View Full Version : การสู้ปัญหาอกหัก


อับดุล
26-06-2013, 00:12
ทุกคนคงเคยผ่านช่วงเวลาที่เลวร้ายในชีวิตกันมาบ้าง ช่วงที่สำคัญและเจ็บปวดก็คงเป็นช่วงอกหัก วันนี้เราจะมาดู การสู้ปัญหาอกหัก ขณะที่คุณอกหัก นอกจากคุณจะเสียการควบคุมตนเองแล้ว อารมณ์ของคุณอาจไม่นิ่งพอที่จะใช้สติไตร่ตรองหาทางออกให้กับปัญหา เพราะอารมณ์ทั้งหลายก็ประดังเข้ามาจนแทบจะยืนไม่ไหว บางครั้งอาจมีอาการโหยหาความรักทำให้เรากระทำตัวไร้ค่า เช่น ตามสืบแฟนเก่า โทรไปตื๊อ ซึ่งนั่นไม่ใช่ทางออกของปัญหา

http://board.roigoo.com/attachment.php?attachmentid=7229&stc=1&d=1372223585 (http://board.roigoo.com/tags/%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%AA%E0%B8%B9%E0%B9%89%E0%B8%9B%E0%B8%B1%E0%B8%8D%E0%B8%AB%E0%B8%B2%E0%B8%AD%E0%B8%81%E0%B8%AB%E0%B8%B1%E0%B8%81.html)
รูปภาพจาก travelandteachrecruiting.com


หากแต่เป็นการลดค่าของตัวเราเองให้น้อยลงไป หากใครคนหนึ่งต้องการจากไปเราควรปล่อยให้เขาไปจะดีกว่า การยื้อหรือรั้งไม่ได้ช่วยอะไรให้มันดีขึ้น หากยื้อให้เขาสงสารแต่พอมาอยู่ด้วยกันเขาไม่ได้รักเรา คนที่เจ็บก็จะเป็นเรา และอาจเจ็บมากกว่าการที่เลิกรากันไปเสียอีก การใช้สติ และสร้างกำลังใจนั้นสำคัญสำหรับคนที่กำลังอกหักอย่างยิ่ง ลองมาศึกษาวิธีเพื่อรักษาอาการอกหักกันดีกว่า

"อกหัก" อาการที่ไม่ได้เจ็บบริเวณหัวใจ แต่กลับปวดที่ความรู้สึก ซึ่งมีสาเหตุมาจากการเปลี่ยนสถานะของคนรู้ใจมาเป็นคนรู้จัก และไม่สามารถรักษาได้ด้วยยา แถมความรุนแรงของอาการก็ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ ตามทฤษฎีที่ว่ายิ่งรักมาก...ก็ยิ่งเจ็บมาก -_- และสำหรับคนที่อยู่ในห้วงเวลา "อกหัก" แต่ยังหาทางออกไม่ได้ ถ้าอย่างนั้นลองมาดูกันดีกว่าว่า 10 วิธีรักษาอาการอกช้ำ ๆ มีอะไรบ้าง

1. ตัดทุกการสื่อสาร : ไม่ว่าเป็นโทรศัพท์ เฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์ ตัดออกให้หมด รู้ว่าเป็นเรื่องที่ทำยากที่สุด แต่มันก็เป็นวิธีที่ดีที่สุดสำหรับคุณเช่นกัน ลองถามตัวเองว่าคุณจะทำใจได้หรือเปล่า หากเปิดไปเจอรูปเขากำลังมีความสุข แต่ตัวคุณกลับนั่งจมอยู่กับกองน้ำตา ทำไมไม่กลับมาเป็นคนเดิม คนที่ยิ้มร่าเริงแจ่มใสให้กับทุกเรื่อง และอย่าลืมว่าก่อนจะเจอเขาคุณก็ยังมีชีวิตอยู่ได้ ในวันนี้ที่เขาจากไป ทำไมจะกลับมาอยู่กับตัวเองอีกครั้งไม่ได้ล่ะ (จริงไหม)

2. ร้องไห้ให้พอ : กำหนดเวลาเอาไว้ว่าให้เวลาตัวเองร้องไห้สักเท่าไหร่ สามวัน หนึ่งสัปดาห์ หรือหนึ่งเดือน แล้วร้องไห้เสียใจฟูมฟายมันให้เต็มที่ ปลดปล่อยความเศร้า ความอ่อนแอออกมาให้หมด จากนั้นเมื่อครบกำหนดก็กลับไปใช้ชีวิตตามปกติ แล้วคิดเสมอว่าจะเสียเวลาร้องไห้ให้กับคนที่ไม่เห็นคุณค่าของเราทำไม เก็บใจไว้ให้คนที่รักเราจริง ๆ ดีกว่า

