View Full Version : หลักคําสอนศาสนาคริสต์ ที่สำคัญคือ บัญญัติ 10 ประการและความรัก


อับดุล
19-07-2013, 21:02
ศาสนาคริสต์ เป็นศาสนาที่มีคนนับถือมากมาย คำสอน ที่ว่าด้วยเรื่องของการรักผู้อื่น ทำให้ผู้คนศรัทธาและเต็มใจที่จะช่วยเหลือผู้อื่นอย่างมาก ดูได้จากชาวตะวันตกที่นับถือคริสต์ ส่วนมากจะเน้นบริจาคสิ่งของ แรงกาย แรงใจ เพื่อช่วยชาวโลก บางคนร่ำรวยมาก ก็ยังบริจาคสมบัติที่ตนมีเพื่อให้มวลชน นั่นคือสิ่งที่ชาวคริสต์ทุกคนล้วนหวังว่า

http://board.roigoo.com/members/ohmohm-albums-%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B8%84%E0%B9%8D%E0%B8%B2%E0%B8%AA%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B8%A8%E0%B8%B2%E0%B8%AA%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%B4%E0%B8%AA%E0%B8%95%E0%B9%8C+22-7-13-picture5289-%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B8%84%E0%B9%8D%E0%B8%B2%E0%B8%AA%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B8%A8%E0%B8%B2%E0%B8%AA%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%B4%E0%B8%AA%E0%B8%95%E0%B9%8C.jpg (http://board.roigoo.com/members/ohmohm-albums-%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B8%84%E0%B9%8D%E0%B8%B2%E0%B8%AA%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B8%A8%E0%B8%B2%E0%B8%AA%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%B4%E0%B8%AA%E0%B8%95%E0%B9%8C+22-7-13-picture5289-%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B8%84%E0%B9%8D%E0%B8%B2%E0%B8%AA%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B8%A8%E0%B8%B2%E0%B8%AA%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%B4%E0%B8%AA%E0%B8%95%E0%B9%8C.html)


สักวันตนจะกลายเป็นผู้ให้บ้าง นับว่าเป็นความคิดที่ดี คนไทยเราเน้นทำบุญกับพระสงฆ์ จนมีข่าวตามหน้าหนึ่งหนังสือพิมพ์ พระขับเบนซ์ มีเครื่องบินส่วนตัว ปลูกบ้านหลายหลัง มันแตกต่างกับหลักคำสอนที่ว่าไม่ให้ยึดติดนัก เราควรจะอายเขาไหม หลักคําสอนศาสนาคริสต์ ที่สำคัญคือ บัญญัติ 10 ประการและความรัก อาจช่วยให้เราเข้าใจศาสนาคริสต์ได้ดียิ่งขึ้น ไม่แน่ว่าคุณอาจชอบศาสนาคริสต์กว่าที่คิดก็ได้

บัญญัติ 10 ประการ คือรายการคำสอนและข้อปฏิบัติตามคัมภีร์ไบเบิล ซึ่งเป็นพระบัญญัติที่พระเจ้าทรงประทานแก่ชนชาติอิสราเอล ที่กล่าวโดย โมเสสบนยอดเขา Sinai และสลักไว้ในแผ่นหิน 2 แผ่น บัญญัติ 10 ประการเป็นที่รู้จักสำหรับคริสต์ศาสนา และ ลัทธิยูดาห์
ในภาษาฮิบรู ใช้คำว่า Aseret ha-Dvar?m ?และใน ภาษา Rabbinical ฮิบรู ใช้คำว่า Aseret ha-Dibrot ? ซึ่งทั้งสองคำหมายถึง บัญญัติ 10 ประการ และมีการใช้ในภาษากรีก ซึ่งแปลมาจากภาษาฮิบรูว่า (dekalogoi) หมายถึง คำศัพท์สิบคำ("Ten Commandments")

บัญญัติ 10 ประการมีดังนี้
เจ้าจงอย่ามีพระเจ้าอื่นใดต่อหน้าเรา
เจ้าจงอย่าสร้างรูปเคารพสำหรับคนเป็นสัณฐานรูปใด ๆ ซึ่งมีอยู่ในท้องฟ้า อากาศเบื้องบน หรือแผ่นดินเบื้องล่าง หรือในน้ำ ใต้แผ่นดิน อย่ากราบไหว้ ปฏิบัติรูปนั้น ๆ ด้วยเราคือ พระยาห์เวห์พระเจ้าเบื้องบนของเจ้า เป็นผู้ทรงหวงแหน ให้โทษของบิดา ซึ่งชังเราติดถึงลูกหลาน กระทั่ง ๓-๔ ชั่วอายุคน แต่แสดงกรุณาต่อผู้ที่รักเรา และรักษาบัญญัติของเราหลายพันชั่วอายุคน
อย่าออกพระนามพระยาห์เวห์ พระเจ้าของเจ้าเปล่า ๆ ด้วยผู้ที่ออกนามของพระองค์ท่านเล่นเปล่า ๆ นั้น พระเจ้าจะไม่ทรงปรับโทษก็หามิได้
จงนับถือวันสะบาโต (Sabbath day) คือ วันเสาร์เป็นวันบริสุทธิ์ จงทำงานของเจ้าให้เสร็จใน ๖ วัน โดยสามารถตรวจสอบได้จากพระคัมภีร์ดังนี้
มัทธิว 28 ข้อ 1 กล่าวเกี่ยวกับ การคืนพระชนม์ ภายหลังวันสะบาโต เวลาใกล้รุ่งเช้าวันต้นสัปดาห์....
มาระโก 16 ข้อ 1 กล่าวชัดเจนว่า เมื่อวันสะบาโตล่วงไปแล้ว เป็นวันต้นสัปดาห์ นั่นก็หมายถึงว่าวันสะบาโตก็คือวันที่อยู่ก่อนวันต้นสัปดาห์ นั่นก็คือวันเสาร์นั่นเอง
และข้ออื่นๆที่สนับสนุนคือ ลูกา 24 ข้อ 1-12 ยอห์น 20 ข้อ 1-10 มาระโก 16 ข้อ 1 ข้อพระคัมภีร์ได้กล่าวเกี่ยวกับพระเยซูทรงฟื้นขึ้นหลังวันสะบาโต ซึ่งก็คือวันต้นสัปดาห์ และวันต้นสัปดาห์ตามหลักสากลก็คือวันอาทิตย์ แต่วันที่ ๗ เป็นวันสะบาโตของพระยาห์เวห์พระเจ้าของเจ้า ในวันนั้นจงอย่าทำงานใด ๆ คือเจ้าเองหรือบุตรธิดาของเจ้า หรือทาสของเจ้า หรือบรรดาสัตว์ใช้งานของเจ้า หรือแขกผู้อาศัยอยู่ข้างในประตูเมืองของเจ้า ทั้งนี้ เพราะพระเจ้าได้สร้างฟ้าแผ่นดิน และทะเล และทุกสิ่งที่มีอยู่ในที่ทั้งปวงนั้น จึงทรงพักในวันที่ ๗ ฉะนั้น พระเจ้าจึงทรงอวยพรแต่วันสะบาโต และทรงถือว่าเป็นวันบริสุทธิ์
จงนับถือบิดา มารดาของตน เพื่อเจ้าจะได้มีชีวิตยืนนานอยู่บนแผ่นดินที่พระยาห์เวห์พระเจ้าของเจ้า ประทานแก่เจ้า
อย่าฆ่าคน
อย่าล่วงประเวณีในลูกเมียของเขา
อย่าขโมย
อย่าเป็นพยานเท็จต่อเพื่อนบ้านของเจ้า
อย่าโลภอยากได้เรือนของเพื่อนบ้าน อย่าโลภมากอยากได้เมียของเพื่อนบ้าน หรือทาสของเขา โค ลา ของเขา หรือสิ่งหนึ่งสิ่งใดของเพื่อนบ้านนั้น
พระบัญญัติ 10 ประการ (นิกายโรมันคาทอลิก)
จงนมัสการ องค์พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าพระองค์เดียวของท่าน
อย่าออกพระนามพระเจ้าโดยไม่สมเหตุ
อย่าลืมฉลองวันพระเจ้าเป็นวันศักดิ์สิทธิ์
จงนับถือบิดามารดา
อย่าฆ่าคน
อย่าผิดประเวณี
อย่าลักขโมย
อย่าพูดเท็จใส่ร้ายผู้อื่น
อย่าปลงใจผิดประเวณี
อย่ามักได้ทรัพย์สินของผู้อื่น

คำถาม: พระบัญญัติ 10 ประการคืออะไร?
คำตอบ: พระบัญญัติ 10 ประการคือข้อกฏหมาย 10 ข้อที่พระเจ้าทรงโปรดประทานให้กับชนชาติอิสราเอลได้ปฏิบัติหลังจากได้อพยพออกจากแผ่นดินอียิปต์ พระบัญญัติ 10 ประการนี้ได้สรุปรวบรวมจากพระบัญญัติที่มีอยู่ในพระคำภีร์เดิมทั้งหมด 600 กว่าข้อ พระบัญญัติ 4 ข้อแรกได้พูดถึงการปฏิบัติและความสัมพันธ์ระหว่างเรากับพระเจ้า และ 6 ข้อหลังได้พูดถึงการปฏิบัติและความสัมพันธ์ระหว่างเรากับผู้อื่น ซึ่งพระบัญญัติ 10 ประการนี้ได้บันทึก

ไว้ในพระคำภีร์พระธรรม อพยพ 20: 1-17 และพระธรรม เฉลยธรรมบัญญัติ 5:6-21 ดังนี้

ข้อที่ 1 ?อย่ามีพระเจ้าอื่นใดนอกเหนือจากเรา? บัญญัติข้อนี้ได้ต่อต้านการนมัสการพระอื่นเพราะมีพระเจ้าที่แท้จริงเพียงองค์เดียวเท่านั้น นอกนั้นเป็นพระเจ้าเท็จ

ข้อที่ 2 ?อย่าทำรูปเคารพสำหรับตน เป็นรูปสิ่งใดที่อยู่ในฟ้าเบื้องบน หรือบนแผ่นดินเบื่องล่าง หรือในน้ำใต้แผ่นดิน อย่ากราบไหว้หรือปรนนิบัติรูปเหล่านั้น เพราะเราคือพระเจ้าของเจ้า เป็นพระเจ้าที่หวงแหน ให้โทษบิดาตกทอดไปถึงลูกหลานของผู้ที่ชังเราจนถึงสามชั่วสี่ชั่วอายุคน แต่เราแสดงความรักมั่นคงต่อคนที่รักเรา และปฏิบัติตามบัญญัติของเราจนถึงพันชั่วอายุคน? พระบัญญัติข้อนี้การต่อต้านการสร้างรูปเคารพ,การสร้างตัวแทนของพระเจ้าที่เรามองเห็นได้ ไม่มีสิ่งจำลองใดที่เราสามารถสร้างให้เหมือนกับพระเจ้าที่แท้จริงได้ การสร้างรูปเคารพเปรียบเสมือนกับการนมัสการพระเจ้าเท็จนั้นเอง

ข้อที่ 3 ?อย่าออกพระนามพระเจ้าของเจ้าอย่างไม่สมควร เพราะผู้ที่ออกพระนามพระองค์อย่างไม่สมควรนั้นพระเจ้าจะทรงถือว่าไม่มีโทษก็หามิได้? พระบัญญัติข้อนี้ได้ต่อต้านการกล่าวถึงพระนามของพระเจ้าอย่างไม่เหมาะสม เราแสดงถึงการเคารพต่อพระเจ้าโดยการกล่าวถึงพระองค์ด้วยความสุภาพและให้เกียรติพระองค์เสมอ

