View Full Version : [ข่าว]ครอบครัวชาวเมกาเมียคนเดียวลูก 18 คน บ้านหลังเดียวจะพอมั้ย


ohmohm
25-08-2011, 16:18
http://board.roigoo.com/attachments/32d1314264797-%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%8C%E0%B8%95%E0%B8%B9%E0%B8%99%E0%B9%81%E0%B8%8B%E0%B8%A7%E0%B8%82%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A71.jpg


ลูกใครๆวก็มีได้ แต่บ้านลูกเยอะนี่สิดูแล้วลำบากดีจังเลยนะ ตั้งค่าโทรศัพท์ค่าเน็ตค่าคอมค่าไฟ ในข่าวนี่มีลูกตั้ง 18 คนโอ้วพระเจ้าสิ้เฟี้ยวแล้วเค้าจะดูแลกันยังไงเนี้ย ลูกคนโตก็อายุ 22 ปี แสดงว่าบ้านนี้เมียเค้ามีลูกกันทุกปีสินะครับ ร่างกายช่างฟิตจริงๆเล้ย แถมในข่าวยังบอกว่า ไม่เคยผ่าท้องคลอดซะด้วยเจ๋งจริงๆเลยแม่คนนี้


ทำไมถึงอยากมีลูกเยอะ(ไม่เกี่ยวกับข่าว)
1.ต้องการตั้งทีมฟุตบอล
2.เป็นคนขี้เหงาเข้าใจบ้างสิ
3.ไม่ต้องการให้สามีนอกใจไปไหน
4.สามีหรือภรรยาเสนห์แรง

http://board.roigoo.com/attachment.php?attachmentid=30&stc=1&d=1314264002

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานข่าว กิลและเคลลี่ เบเทส คู่สามีภรรยาจาก เมืองเลคซิตี้ รัฐเทนเนสซี่ สหรัฐอเมริกา มีลูกด้วยกันถึง 18 คน ทั้งหมดไม่ใช่ฝาแฝด และแม่ไม่เคยผ่าท้องคอลด ยิ่งไปกว่านั้น ยังอยากได้ลูกชายเพิ่มอีกอย่างน้อย 2 คนโดยลูกๆของทั้งคู่มีอายุไล่ เรียงกันไป คนโตสุดอายุ 22 ปี ส่วนคนเล็กสุด แต่อาจไม่ใช่คนสุดท้อง มีอายุ เพียง 11 เดือนเท่านั้น ครอบครัวนี้อาศัยอยู่ในบ้านขนาด 4,000 ตารางฟุต มีห้องนอน 5 ห้อง มีเครื่องซักผ้า 5 เครื่อง และเครื่องซักแห้งอีก 3 เครื่อง มีของใช้ต่างๆจำนวนนับร้อยชิ้นต่อชนิด เวลาไปเที่ยวก็จะใช้รถตู้ 2 คัน คันแรกนั่ง 15 คน ส่วนคนที่เหลือนั่งอีกคัน ขณะที่โต๊ะทานข้าวก็สามารถนั่งได้ครบตามจำนวนสมาชิกในบ้าน

http://board.roigoo.com/attachment.php?attachmentid=31&stc=1&d=1314264002


บ้านหลัง นี้ไม่มีโทรทัศน์ หรืออินเตอร์เน็ต แต่เด็กๆจะใช้เวลาว่างหมดไปกับการร้องเพลงและเล่นเครื่องดนตรีชนิดต่างๆ เช่น ไวโอลิน เปียโน หรือ กีตาร์ เป็นต้น ซึ่งมันเป็นพรสวรรค์ที่ทำให้พวกเขาได้ออกเล่นคอนเสิร์ตด้วย
อย่างไรก็ ตาม เคลลี่ คุณแม่วัย 44 ปี กล่าวว่า ไม่เคยคิดว่าจะมีลูกมากขนาดนี้ แต่เพราะทั่งคู่เป็นคริสเตียนจึงไม่คิดเรื่องการคุมกำเนิด นอกจากนี้ เธอยังบอกว่า รู้สึกคุ้นชินกับการตั้งท้องมากกว่าการไม่ตั้งท้องเสียอีก

Mthai News
http://board.roigoo.com/attachment.php?attachmentid=29&stc=1&d=1314264002



ปัญหาจากการมีลูกมากแบบไทยๆครับ
อันนตราย! ถ้ามีลูกถี่ หรือมีมากเกินไป
ในปัจจุบันนี้ คนทั่วไปก็เข้าใจกันซึ้งดีแล้วว่า การมีลูกมากๆ เกินกว่าฐานะนั้น จะทำให้พ่อแม่ลำบากในการหาเงินหาทองมาเลี้ยงลูกของตนให้เจริญเติบโตอย่างสมบูรณ์ทั้งร่างกายและจิตใจ ซึ่งจะเห็นได้ว่ามุ่งไปที่ปัญหาด้านการเงินเศรษฐกิจภายในครอบครัวเป็นหลักใหญ่ โดยมิได้คำนึงถึงปัญหาด้านสุขภาพเลย ซึ่งความจริงแล้วการวางแผนครอบครัวหรือการคุมกำเนิดนี้ ไม่ใช่จะให้ประโยชน์ทางด้านเศรษฐกิจภายในครอบครัวเพียงอย่างเดียว แต่ยังเกี่ยวพันไปถึงปัญหาทางด้านสุขภาพของทั้งพ่อแม่ และเด็กในท้องอีกด้วย

ในสมัยเศรษฐกิจฝืดเคืองนี้ คู่สามีภรรยาควรจะมีลูกเพียง 2 คน หรืออย่างมากไม่ควรเกิน 4 คน โดยให้มีเพศชายหรือหญิงได้ตามต้องการ เมื่อก่อนนี้ปัญหาการเลือกเพศตามที่ต้องการเป็นเรื่องยากลำบาก แต่ในยุคนี้ความเจริญทางด้านการแพทย์ช่วยเหลือได้ โดยคิดค้นวิธีการที่จะสามารถกำหนดการตั้งท้องให้คลอดออกมาเป็นลูกชายหรือหญิงได้ตามต้องการ ปัญหาการมีลูกตามดวงจึงหมดไป

เหตุที่สนับสนุนให้มีลูกน้อยๆ คน ก็เพราะว่าการที่มีลูกมากนั้นมีผลสะท้อนต่อสุขภาพของบุคคลภายในครอบครัวที่เห็นได้ชัด ก็คือ

ผลที่มีต่อสุขภาพของบิดา
ในส่วนที่เกี่ยวกับสุขภาพของตัวพ่อที่มีลูกมากๆ นั้นที่เห็นได้ชัด ก็คือ พ่อที่มีลูกมากมีโอกาสจะเป็นโรคประสาทและโรคจิตได้มากกว่าพ่อที่มีลูกน้อยเพราะ พ่อเป็นหัวหน้าครอบครัวย่อมจะต้องรับผิดชอบในการหาเงินมาเลี้ยงดูลูกๆ ให้มีความสุข และมีการศึกษาพอสมควร การมีลูกมากย่อมทำให้พ่อต้องดิ้นรนขวนขวายทำงานหาเงินมากขึ้น นอกจากร่างกายจะตรากตรำจากงานแล้ว จิตใจยังมีความกังวล เคร่งเครียดอยู่ตลอดเวลา จึงอาจจะเจ็บป่วยได้ง่าย บางคนอาจหันไปใช้เหล้า หรือยาเสพติดเป็นเครื่องดับทุกข์ หรือบันเทาความกลัดกลุ้มซึ่งเป็นภัยต่อสุขภาพและชีวิตอย่างยิ่ง

ผลที่มีต่อสุขภาพของมารดา
การตั้งท้องและการคลอดลูกบ่อยครั้ง เป็นผลร้ายแก่สุขภาพอนามัยของแม่โดยตรง คือ

1. แม่ที่คลอดลูกบ่อยๆ โอกาสที่จะเสียชีวิตเนื่องจากโรคแทรกระหว่างตั้งท้องมีสูงมากกว่าแม่ที่คลอดลูกน้อยครั้งกว่า