3. คิดถึงข้อเสียของเขา : สาเหตุที่ทำให้ใครหลาย ๆ คนตัดใจไม่ได้สักที เพราะมีแต่เรื่องเก่า ๆ มองไปทางไหนก็มีแต่ความทรงจำดี ๆ เต็มไปหมด วิธีแก้ คือ นึกถึงข้อเสียหรือสิ่งแย่ ๆ ของเขาให้มากที่สุด อะไรที่เขาทำให้เราเสียใจ เสียความรู้สึกมากที่สุด แล้วสักพักอาการช้ำรักก็หายไปเอง

4. ทำตัวเองให้ดูดีเข้าไว้ : คงไม่มีใครสนใจคนที่ไม่ดูแลตัวเองหรอกนะคะ เพราะขนาดคุณยังไม่ดูแลตัวเองเลย เดินออกมาจากที่นอนแล้วเปลี่ยนตัวเองซะ เรียกความสดใสและความมั่นของเรากลับคืนมา ลองตัดผมทรงใหม่ ใส่เสื้อผ้าสไตล์ใหม่ ๆ ดูบ้าง บางทีคุณอาจจะพบอีกด้านของตัวคุณก็ได้

5. ออกกำลังกาย : คงเป็นสิ่งที่เพื่อนคุณเห็นด้วยมากที่สุด เพราะการออกกำลังกายนอกจากจะทำให้ร่างกายคุณแข็งแรงแล้ว ยังทำให้จิตใจแจ่มใสอีกด้วย ไม่แน่นะคุณอาจจะพบกับเพื่อนใหม่ ๆ ที่ชอบออกกำลังกายเหมือนกันก็ได้

6. ออกไปสังสรรค์ : หลังจากที่โลกใบนี้มีแต่เราสองคน ก็กลับกลายเป็นโลกสีหม่นของคุณคนเดียว แต่คุณลืมอะไรไปหรือเปล่าว่ายังมีเพื่อนซี้ที่อยู่ข้างคุณอยู่นะ ชวนกันออกไปปาร์ตี้สิ ออกสเต็ปกันให้สุดเหวี่ยง แล้วเอาความเศร้าโยนทิ้งใส่ถังขยะไปเลย

7. หลีกเลี่ยงเจอเพื่อนของเขา : เป็นอีกทางหนึ่งที่ตัดเขาออกไปจากชีวิตคุณ คุณคงทำใจได้ยากหากคุณยังรับรู้เรื่องของเขาตลอดเวลา และอาจจะรู้มากกว่าตอนเป็นแฟนกันเสียอีก แล้วถ้ารู้ว่าเขามีใครอีกคนละก็ รับรองว่าน้ำตาของคุณได้ไหลออกมาอีกแน่ ๆ ทางที่ดีหลีกเลี่ยงการเจอเพื่อนของเขาดีกว่า ถ้าคนคนนั้นเป็นทั้งเพื่อนเขาและเพื่อนคุณ ก็ลองทิ้งระยะห่างสักพักจะดีกว่า ให้อะไร ๆ มันดีขึ้นกว่านี้แล้วค่อยกลับไปคุยกันใหม่ก็ยังไม่สาย

8. ทำตัวให้ยุ่งเข้าไว้ : จัดตารางให้แน่น อย่าให้มีเวลาว่างมานั่งคิดฟุ้งซ่าน เสียเวลาเปล่า ๆ ออกไปหาสิ่งดี ๆ ให้กับตัวเองดีกว่า ไม่ว่าจะฝึกปีนเขา เรียนภาษา หาคอร์สทำอาหาร ฯลฯ ก็ทำมันไปให้หมด สุดท้ายคุณอาจจะได้เจอกับงานอดิเรกใหม่ของตัวคุณเองก็ได้

9. มองหาความสัมพันธ์ครั้งใหม่ : มันไม่ใช่เรื่องแย่เสมอไปหรอก เพียงแต่คุณก็ควรให้ความยุติธรรมกับหนุ่มคนใหม่ของคุณด้วย ควรบอกสถานการณ์ของตัวคุณให้เขารับรู้ดีกว่า เพราะจากเพื่อนคุยเล่น ๆ อาจจะกลายมาเป็นตัวจริงของคุณก็ได้ แต่ถ้าไม่ใช่ก็คิดเสียว่าอย่างน้อยคุณก็ได้เพื่อนดี ๆ ในชีวิตคุณเพิ่มมาอีกหนึ่งคนนะ

10. รักษาด้วยการบำบัด : ไม่ได้หมายความว่าให้พบจิตแพทย์นะจ๊ะ แต่หมายถึงการผ่อนคลายอารมณ์ พาตัวเองไปเข้าสปา นวดตัวให้สบาย หรือจะทรีทเมนท์บำรุงผมก็ได้ไม่ว่ากัน นาทีนี้ไม่มีอะไรสำคัญไปมากกว่าตัวคุณเองอีกแล้ว เอาเวลาที่เคยมีให้เขา กลับมาดูแลตัวเอง ก้าวออกจากชีวิตเดิม ๆ ดีกว่า

เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม