกันเม้าท์ ใกล้สิ้นเดือนก็จดจ่อรอเงินเดือนออก จ่ายหนี้บัตรเครดิต ได้โบนัสมาก็เอาไปช้อปไปเที่ยวจนหมด ฯลฯ

บางทีพฤติกรรมของคุณอาจแตกต่างจากชาวบ้านอยู่บ้าง แต่จะยังไม่ ?แปลกแยก? จนกว่าจะมีคนระแคะระคายว่าคุณกำลังวางแผนคิดการใหญ่ ผมจึงต้องย้ำว่า อย่าให้ใครรู้แผนของคุณก่อนเวลาอันควร

ตัวอย่างของแผน

ดังที่บอกแล้วข้างต้นว่าเราจำเป็นต้องวางแผนเพื่อให้รู้ว่าเราต้องมี ?อะไร? และมี ?เมื่อไหร่? ผมจึงขอสมมติตัวอย่างดังนี้นะครับ

นายอิสระ เป็นพนักงานประจำที่มีความมุ่งมั่นที่จะไปสู่อิสรภาพทางการเงิน เขาวางแผน 2 ขั้น โดยขั้นแรกเป็นการเก็บหอมรอมริบเพื่อออกมาเปิดร้านเบเกอรี่ ซึ่งเป็นสิ่งที่เขารักและมีความถนัด ในการนี้เขาจะต้องใช้เงินลงทุน 2 ล้านบาท

http://board.roigoo.com/members/ohmohm-albums-%E0%B8%A3%E0%B8%B9%E0%B8%9B%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%8C%E0%B8%95%E0%B8%B9%E0%B8%99-picture386-%E0%B9%80%E0%B8%9B%E0%B8%A5%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%A2%E0%B8%8A%E0%B8%B5%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%95%E0%B8%84%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%9B%E0%B8%A5%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%A2%E0%B8%99%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%84%E0%B8%B4%E0%B8%941.jpg (http://board.roigoo.com/members/ohmohm-albums-%E0%B8%A3%E0%B8%B9%E0%B8%9B%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%8C%E0%B8%95%E0%B8%B9%E0%B8%99-picture386-%E0%B9%80%E0%B8%9B%E0%B8%A5%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%A2%E0%B8%8A%E0%B8%B5%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%95%E0%B8%84%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%9B%E0%B8%A5%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%A2%E0%B8%99%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%84%E0%B8%B4%E0%B8%941.html)


จากนั้นจะเข้าสู่แผนขั้นที่สอง คือ การเอากำไรจากร้านเบเกอรี่ไปลงทุนในตลาดหุ้นเพื่อสร้างพอร์ตหุ้นที่เลี้ยงชีวิตได้ในระยะยาว เขาคำนวณคร่าวๆ พบว่า หากใช้จ่าย 25,000 บาทต่อเดือน และลงทุนได้ผลตอบแทนปีละ 10% เมื่อบวกกับเงินค่าใช้จ่ายฉุกเฉินที่เขาจะกันไว้ เบ็ดเสร็จแล้วเขาจะต้องมีเงินตั้งต้นในขั้นตอนนี้ราว 4 ล้านบาท

นี่คือเบื้องต้น สิ่งที่เขาต้องมี และลำดับก่อนหลัง ต่อจากนี้เขาก็คิดว่าจะทำอย่างไรจึงจะสำเร็จ

อิสระมองว่าความสำเร็จของเขาขึ้นอยู่กับความสำเร็จของการเปิดร้านเบเกอรี่ เขาจึงไปเรียนรู้เกี่ยวกับการทำร้านเบเกอรี่เพิ่มเติม สะสมเงินและลงทุนไปพร้อมๆ กัน เขางดเว้นจากการจับจ่ายใช้สอยหรือเที่ยวเตร่เกินจำเป็น ในที่สุดเมื่อทำงานประจำจนครบ 5 ปี อิสระก็มีเงินทุน 2 ล้านบาทและ ?แหกคุก? ออกจากงานประจำ พร้อมมุ่งหน้าสู่อิสรภาพทางการเงินต่อไป

กุญแจของความสำเร็จ

จากตัวอย่างข้างต้น อิสระไม่ได้คิดแค่ว่า ?อยากมีเงินเยอะๆ? หรือ ?อยากมีเงินเดือนเยอะๆ? เพราะนั่นไม่ได้ตอบโจทย์ในระยะยาวของชีวิตเขา

อิสระอ่านความต้องการในชีวิตของตัวเองออกว่า เขาอยากมีร้านเบเกอรี่เป็นของตัวเอง และอยากมีอิสรภาพทางการเงิน? การมีเงินทุนก็เป็นเรื่องหนึ่ง แต่ที่สำคัญ คือ เขาคำนวณออกมาด้วย ว่าที่ต้องมีนั้นมากน้อยแค่ไหน และต้องมั่นใจด้วยว่ามันเป็นจำนวนที่เพียงพอ

นอกจากเรื่องของเงินทุน เขายังเห็นว่า ความรู้เกี่ยวกับเบเกอรี่และธุรกิจเบเกอรี่ ก็เป็นสิ่งสำคัญ นั่นจึงเป็นเหตุผลที่เขาลงมือศึกษาไปพร้อมๆ กับการสะสมเงินทุน

ระหว่างที่ทุกอย่างดำเนินไปด้วยดี อิสระไม่ได้ละเลยหน้าที่ในงานประจำแต่อย่างใด เขายังคงมีความก้าวหน้าดีและได้รับเงินเดือนเพิ่มอยู่เรื่อยๆ เพียงแต่ว่านั่นไม่ใช่เป้าหมายในระยะยาวของเขา เขาอาจมีความสุขพอสมควรในงานประจำ แต่เขาก็มั่นใจว่าจะมีความสุขมากกว่ากันมากในร้านเบเกอรี่ของตัวเอง

จากตัวอย่างนี้น่าจะทำให้เห็นว่าการวางแผนจะช่วยเราได้อย่างไร ทั้งในแง่ของลำดับความคิด พลังใจ และการลงมือปฏิบัติ

แต่ข้อที่ว่าจะแหกคุกได้สำเร็จหรือไม่นั้น มีแต่คุณที่จะตอบได้ครับ

Refer clubvi.com/2013/01/10/breakprison/


ทั้งหมดคือ ปัญหาที่น้องต้องเจอหากเป็นพนักงาน เรียนรู้เอาไว้ไม่เสียหายครับน้องๆ ว่างๆเรามาแหกคุกด้วยกัน

M150
11-01-2013, 11:09
ยาวๆ แบบนี้ อ่านแล้วเพลีย มากกว่านะครับ คุณช้างเอ๋ย

bankbcool
11-01-2013, 11:47
ยาวจิง แต่บทความเค้าดีจิง แนะนำคับ ภาพประกอบซักหน่อย จะทำให้น่าอ่านยิ่งขึ้นเด้อค้าเด้อ.............

ohmohm
11-01-2013, 11:50
เดียวผมแต่งให้เองครับถ้างั้น อ่านแล้วโดนใจผมจิ๊ดเลยหวะครับอันนี้5555555

M150
11-01-2013, 13:24
เดียวผมแต่งให้เองครับถ้างั้น อ่านแล้วโดนใจผมจิ๊ดเลยหวะครับอันนี้ 5555555
ดียังไงก็ไม่เทพเท่ากับของน้าเดลครับ หากใครชอบแนวนี้แนะนำอ่าน หนังสือเรื่อง วิธีชนะทุกข์และสร้างสุข ของ Dale Carnegie เทพจริง ใครอ่านแล้วบอกว่าไม่เทพ ให้มาตื๊บผมได้เลย นอกจากนั้นยังมีหนังสือเกี่ยวกับการทำงานอีกด้วยนะเนี่ย

ohmohm
11-01-2013, 14:22
ดียังไงก็ไม่เทพเท่ากับของน้าเดลครับ หากใครชอบแนวนี้แนะนำอ่าน หนังสือเรื่อง วิธีชนะทุกข์และสร้างสุข ของ Dale Carnegie เทพจริง ใครอ่านแล้วบอกว่าไม่เทพ ให้มาตื๊บผมได้เลย นอกจากนั้นยังมีหนังสือเกี่ยวกับการทำงานอีกด้วยนะเนี่ย

มันก็จริงอยู่ครับน้าเดลนั้น เขาระดับโลกแล้วท่านเอ็ม ใครอ่านก็รู้สึกถึงคุณค่าของการใช้ชีวิตกันทั้งนั้น
พอพูดถึงแล้วน่ากลับไปอ่านอีกรอบเหมือนกัน ตั้งแต่ปีใหม่ยังไม่ได้กลับไปอ่านแล้วครับผม

ปล.คิดถึงน้าเดล


:undecided:

Death13th
11-01-2013, 15:31
แหกคุกเลยดีกว่า อ๊าาาาา

nineorange
11-01-2013, 16:46
ขอบคุณครับ ผมก็เป็นน้องเฟรชชี่ปี1เองอิอิ อ่านบทความแปปนี่ชอบครับ