View Full Version : รู้จึงเขาคนนี้ใหม ไอดอลลุงเลย


ลุงปลวก
08-03-2013, 19:03
http://www.naewna.com/uploads/news/headline/43449.jpg

กว่าจะก้าวสู่จุดสูงสุดของชีวิตตามความฝันไม่ใช่เรื่องง่ายหลายคนต้องใช้เวลารอคอยเกือบทั้งชีวิต แต่หากมีความอดทน มุ่งมั่น จริงจัง และไม่ท้อแท้ จุดมุ่งหมายที่ตั้งใจไว้ย่อมมาถึงในไม่ช้าดังเช่น ชีวิตของศิลปินขุนพลเพลงลูกทุ่งเจ้าของฉายา ?ราชาเพลงพูด? หรือแม้แต่ ?สุภาพบุรุษลูกทุ่ง? ที่ใครหลายคนรู้จักในนาม ?เพลิน พรหมแดน? กับ 15 ปี แห่งการรอคอยสำหรับรางวัลเกียรติยศสูงสุด ในฐานะศิลปินแห่งชาติประจำปี พ.ศ.2555 สาขาศิลปะการแสดง (ดนตรีไทยลูกทุ่ง) คอลัมน์สตาร์เรโทร บันเทิงแนวหน้า ฉบับนี้จึงได้ร่วมเปิดใจเรื่องราวของขุนเพลงท่านนี้ พร้อมแง่คิด อีกหนึ่งมุมมอง ที่ศิลปินรุ่นใหม่ต้องนำไปเป็นแบบอย่าง

ประวัเติก่อนเป็น ?เพลิน พรหมแดน?

เพลิน พรหมแดน ชื่อจริง สมส่วน พรหมสว่าง เกิดเมื่อวันที่ 12 มิถุนายน 2482 ที่ อำเภออรัญประเทศ จังหวัดปราจีนบุรี (ปัจจุบันเป็นจังหวัดสระแก้ว) บิดาชื่อปลื้ม มารดาชื่อตุ่น พรหมสว่าง มีพี่น้องด้วยกัน 8 คน ชาย 6 หญิง 2 พ่อ-แม่มีอาชีพทำนา จบการศึกษาชั้นประถมปีที่ 4 จากโรงเรียนเทศบาล อำเภออรัญประเทศ ชีวิตในวัยเด็ก หลังจากจบ ป.4 แล้ว เคยเดินทางเข้ามาอยู่กรุงเทพฯ บวชเป็นสามเณรอยู่ที่วัดเศวตฉัตร แถวๆ สำเหร่ ฝั่งธนฯ เมื่อสอบได้นักธรรมโท จึงลาสิกขาบทออกมาช่วยบิดา-มารดาทำนาอยู่ที่บ้านเกิด เนื่องจากเป็นผู้มีนิสัยชอบการร้องเพลง เมื่ออายุประมาณ 20 ปีเศษ ได้สมัครเข้าประกวดร้องเพลงตามงานต่างๆ เพื่อมุ่งมั่นทำตามความฝัน

ก้าวเข้าสู่วงการเพลง

ในปี พ.ศ.2503 ได้ทราบข่าวว่าครู ?จำรัส วิภาตะวัธ? หัวหน้าวงดนตรี ?ชุมนุมศิลปิน? ประกาศรับนักร้อง ทางสถานีวิทยุยานเกราะ จึงลองไปสมัครคัดเลือกดูบ้าง ในครั้งนั้นไม่มีนักร้องคนใดชนะเลิศ แต่ครูจำรัสคัดเอานักร้องที่ร้องได้ดีที่สุด ปรากฏว่า สมส่วน พรหมสว่าง ร้องได้ดีที่สุด จึงได้รับการคัดเลือกเข้าประจำวงดนตรี ?ชุมนุมศิลปิน?

บันทึกเสียงครั้งแรก

ในปี พ.ศ.2504 มีโอกาสได้ร้องเพลงบันทึกเสียงครั้งแรกในชีวิต ในเพลง ?ทุ่งร้างนางลืม? เป็นผลงานการประพันธ์ของ ?นิยม มารยาท? เปลี่ยนชื่อเป็น ?เพลิน พรหมแดน? บันทึกประกบกับเพลง ?นครนายกในฝัน? ที่ขับร้องโดย ?จำรัส สุวคนธ์น้อย? แต่ไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร หลังจากนั้น ?จำรัส วิภาตะวัธ? ให้บันทึกเสียงอีกครั้งหนึ่ง ในเพลง ?วาสนายาจก? เพลงนี้พอเป็นที่รู้จักของแฟนเพลง

ทุบกระปุกบันทึกแผ่นเสียง

ในปี พ.ศ.2507 เขาลองอีกครั้ง ด้วยการรวบรวมเงินลงทุนบันทึกแผ่นเสียงเอง ด้วยเพลงที่แต่งขึ้นมาเอง ชื่อเพลง ?บุญพี่ที่น้องรัก? ซึ่งเพลงนี้เขาแต่งไว้เป็นเพลงแรกในชีวิตการแต่งเพลง นำมาขัดเกลาเนื้อหาเสียใหม่ โดยอาศัยช่วงจังหวะที่เพลง ?รักพี่ที่ใจ? ของ ?นิตยา เปิดปัญญา? กำลังดัง เขาสอดแทรกเนื้อหาของเพลง ?รักพี่ที่ใจ? ไว้ในท่อนแยกด้วย บันทึกเสียงเสร็จก็นำแผ่นไปฝากทิ้งไว้ให้เพื่อนฝูงช่วยเปิด แล้วเดินทางกลับบ้าน ปราจีนบุรี ปรากฏว่าไม่กี่เดือนต่อมาเพลง ?บุญพี่ที่น้องรัก? ดังเกินความคาดหมาย ?จำรัส วิภาตะวัธ? จึงเรียกตัวเขากลับมาด่วนเพื่อลุยงานต่อ หลังจากนั้นมีเพลง ?จดหมายบรรยายรัก? ?คนไม่มีดาว? และอีกหลายเพลงก็ทยอยตามมา จากความดังของเพลง?บุญพี่ที่น้องรัก? ทำให้ ?ครูจำรัส? ยกวงดนตรี ?ชุมนุมศิลปิน? ให้เขาดูแล และวงดนตรี ?ชุมนุมศิลปิน? ภายใต้การนำของ ?เพลิน พรหมแดนก็ได้เริ่มประเดิมงานแรกที่ สทร. ท่าช้าง นักร้องในวงที่มีชื่อเสียงในยุคแรกหลายคน เช่น ?สุริยา แสวงธรรม? เจ้าของเสียงเพลง ?รักเธอเท่าช้าง? ?สมศักดิ์ ศรีบางช้าง? เจ้าของเสียงเพลง ?หัวใจสาว? ?นิตยาเปิดปัญญา? เจ้าของเพลง ?รักพี่ที่ใจ? ?สุบิน ทิพวัฒน์? เจ้าของเพลง ?ขลุ่ยเรียกสาว? และอีกหลายคน หลังจากที่เขานำวงตระเวนแสดงจนเป็นที่ยอมรับของแฟนเพลงแล้ว ก็เริ่มออกเดินสายต่างจังหวัด และในปี พ.ศ.2510 เขาเดินสายไปแสดงที่ภาคใต้ แฟนเพลงชาวใต้ต้อนรับเขาอย่างเนืองแน่น ทำให้เขามีรถบัสเป็นของตัวเองเป็นครั้งแรก นับเป็นวงที่ 2 ที่มีรถบัสเป็นของตัวเอง ต่อจากวง ?สุรพล สมบัติเจริญ?

ประสบความสำเร็จสูงสุด

พ.ศ.2511 หลังจากที่ ?สุรพล สมบัติเจริญ? เสียชีวิต งานด้านการแสดงก็วิ่งเข้ามาหาเขาจนล้นมือ ถือได้ว่าระหว่างปี พ.ศ.2511?
พ.ศ.2515 ?เพลิน พรหมแดน? ประสบความสำเร็จสูงสุด ทั้งในด้านงานแสดง งานบันทึกแผ่นเสียง และงานแสดงภาพยนตร์ เฉพาะในปี พ.ศ.2511 เขามีผลงานเพลงเด็ดๆ หลายเพลง เช่น ?หนุ่มโสดฝันหวาน? ?หัวใจหล่นบนฝั่งโขง? ?ขายตึกซื้อนา? ?ให้พี่รวยเสียก่อน? ?กลัวตาย? และในปีนี้วงดนตรีของเขาชนะเลิศการประกวดที่เขื่อนชัยนาท ได้รับรางวัลถ้วยทองคำแท้ หนัก 10 บาท นอกจากนี้ยังมีเพลง ?รักติดหล่ม??วอนพระอินทร์? ?ดับป๊าบ? ?ล่อนจ้อน? สร้างชื่อเสียงให้กับเขาไม่น้อย

เข้าสู่วงการภาพยนตร์

ในปี พ.ศ.2513 เขามีโอกาสได้แสดงภาพยนตร์ครั้งแรกในเรื่อง ?ฝนใต้? เพลงที่สร้างชื่อเสียง เช่น ?สมัครด่วน? ?สร้างสมุษย์? ในปี พ.ศ.2514 โด่งดังอีกครั้งจากภาพยนตร์เรื่อง ?ฝนเหนือ? ของบางกอกภาพยนตร์ โดยแสดงร่วมกับ ?ไวพจน์ เพชรสุพรรณ? ?ยุพิน แพรทอง? ?เด็กชายปรีชา เกิดกำแพง? และในปี พ.ศ.2515 เขาได้แสดงภาพยนตร์อีกครั้งหนึ่งในเรื่อง ?ระเริงชล? ของ ?ฉลอง ภักดีวิจิตร? แห่งบางกอกภาพยนตร์ ในปี พ.ศ.2522 เขาได้เป็นพระเอกเต็มตัว ในภาพยนตร์เรื่อง
?แค้นไอ้เพลิน?

จุดเริ่มต้นของ ?ราชาเพลงพูด?

ในปี พ.ศ.2516 เขาเริ่มร้องเพลงพูดจริงๆ จังๆ เป็นครั้งแรก ในเพลง ?ข่าวสดๆ? และอีกมากมายหลายเพลง จากผลงานของครู ?สงเคราะห์ สมัตถภาพงศ์? และนับตั้งแต่ปี พ.ศ.2516 มาจนถึง พ.ศ.2521 เพลงพูดของเขาได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก โดยเพลิน พรหมแดน เผยว่า

?ตอนแรกเราร้องเพลงไปเราเลยคิดว่าไหนลองเพลงพูดบ้างสิเพราะบางเพลงก็แหวกตลาดแต่พอเราร้องผลงานออกไปปรากฏว่าโด่งดังถูกใจคนฟัง คนถามหาแผ่นเสียงกัน เพราะเพลงพูดจะมีเสน่ห์ของมันพอเริ่มดังเลยมีนักแต่งเพลงเข้ามาร่วม หลังๆ พูดยาวขึ้นจนหลายคนก็เรียกเราว่า ?นักร้องสองลีลา? เพราะเราร้องก็ได้ ร้องพูดก็ได้ นี่เลยกลายเป็นจุดที่ทำให้คนสนใจอีกด้วย?

วงดนตรีของ ?เพลิน พรหมแดน? รับใช้แฟนเพลงมาจนถึงปี พ.ศ.2525 ซึ่งเป็นปีที่รัฐบาลจัดงานฉลองกรุงเทพฯ ครบ 200 ปีพอดี ก็ยุบวง เมื่อวันที่ 27 เมษายน พ.ศ.2525 เกือบ 20 ปีที่ผ่านมาเขาสร้างผลงานที่เป็นอมตะไว้มากมาย สร้างลูกศิษย์ลูกหาให้เกิดขึ้นในวงการมากมาย ทั้งนักร้องและตลก นักแสดงตลกที่มีชื่อเสียงในปัจจุบันหลายคน ล้วนผ่านการแสดงตลกหน้าเวทีของวง ?เพลิน พรหมแดน?ไม่ว่าจะเป็น ?แดน บุรีรัมย์? ?เทพ โพธิ์งาม? ?น้อย โพธิ์งาม? ?จุ๋มจิ๋ม เข็มเล็ก? ?เพชร ดาราฉาย? ?เด่น ดอกประดู่? ฯลฯ

หลังจากเลิกวงแล้ว เพลิน พรหมแดน ก็ยังรับใช้แฟนเพลงด้วยรับเชิญไปร้องในงานต่าง ๆ อยู่อย่างสม่ำเสมอ และในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา เพลิน พรหมแดน ทำงานให้กับพระพุทธศาสนา ด้วยการร้องเพลงแหล่ประวัติของพระเกจิอาจารย์ชื่อดังต่างๆ หลายองค์ เช่น ประวัติหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต, ประวัติหลวงตามหาบัว ฯลฯ และล่าสุดได้ทำงานชิ้นสำคัญที่สุดในชีวิต เพื่ออุทิศให้กับศาสนา นั่นคืองานแหล่ประวัติขององค์สัมมาสัมพุทธเจ้า ให้กับวัดเกตุมดีศรีวราราม จังหวัดสมุทรสาคร โดย เพลิน พรหมแดน แต่งคำร้อง-ทำนองเอง ตั้งแต่ประสูติ ตรัสรู้ และปรินิพพาน อย่างละเอียด ใช้เวลากับงานชิ้นนี้เกือบปี

จากผลงานความสามารถ ทั้งการแต่งเพลง การขับร้องเพลง การเป็นหัวหน้าวงดนตรี งานด้านสังคมต่างๆ ตลอดจนงานด้านพระพุทธศาสนา ที่เขาอุทิศกายมาตลอดอย่างต่อเนื่อง ทำให้กระทรวงวัฒนธรรม ได้เห็นถึงความสามารถ จึงประกาศยกย่องให้เขา ?เพลิน พรหมแดน? เป็นศิลปินแห่งชาติ ประจำปี พ.ศ.2555 สาขาศิลปะการแสดง (ดนตรีไทยลูกทุ่ง) ท่ามกลางความยินดีของคนในวงการเพลง ที่ต่างยอมรับกันว่า มีความเหมาะสมที่สุด

รางวัลเกียรติยศที่ได้รับ

พ.ศ.2527 ได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ชั้นแรก

พ.ศ.2532 ได้รับโล่เชิดชูเกียรตินักร้องตัวอย่างลูกทุ่งยอดเยี่ยม จากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในงานกึ่งศตวรรษ เพลงลูกทุ่งไทยครั้งแรก ในเพลง ?อย่าลืมเมืองไทย?

พ.ศ.2534 ได้รับรางวัลพระราชทานจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในงานกึ่งศตวรรษเพลงลูกทุ่งไทย
ภาค 2 ในเพลง ?ชมทุ่ง?

พ.ศ.2555 ได้เป็น ?ศิลปินแห่งชาติ? สาขาศิลปะการแสดง (ดนตรีไทยลูกทุ่ง)

รอคอย 15 ปี รางวัลศิลปินแห่งชาติ

?ตอนที่รู้ว่าเราได้แล้วดีใจมาก โล่งไปหมด เพราะการเป็นศิลปินแห่งชาติถือเป็นเกียรติสูงสุดของการเป็นศิลปิน เป็นความภาคภูมิใจเรารอคอยมานานกว่า 15 ปี ที่ช้ามันเป็นเรื่องของการเรียงลำดับเข้ามา ปีหนึ่งมีคัดเลือกแต่ละสาขา 300 กว่าคน ได้แค่ 2 คน เลยทำให้ต้องรอนาน และการจะได้รับการพิจารณาเป็นศิลปินแห่งชาตินั้น ต้องเป็นบุคคลที่มีความสามารถและเป็นแบบอย่างที่ดีในการช่วยเหลือสังคมเสมอมา โดยดูจากหลักฐานเอกสารที่ยื่นให้กับทางคณะกรรมการพิจารณา ซึ่งผมเริ่มส่งเอกสารหลักฐานมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2540 ส่งเรื่อยมาทุกปีจนกระทั่งช่วงหลังขาดส่งมา 4 ปี ก็มีคนแนะนำว่าให้เราส่งต่อทุกปีไม่เช่นนั้นจะไม่ได้รับการพิจารณา เนื่องจากทางคณะกรรมการเขาจะดูความเคลื่อนไหวเพิ่มเติมของเราเพื่อจะนำมาประกอบการพิจารณา ผมจึงกระวีกระวาดรีบส่งต่อเนื่องทันทีทุกปี เมื่อก่อนเราไม่เข้าใจนึกว่าส่งเพียงครั้งเดียวแล้วไม่ต้องส่งอีก เราคิดว่าคณะกรรมการพิจารณาศิลปินแห่งชาติเหมือนไฟฉายส่องหาคนที่เหมาะสมในการเป็นศิลปินแห่งชาติแต่ทีนี้ก็ต้องเห็นใจทางคณะกรรมการด้วย เพราะคนที่มีความสามารถและทำเพื่อสังคม มันมีมาก จึงต้องอาศัยหลักฐานต่างๆ มาพิจารณาซึ่งที่จริงผมเองก็เพิ่งมารู้ว่าศิลปินแห่งชาติ เขาคัดเลือกกันมาตั้งแต่ ปี 2527 แล้ว ไม่งั้นป่านนี้ส่งไปนานแล้วครับ และก็น่าจะได้รับการพิจารณาไปนานแล้วเช่นกัน?

ฉายา ?สุภาพบุรุษลูกทุ่ง?

?เกิดจากนักเขียน นักข่าวสมัยก่อนเขาคงเห็นอุปนิสัยของเราที่เป็นคนเรียบร้อย ไม่เคยมีเรื่องมีราวกระทบกระทั่งกับใคร รักความสงบความถูกต้องอะไรที่ขัดกับเราก็ไม่ไปเกี่ยวข้องหนีห่างมาซะ เพราะเราเองไม่อยากมีเรื่องกับใคร เลยทำให้เราได้รับฉายานี้

สิ่งที่ภูมิใจมากที่สุดของการเป็นศิลปิน

?นอกจากที่ได้รับรางวัลศิลปินแห่งชาติแล้ว ยังมีอีกหนึ่งรางวัลที่เป็นความภาคภูมิใจที่สุดตอนปี พ.ศ.2525 เราเลยได้โล่จากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ ในฐานะศิลปินตัวอย่างเป็นคนเดียวที่ได้รับรางวัลนี้ในตอนนั้น นอกจากนี้ยังดีใจที่เรามีแฟนเพลง และประชาชนที่ให้ความสนับสนุนเรามาตลอด ซึ่งผมก็จะพยายามสร้างผลงานดีๆ ให้แฟนเพลงเรื่อยมา?

ความท้อใจ

?เมื่อเราตัดสินใจเดินทางในสายอาชีพนักร้องผมไม่เคยท้อใจเลย เพราะเรายืนหยัดสิ่งไหนที่ทำไม่ได้ก็พยายามทำต่อไป ให้เต็มความสามารถที่มีอยู่ ไม่เคยสิ้นหวัง?

วงการลูกทุ่งสมัยนี้แตกต่างจากเมื่อก่อน

?ต่างกันมาก บางอย่างเพลงก็แปลกออกไปอย่างเพลงที่นิยมทางภาคเหนือ อีสาน กลาง ใต้วงการเพลงก็แตกแขนงกันออกไปแต่ทุกสิ่งทุกอย่างก็ยังคงไว้ซึ่งความเป็นลูกทุ่งมาจากต้นฉบับเดิม ซึ่งมันเป็นเรื่องปกติอย่างผมเองเมื่อร้องเพลงลูกทุ่งก็ยังดัดแปลงมาเป็นเพลงพูด คิดว่าลูกทุ่งแท้ๆ คงไม่หายไปหรอกมันเหมือนทางโค้งพอแยกออกไปสุดท้ายก็ต้องกลับมาบรรจบเป็นลูกทุ่งเหมือนเดิม แค่ฉีกแนวออกไปเท่านั้น?

อนาคตของเพลงพูด

?เพลงพูดอนาคตคงไม่หมดไปหรอก แต่อาจสอดแทรกออกไปอีกทางหนึ่งซึ่งอาจเกิดการพัฒนาไปเรื่อยๆ แต่ที่ไม่ค่อยเห็นมีคนใหม่เข้ามาทดแทนบางทีเราต้องยอมรับว่าเพลงพูดร้องค่อนข้างลำบากโดยเฉพาะเรื่องของการจดจำ แต่เชื่อว่าอนาคตคงไม่หายไป?

หลักการดำเนินชีวิต

?ไม่เบียดเบียนใคร อยู่ในแนวทางสัมมาอาชีพ ตั้งใจทำในสิ่งที่เราทำอยู่ ไม่ทำในสิ่งที่ผิดกฎหมาย ผิดศีลธรรม ดำเนินชีวิตธรรมดาเรียบๆ ไม่โลดโผน และคิดเสมอว่าเรามาถึงทุกวันนี้ได้เริ่มต้นจากศิลปินตัวเล็กๆ คนหนึ่งที่มีความฝันทุกวันนี้แม้จะมีคนรู้จักเรามากเราก็ยังคิดแบบนี้อยู่ และทำตัวอ่อนน้อมถ่อมตนอยู่เสมอ ยึดมั่นความดี และเสมอต้นเสมอปลาย?

ฝากคำแนะนำถึงศิลปินรุ่นใหม่

?สำหรับการเป็นศิลปินรุ่นลูกรุ่นหลาน ถ้าอยากให้อยู่ในวงการได้ยาวนานต้องเสมอต้นเสมอปลาย ทั้งต่อหน้าเวที ลับหลังและในชีวิตประจำวัน ให้คิดเสมอว่าเราเป็นคนของประชาชนต้องอาศัยพวกเขา ทุกวันนี้จะนึกถึงประชาชนคนฟังทุกวัน จะกราบพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ครู บิดามารดา และจะกราบระลึกถึงแฟนเพลง นักจัดรายการ นักข่าว ซึ่งจะนึกถึงตลอด รวมถึงคณะกรรมการที่เลือกเราเป็นศิลปินแห่งชาติ

ฝากถึงแฟนเพลง

ต้องขอขอบคุณแฟนเพลงที่คอยติดตามกันมาตลอด ผมขอส่งกำลังใจให้แฟนเพลงมีความสุข เจริญในกิจการที่ทำสิ่งไหนที่ผิดพลาดก็ต้องขออภัยไว้ด้วยครับ?

ปัจจุบันชีวิตของศิลปินแห่งชาติ ?เพลิน พรหมแดน? ท่านนี้มีความสุขกับครอบครัวที่อบอุ่น ที่บ้านเลขที่ 20/148 ปิ่นเกล้า-นครชัยศรี บางกอกน้อย กรุงเทพฯ

บุญกึ่ม
08-03-2013, 20:50
ตอนผมเด็กๆอยู่โณงเรียนบ้านนอก ชอบเอาเทปแกมานั่งล้อมฟังกัน ตอนนั้นรู้สึกว่าตลกมาก

ohmohm
08-03-2013, 22:07
พ่อผมก็ชอบครับนักร้องท่านนี้ คุณบุญกึ่มครับ เอารูปนี้มารีวิวด่วนครับ

http://board.roigoo.com/attachment.php?attachmentid=5969&stc=1&d=1362755176

บุญกึ่ม
08-03-2013, 22:17
เอ่อ มีรูปเดียวครับ ผมเลยไม่ได้ลงให้ รูปอื่นผมถ่ายมาไม่สวยโดนเจ๊แกลบหมดล่ะ 55
http://board.roigoo.com/attachment.php?attachmentid=5970&stc=1&d=1362755751