View Full Version : ไวเบอร์ (Viber) ท้าชน Line ลองโหลด app นี้มาเล่นกันดู


Knooch C
19-11-2013, 10:52
http://www.manager.co.th/images/blank.gifไวเบอร์ (Viber) ท้าชน Line ลองโหลด app นี้มาเล่นกันดู <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> <table align="Right" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td width="5">http://www.manager.co.th/images/blank.gif</td> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="200"> <tbody><tr> <td align="center" valign="Top" width="200"> http://mpics.manager.co.th/pics/Images/556000014794401.JPEG </td> </tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" height="5" valign="top">http://www.manager.co.th/images/blank.gif</td> </tr> </tbody></table> เพราะวีแชต (WeChat) กาเกาทอล์ก (KakaoTalk) ไลน์ (Line) รวมถึงหลายคู่แข่งที่เป็นแอปพลิเคชันรับส่งข้อความแชตบนสมาร์ทโฟนต่างมีร้าน สติกเกอร์ไว้ให้บริการลูกค้าในอาเซียนทุกราย ล่าสุดไวเบอร์ (Viber) แอปพลิเคชันโทรศัพท์ผ่านอินเทอร์เน็ตที่สามารถรับส่งข้อความแชตบนอุปกรณ์พก พาจึงประกาศเปิดตัวร้านสติกเกอร์บ้าง เพื่อเสริมเขี้ยวเล็บให้ไวเบอร์เวอร์ชันใหม่ Viber 4.0 สามารถทำรายได้และแข่งขันได้ดีขึ้น

การที่ไวเบอร์ตัดสินใจเปิดตัวร้านสติกเกอร์ของตัวเองถูกมองว่าไม่ใช่ เรื่องน่าแปลกใจ เนื่องจากที่ผ่านมาร้านสติกเกอร์ถือเป็นแหล่งรายได้ที่ทำเงินมหาศาลให้แอ ปพลิเคชันแชตหลายราย ตัวอย่างเช่นการประกาศเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมาของไลน์ ว่ารายได้มากกว่า 27% ของไลน์มาจากการจำหน่ายสติกเกอร์ ซึ่งถือเป็นสัดส่วนสูงมากเมื่อพิจารณาว่าไลน์สามารถทำเงิน 27% ของรายได้รวม 100.7 ล้านเหรียญสหรัฐจากร้านสติกเกอร์

การประกาศของไวเบอร์ยังทำให้โลกหันมามองวอตส์แอป (WhatsApp) แอปพลิเคชันแชตที่ยังไม่มีการส่งสัญญาณว่าจะเปิดร้านสติกเกอร์ของตัวเอง และยังยึดรูปแบบการทำเงินแบบดั้งเดิม นั่นคือการรอให้ผู้บริโภคเสียเงินดาวน์โหลดแอปพลิเคชันในการใช้งานครั้งแรก โดยเบื้องต้นคาดว่าวอตส์แอปจะยังยึดรูปแบบธุรกิจนี้ต่อไปเนื่องจากสามารถทำ เงินจากรูปแบบธุรกิจดั้งเดิมนี้ได้จริง

</td> </tr> <tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> <table align="Center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="600"> <tbody><tr> <td align="center" valign="Top" width="600"> http://mpics.manager.co.th/pics/Images/556000014794402.JPEG </td> </tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" height="5" valign="top">http://www.manager.co.th/images/blank.gif</td> </tr> </tbody></table> สำหรับไวเบอร์ ซีอีโอทาลมอน มาร์โค (Talmon Marco) ยอมรับว่า การเปิดร้านสติกเกอร์ครั้งนี้เกิดขึ้นเพื่อให้ไวเบอร์สามารถแข่งขันกับคู่ แข่งได้ โดยเรียกชื่อร้านสติกเกอร์ของตัวเองว่า Sticker Market พร้อมการันตีว่าจะมีตัวการ์ตูนน่ารักให้ผู้ใช้เลือกซื้อมากกว่า 1,000 แบบ ทั้งหมดนี้ถูกออกแบบมาเพื่อผู้ใช้ในเอเชียโดยเฉพาะ

นอกจากร้านสติกเกอร์ คุณสมบัติใหม่ที่ไวเบอร์เพิ่มมาให้ในเวอร์ชัน 4.0 ยังมีระบบส่งต่อข้อความถึงกลุ่มผู้ใช้ไวเบอร์หลายคนในเวลาเดียวกัน, การเปิดให้ผู้ใช้สามารถเลือกภาพพื้นหลังแอปตามที่ต้องการ, การสนทนาเป็นกลุ่มที่มีสมาชิกมากกว่า 100 คน, การออกแบบมาเพื่อใช้งานบนแท็บเล็ตแอนดรอยด์ (Android), การรับส่งข้อความขณะโทร. รวมถึงความสามารถในการส่งข้อความทันใจ ?พุช ทู ทอล์ก (Push To Talk)? ความสามารถส่งข้อความเสียงความยาว 15 วินาทีถึงกันได้ในเวลา 4-6 วินาที

ปัจจุบันไวเบอร์มีผู้ลงทะเบียนใช้งานทั่วโลกมากกว่า 200 ล้านคน นำหน้ากาเกาทอล์กที่มีผู้ใช้ 100 ล้านคน แต่ยังตามหลังวีแชตที่มีผู้ใช้งานประจำ 236 ล้านคน รวมถึงไลน์ ที่นำโด่งด้วยสถิติผู้ลงทะเบียน 280 ล้านราย
</td></tr></tbody></table>