ข้อที่ 4 ?จงระลึกถึงวันสะบาโต ถือเป็นวันบริสุทธิ์ จงทำการงานของเจ้าทั้งสิ้นหกวัน แต่วันที่เจ็ดนั้นเป็นสะบาโตของพระเจ้าของเจ้า ในวันนั้นอย่ากระทำการงานใดๆ ไม่ว่าเจ้าเอง หรือบุตรชาย บุตรหญิงของเจ้า หรือทาสทาสีของเจ้า หรือสัตว์ใช้งานของเจ้า หรือแขกที่อาศัยอยู่ในประตูเมืองของเจ้า เพราะในหกวันพระเจ้าทรงสร้างฟ้า และแผ่นดิน ทะเล และสรรพสิ่งซึ่งมีอยู่ในที่เหล่านั้น แต่ในวันที่เจ็ดทรงพัก เพราะฉะนั้นพระเจ้าทรงอวยพระพรวันสะบาโต และทรงตั้งวันนั้นไว้เป็นวันบริสุทธ์? พระบัญญัติข้อนี้ได้ตั้งไว้ให้วันสะบาโต (ซึ่งวันเสาร์นั้นถือเป็นวันสุดท้ายของสัปดาห์)เป็นวันที่เราได้อุทิศให้กับพระเจ้า

ข้อที่ 5 ?จงให้เกียรติแก่บิดามารดาของเจ้า เพื่ออายุของเจ้าจะได้ยืนนานบนแผ่นดิน ซึ่งเจ้าของเจ้าประทานให้แก่เจ้า? พระบัญญัติข้อนี้สอนให้เราปฏิบัติต่อบิดามารดาของเราด้วยความเคารพและนับถือ

ข้อที่ 6 ?อย่าฆ่าคน? พระบัญญัติข้อนี้ได้ต่อต้านการฆ่าผู้อื่นด้วยการไตร่ตรองไว้ล่วงหน้าแล้ว

ข้อที่ 7 ?อย่าล่วงประเวณีผัวเมียเขา? พระบัญญัติข้อนี้ได้ต่อต้านการมีเพศสัมพันธ์กับผู้อื่นนอกเหนือจากคู่สมรสของตัวเอง

ข้อที่ 8 ?อย่าลักทรัพย์? พระบัญญัติข้อนี้ได้ต่อต้านการเอาสิ่งของของผู้อื่นที่ไม่ใช่ของตัวเองโดยที่ไม่ได้ขออนุญาติจากเจ้าของก่อน

ข้อที่ 9 ?อย่าเป็นพยานเท็จใส่ร้ายเพื่อนบ้าน? พระบัญญัติข้อนี้ได้ต่อต้านการเป็นพยานเท็จต่อความผิดของผู้อื่น และเป็นข้อบัญญัติที่สำคัญมากในการที่เราควรต่อต้านการพูดเท็จต่างๆ

ข้อที่ 10 ?อย่าโลภครัวเรือนของเพื่อนบ้าน อย่าโลภภรรยาของเพื่อนบ้านหรือทาสทาสีของเขา หรือโค ลา ของเขา หรือสิ่งใดๆซึ่งเป็นของของเพื่อนบ้าน? พระบัญญัติข้อนี้ได้ต่อต้านการอยากได้ของของผู้อื่นที่ไม่ใช่ของเรา ความโลภสามารถนำเราไปสู่ความแตกแยก และการฆ่าคน, การล่วงประเวณี และการขโมย ถ้าการทำสิ่งหนึ่งสิ่งใดเป็นความผิด การคิดที่จะทำสิ่งนั้นก็เป็นความผิดเช่นกัน


ที่มา http://upload.wikimedia.org/wikipedia/th/d/d5/Wikipedia-th_f0nt02.gif