2. คลอดลูกบ่อยๆ จะทำให้เกิดการฉีกขาดของช่องคลอดซึ่งเป็นสาเหตุทำให้เป็นมะเร็งที่ปากมดลูกได้ ส่วนเด็กที่เกิดจากแม่ลูกดกนั้น ในช่วงอยู่ในท้องอาจมีขนาดโตเกินไปหรืออยู่ในท่าที่ผิดปกติ ซึ่งอาจทำให้มดลูกแตกเวลาคลอดได้ หรือเด็กที่คลอดออกอาจจะมีน้ำหนักน้อยกว่าปกติ มีโอกาสที่จะเป็นโรคขาดอาหาร ปัญญาอ่อน มีอวัยวะพิการหรือไม่สมประกอบแต่กำเนิดก็ได้

3. การมีลูกถี่เกินไปแบบหัวปีท้ายปีติดต่อกันไป ก็เป็นอันตรายต่อสุขภาพของแม่และลูกได้ โดยจะทำให้สุขภาพของแม่ทรุดโทรวม คลอดลูกเสร็จร่างกายยังไม่ทันพักผ่อน ก็ต้องตั้งท้องเตรียมคลอดลูกคนใหม่อีก ร่างกายยิ่งอ่อนแอลงทุกที ดีไม่ดีมีโรคแทรก อาจทำให้ทั้งแม่และลูกต้องเสียชีวิตไปพร้อมกันก็มี ดังนั้น ช่วงเวลาห่างในการมีลูกแต่ละคนควรจะเป็น 4 ปี

4. การที่แม่มีลูกตั้งแต่อายุยังน้อยโดยเฉพาะก่อนอายุ 14 ปีนั้น มีโอกาสที่แม่และลูกจะตายเพราะการตั้งท้องหรือตอนคลอดมีสูงมาก ส่วนแม่ที่ไปตั้งท้องเอาเมื่อตอนอายุ 35 ปีขึ้นไป ก็มีอันตรายเสี่ยงต่อการเสียชีวิตเท่าเทียมกัน สรุปแล้วช่วงที่ดีที่สุด ที่ผู้หญิงควรจะมีบุตร ก็คือ ช่วงระหว่าง 20-30 ปี

5. แม่ที่เป็นโรคบางอย่างอยู่ก่อนแล้ว เช่น โรคหัวใจ โรคไต โรคเบาหวาน โรคโลหิตจาง โรคมะเร็ง การตั้งท้องและการคลอดบุตรยังอาจเป็นอันตรายร้ายแรงแก่ตัวแม่ ทำให้ถึงกับเสียชีวิตก็ได้

6. ในการตั้งท้องแต่ละครั้ง ร่างกายของแม่จะต้องใช้อาหารเพิ่มขึ้นสำหรับหล่อเลี้ยงทารกในท้อง ดังนั้นถ้าหากผู้เป็นแม่เป็นโรคขาดธาตุอาหารอยู่แล้ว ก็ย่อมจะมีโรคมากขึ้นในระหว่างตั้งท้อง ผู้หญิงที่ตั้งท้องในขณะที่ลูกคนเล็กยังไม่อดนมนั้นก็เท่ากับร่างกายต้องเสียพลังเลือดเนื้อเลี้ยงลูก 2 คน ในเวลาเดียวกัน ซึ่งย่อมบั่นทอนสุขภาพของตัวแม่เป็นอย่างยิ่ง

7. ในด้านสุขภาพ แม่ที่มีลูกมากย่อมจะมีโอกาสป่วยเป็นโรคประสาทและโรคจิตได้มากกว่าปกติ และการที่ตัวภรรยาไม่อยากจะมีลูกอีกนั้น อาจเป็นสาเหตุทำให้เกิดความระหองระแหงขึ้นในครอบครัวถึงอันหย่าร้างได้ ซึ่งจากการวิจัยพบว่าสามีภรรยาที่มีลูกมาก มักจะทะเลาะเบาะแว้งและหย่าร้างกันมากกว่าสามีที่มีลูกน้อยๆ คน

ผลที่มีต่อสุขภาพของบุตร
เด็กที่เกิดมาในครอบครัวที่มีลูกมาก จะประสบปัญหาดังนี้ คือ

1. เด็กที่เกิดมาในอันดับที่ 5 ขึ้นไป ย่อมมีโอกาสที่จะตายตั้งแต่อยู่ในท้องได้มาก ถึงแม้จะไม่ตายตอนอยู่ในท้อง ก็มีโอกาสเจ็บป่วยและเสียชีวิตในระหว่างวัยทารกก็ได้ มากกว่าเด็กที่เกิดในอันดับที่ 1-4

2. เด็กที่เกิดมาจากมารดาที่อายุมาก และผ่านการมีลูกมามากคนแล้ว โอกาสที่จะมีอวัยวะพิการ หรือวิปริตแต่กำเนิด และมีโอกาสที่จะเป็นเด็กปัญญาอ่อนได้มากกว่าปกติ

3. เด็กที่เกิดในครอบครัวที่มีลูกมาก จะมีน้ำหนักตัวน้อยกว่าเด็กในครอบครัวที่มีลูกน้อย และมีโอกาสที่จะเจ็บป่วยบ่อยครั้งกว่าเด็กในครอบครัวที่มีลูกน้อยคน ทั้งนี้เพราะเด็กทารกที่เกิดมาย่อมต้องการอาหารที่มีคุณค่าในการหล่อเลี้ยงร่างกายและสร้างความเจริญเติบโตให้แก่อวัยวะต่างๆ หากเด็กได้รับอาหารไม่เพียงพอก็จะโตช้า เจ็บป่วยได้ง่าย เพราะขาดความต้านโรค และสำหรับครอบครัวที่มีรายได้น้อยและยากจนนั้น เด็กที่เกิดเพิ่มขึ้นมาอีกคนหนึ่งย่อมหมายความว่า อาหารของสมาชิกในครอบครัวแต่ละคนจะต้องถูกเฉลี่ยออกไป

4. เด็กที่เกิดในครอบครัวที่มีลูกมาก มักจะมีระดับสติปัญญาต่ำกว่าเด็กในครอบครัวที่มีบุตรน้อยกว่า และมีโอกาสจะเจ็บป่วยด้วยโรคประสาทหรือโรคจิตหรือมีปัญหาเกี่ยวกับความประพฤติและอุปนิสัยมากกว่าเด็กที่เกิดในครอบครัวที่มีบุตรน้อย

ดังนั้น วิธีที่จะหลีกเลี่ยงจากอันตรายที่เกิดจากการมีลูกกระชั้นชิดติดกันไป หรือมีในเวลาอันไม่ควร การรู้จักใช้วิธีคุมกำเนิดแบบต่างๆ เช่น ถุงยาง ?มีชัย? ยาเม็ดคุมกำเนิด ยาฉีดคุมกำเนิด ยาสอดในช่องคลอด ห่วงอนามัย หรือวิธีนับระยะปลอดภัยก็ตามเพื่อช่วยให้กำหนดได้ว่าควรจะมีลูกเมื่อใด และเมื่อมีแล้วควรจะเว้นระยะการมีลูกคนใหม่ให้ห่างกันกี่ปี หรือเมื่อมีพอแล้วก็ควรใช้วิธีคุมกำเนิดแบบถาวร คือการทำหมันชาย ทำหมันหญิง ไปเสียเลยเพื่อตัดความกังวลที่จะตั้งท้องอีก


ลูกมากจะยากจนหรออออ

Oru
25-08-2011, 16:41
โอ้ววววว สิบแปดคนให้ตายเถอะ!!!
ถ้าบ้านไหนในไทยมีลูกเยอะขนาดนี้นะ เขาเอาไปตีเป็นเลขหวยแล้ว~!!

M150
26-08-2011, 20:52
ข่าวนี้ฮาจริงครับ ผมเห็นแล้วยังฮาเลย เพราะที่ดูผ่านทางช่อง 3 นั่นมันมีภาพให้ชมด้วยว่าบ้านเขาเป็นอย่างไร เด็กแต่ละคนอยู่อย่างไร กินข้าวกันยังไง เป้าหมายของเขาอยากให้มีลูก 20 คน โดยแบ่งเป็น ชาย 10 หญิง 10 คนครับ ยังดีที่บ้านของเขารวยพอดี ไม่งั้นมีเฮ !!!