Knooch C
21-11-2013, 13:04
รูปภาพ มุมมองของแมว สายตาของแมว เมื่อเทียบกับคน
<table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr><td class="body" align="left" valign="baseline"><table align="Center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"><tbody><tr><td align="center" valign="top"><table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="575"><tbody><tr><td align="center" valign="Top" width="575">http://mpics.manager.co.th/pics/Images/556000013665601.JPEG </td> </tr> <tr><td class="Image" align="left" valign="baseline">ภาพที่ นิคโกเลย์ แลมม์ พยายามจำลองว่าแมวจะมองเห็นเช่นไร โดยเปรียบเทียบระหว่างภาพที่คนมองเห็น (ภาพบน) และภาพเดียวกันนั้นที่แมวมองเห็น (ล่าง) สำหรับภาพนี้คือมุมมองยามคำคืนของคน (บน) และแมว (ล่าง) </td></tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" height="5" valign="top">http://www.manager.co.th/images/blank.gif</td> </tr> </tbody></table> ถ้าแมวเป็นสัตว์ที่คิดจะครองโลกอย่างที่ล้อกันในโซเชียลมีเดีย แล้วโลกที่แมวมองเห็นจะเป็นอย่างไร?
นักวิทยาศาสตร์มีข้อมูลเกี่ยวกับมุมมองมากพอสมควร แต่เราก็คงนึกภาพที่แมวมองเห็นไม่ออก กระทั่ง นิคโกเลย์ แลมม์ (Nickolay Lamm) ศิลปินและนักวิจัยวัย 25 ปี จากพิตต์เบิร์ก เพนน์ซิลวาเนีย ผู้มีผลงานศิลปะเป็นที่เลื่องลือในโลกอินเทอร์เน็ต ได้สร้างภาพชุดที่เผยลักษณะมุมมองของแมวเหมียว ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบแมวกับคนแล้ว เราจะมีมุมมองในที่สว่างดีกว่าแมว ขณะที่แมวจะมองเห็นภาพด้านข้างและมีมุมมองในที่มืดดีกว่าคน
เราเรียนรู้วิทยาศาสตร์จากงานศิลปะดังกล่าวได้ โดยไลฟ์ไซน์ได้ให้ข้อมูลจาก เคอร์รี เคตริง (Kerry Ketring) ผู้ มีคลีนิครักษาดวงตาสัตว์ในไวท์ฮอลล์ มิชิแกน สหรัฐฯ ว่าแมวมีมุมมองที่กว้างประมาณ 200 องศา ขณะที่คนเรามีมุมมอง 180 องศา และแมวยังมีมุมมองด้านข้างที่ยอดเยี่ยมกว่า ทำให้เจ้าเหมียวเห็นหนูหรือสิ่งของกระดุกกระดิกอยู่ที่หางตาได้ดีกว่าคน
แมวยังเป็นสัตว์ที่หากินในช่วงเวลาพลบค่ำและรุ่งสาง ซึ่งนั่นอาจเป็นเหตุผลว่าทำไมพวกมันจึงต้องมีสายตาในยามกลางคืนที่ดี ตาของแมวมีเซลล์รูปแท่ง (rod cell) มากกว่าคน 6-8 เท่า ทำให้สายตาของแมวไวในที่มีแสงน้อยมากกว่า อีกทั้งตาของแมวที่มีรูปร่างเป็นวงรีและมีกระจกตาขนาดใหญ่ และมีชั้นเนื้อเยื่อทาพีตัม (tapetum) ที่อาจจะสะท้อนแสงกลับสู่จอเรตินา ช่วยรวมแสงได้ดีขึ้น
</td> </tr> <tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> <table align="Center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="575"> <tbody><tr> <td align="center" valign="Top" width="575"> http://mpics.manager.co.th/pics/Images/556000013665602.JPEG </td> </tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" height="5" valign="top">http://www.manager.co.th/images/blank.gif</td> </tr> </tbody></table> เคตริงอธิบายว่า เนื้อเยื่อทาพีตัมอาจช่วยเลื่อนความยาวคลื่นของแสงที่ตาแมวมองเห็น ทำให้เหยื่อหรือวัตถุอื่นๆ ในตอนกลางคืนดูเด่นชัดมากขึ้น และเซลล์แท่งพิเศษในตาแมวยังช่วยให้แมวมีสัมผัสความเคลื่อนไหวในความมืดได้ ดีกว่าที่คนเราจะเห็นได้ แต่คนเราก็สามารถตรวจจับความเคลื่อนไหวในที่สว่างได้ดีกว่าหมาและแมว 10-12 เท่า เนื่องจากคนมีเซลล์รูปกรวยที่ช่วยให้มองเห็นในที่สว่างได้ดีกว่า โดยคนเรามีเซลล์ดังกล่าวมากกว่าแมวถึง 10 เท่า
เคตริงระบุว่า คนเรายังมีเซลล์รูปกรวยถึง 3 ชนิด ช่วยให้เรามองเห็นสเปกตรัมสีได้กว้างกว่า โดยเฉพาะแสงสีแดง แสงสีเขียวและแสงสีน้ำเงิน ขณะที่แมวอาจจะมีเซลล์รูปกรวย 3 ชนิดเช่นกัน แต่จากการทดสอบพฤติกรรมเผยว่าแมวอาจจะไม่ได้เห็นช่วงสีได้มากเหมือนคน และผู้เชี่ยวชาญบางคนเชื่อว่าแมวมีข้อจำกัดในการมองเห้นสีน้ำเงินและเทา ขณะที่บางส่วนก็เชื่อว่าแมวมองเห็นได้ใกล้เคียงกับสุนัข แต่มีจำนวนสีและความอิ่มตัวของสีน้อยกว่า ทั้งนี้ สุนัขเห็นจำนวนสีได้น้อยกว่ามนุษย์ และไม่สามารถแยกแยะระหว่างวัตถุสีแดง สีเหลือง สีเขียวและสีส้ม ส่วนปลาสามารถเห็นความยาวคลื่นอัลตราไวโอเลต (ยูวี) ได้ ในขณะที่คนเรามองไม่เห็น
นอกจากนี้ คนยังเห็นความละเอียดของภาพที่มีสีสดใสในช่วงกว้างกว่าแมวมาก เนื่องจากมีเซลล์รูปกรวยจำนวนมาก โดยคนสามารถเห็นวัตถุได้ชัดเจนที่ระยะห่าง 30-60 เมตร แต่แมวต้องเห็นวัตถุที่ระยะ 6 เมตรเป็นอย่างน้อย จึงจะเห็นวัตถุเดียวกันได้อย่างชัดเจน ซึ่งเป็นเช่นนี้ เคตริงอธิบายว่า เพราะแมวขาดกล้ามเนื้อที่จำเป็นต่อการเปลี่ยนรูปร่างเลนส์ในตา อีกทั้งไม่สามารถเห็นสิ่งของได้ชัดเจนในระยะใกล้ได้อย่างคน
</td> </tr> <tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> <table align="Center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="575"> <tbody><tr> <td align="center" valign="Top" width="575"> http://mpics.manager.co.th/pics/Images/556000013665603.JPEG </td> </tr> <tr><td class="Image" align="left" valign="baseline">ภาพเปรียบเทียบมุมมองต่อเทือกเขาแอลป์ (Alps) ระหว่างคน (บน) และ แมว (ล่าง)คนเห็นภาพมีสีสันสดใสได้มากกว่าแมว </td></tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" height="5" valign="top">http://www.manager.co.th/images/blank.gif</td> </tr> </tbody></table>
</td> </tr> <tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> <table align="Center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="575"> <tbody><tr> <td align="center" valign="Top" width="575"> http://mpics.manager.co.th/pics/Images/556000013665604.JPEG </td> </tr> <tr><td class="Image" align="left" valign="baseline">นักวิทยาศาสตร์บางส่วนเชื่อว่าแมวมองเห็นสีฟ้าได้ไม่ดีนัก </td></tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" height="5" valign="top">http://www.manager.co.th/images/blank.gif</td> </tr> </tbody></table>
</td> </tr> <tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> <table align="Center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="575"> <tbody><tr> <td align="center" valign="Top" width="575"> http://mpics.manager.co.th/pics/Images/556000013665605.JPEG </td> </tr> <tr><td class="Image" align="left" valign="baseline">แมวยังมองเห็นระยะใกล้ได้ไม่ได้ดี</td></tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" height="5" valign="top">http://www.manager.co.th/images/blank.gif</td> </tr> </tbody></table>
</td> </tr> <tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> <table align="Center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="575"> <tbody><tr> <td align="center" valign="Top" width="575"> http://mpics.manager.co.th/pics/Images/556000013665606.JPEG </td> </tr> <tr><td class="Image" align="left" valign="baseline">ภาพนิวยอร์กที่แมวจะเห็นเบลอๆ เพราะมองเห็นได้ไม่ดีนักสำหรับภาพระยะไกล </td></tr></tbody></table></td></tr></tbody></table></td></tr></tbody></table>
<table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr><td class="body" align="left" valign="baseline"><table align="Center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"><tbody><tr><td align="center" valign="top"><table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="575"><tbody><tr><td align="center" valign="Top" width="575">http://mpics.manager.co.th/pics/Images/556000013665601.JPEG </td> </tr> <tr><td class="Image" align="left" valign="baseline">ภาพที่ นิคโกเลย์ แลมม์ พยายามจำลองว่าแมวจะมองเห็นเช่นไร โดยเปรียบเทียบระหว่างภาพที่คนมองเห็น (ภาพบน) และภาพเดียวกันนั้นที่แมวมองเห็น (ล่าง) สำหรับภาพนี้คือมุมมองยามคำคืนของคน (บน) และแมว (ล่าง) </td></tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" height="5" valign="top">http://www.manager.co.th/images/blank.gif</td> </tr> </tbody></table> ถ้าแมวเป็นสัตว์ที่คิดจะครองโลกอย่างที่ล้อกันในโซเชียลมีเดีย แล้วโลกที่แมวมองเห็นจะเป็นอย่างไร?
นักวิทยาศาสตร์มีข้อมูลเกี่ยวกับมุมมองมากพอสมควร แต่เราก็คงนึกภาพที่แมวมองเห็นไม่ออก กระทั่ง นิคโกเลย์ แลมม์ (Nickolay Lamm) ศิลปินและนักวิจัยวัย 25 ปี จากพิตต์เบิร์ก เพนน์ซิลวาเนีย ผู้มีผลงานศิลปะเป็นที่เลื่องลือในโลกอินเทอร์เน็ต ได้สร้างภาพชุดที่เผยลักษณะมุมมองของแมวเหมียว ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบแมวกับคนแล้ว เราจะมีมุมมองในที่สว่างดีกว่าแมว ขณะที่แมวจะมองเห็นภาพด้านข้างและมีมุมมองในที่มืดดีกว่าคน
เราเรียนรู้วิทยาศาสตร์จากงานศิลปะดังกล่าวได้ โดยไลฟ์ไซน์ได้ให้ข้อมูลจาก เคอร์รี เคตริง (Kerry Ketring) ผู้ มีคลีนิครักษาดวงตาสัตว์ในไวท์ฮอลล์ มิชิแกน สหรัฐฯ ว่าแมวมีมุมมองที่กว้างประมาณ 200 องศา ขณะที่คนเรามีมุมมอง 180 องศา และแมวยังมีมุมมองด้านข้างที่ยอดเยี่ยมกว่า ทำให้เจ้าเหมียวเห็นหนูหรือสิ่งของกระดุกกระดิกอยู่ที่หางตาได้ดีกว่าคน
แมวยังเป็นสัตว์ที่หากินในช่วงเวลาพลบค่ำและรุ่งสาง ซึ่งนั่นอาจเป็นเหตุผลว่าทำไมพวกมันจึงต้องมีสายตาในยามกลางคืนที่ดี ตาของแมวมีเซลล์รูปแท่ง (rod cell) มากกว่าคน 6-8 เท่า ทำให้สายตาของแมวไวในที่มีแสงน้อยมากกว่า อีกทั้งตาของแมวที่มีรูปร่างเป็นวงรีและมีกระจกตาขนาดใหญ่ และมีชั้นเนื้อเยื่อทาพีตัม (tapetum) ที่อาจจะสะท้อนแสงกลับสู่จอเรตินา ช่วยรวมแสงได้ดีขึ้น
</td> </tr> <tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> <table align="Center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="575"> <tbody><tr> <td align="center" valign="Top" width="575"> http://mpics.manager.co.th/pics/Images/556000013665602.JPEG </td> </tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" height="5" valign="top">http://www.manager.co.th/images/blank.gif</td> </tr> </tbody></table> เคตริงอธิบายว่า เนื้อเยื่อทาพีตัมอาจช่วยเลื่อนความยาวคลื่นของแสงที่ตาแมวมองเห็น ทำให้เหยื่อหรือวัตถุอื่นๆ ในตอนกลางคืนดูเด่นชัดมากขึ้น และเซลล์แท่งพิเศษในตาแมวยังช่วยให้แมวมีสัมผัสความเคลื่อนไหวในความมืดได้ ดีกว่าที่คนเราจะเห็นได้ แต่คนเราก็สามารถตรวจจับความเคลื่อนไหวในที่สว่างได้ดีกว่าหมาและแมว 10-12 เท่า เนื่องจากคนมีเซลล์รูปกรวยที่ช่วยให้มองเห็นในที่สว่างได้ดีกว่า โดยคนเรามีเซลล์ดังกล่าวมากกว่าแมวถึง 10 เท่า
เคตริงระบุว่า คนเรายังมีเซลล์รูปกรวยถึง 3 ชนิด ช่วยให้เรามองเห็นสเปกตรัมสีได้กว้างกว่า โดยเฉพาะแสงสีแดง แสงสีเขียวและแสงสีน้ำเงิน ขณะที่แมวอาจจะมีเซลล์รูปกรวย 3 ชนิดเช่นกัน แต่จากการทดสอบพฤติกรรมเผยว่าแมวอาจจะไม่ได้เห็นช่วงสีได้มากเหมือนคน และผู้เชี่ยวชาญบางคนเชื่อว่าแมวมีข้อจำกัดในการมองเห้นสีน้ำเงินและเทา ขณะที่บางส่วนก็เชื่อว่าแมวมองเห็นได้ใกล้เคียงกับสุนัข แต่มีจำนวนสีและความอิ่มตัวของสีน้อยกว่า ทั้งนี้ สุนัขเห็นจำนวนสีได้น้อยกว่ามนุษย์ และไม่สามารถแยกแยะระหว่างวัตถุสีแดง สีเหลือง สีเขียวและสีส้ม ส่วนปลาสามารถเห็นความยาวคลื่นอัลตราไวโอเลต (ยูวี) ได้ ในขณะที่คนเรามองไม่เห็น
นอกจากนี้ คนยังเห็นความละเอียดของภาพที่มีสีสดใสในช่วงกว้างกว่าแมวมาก เนื่องจากมีเซลล์รูปกรวยจำนวนมาก โดยคนสามารถเห็นวัตถุได้ชัดเจนที่ระยะห่าง 30-60 เมตร แต่แมวต้องเห็นวัตถุที่ระยะ 6 เมตรเป็นอย่างน้อย จึงจะเห็นวัตถุเดียวกันได้อย่างชัดเจน ซึ่งเป็นเช่นนี้ เคตริงอธิบายว่า เพราะแมวขาดกล้ามเนื้อที่จำเป็นต่อการเปลี่ยนรูปร่างเลนส์ในตา อีกทั้งไม่สามารถเห็นสิ่งของได้ชัดเจนในระยะใกล้ได้อย่างคน
</td> </tr> <tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> <table align="Center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="575"> <tbody><tr> <td align="center" valign="Top" width="575"> http://mpics.manager.co.th/pics/Images/556000013665603.JPEG </td> </tr> <tr><td class="Image" align="left" valign="baseline">ภาพเปรียบเทียบมุมมองต่อเทือกเขาแอลป์ (Alps) ระหว่างคน (บน) และ แมว (ล่าง)คนเห็นภาพมีสีสันสดใสได้มากกว่าแมว </td></tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" height="5" valign="top">http://www.manager.co.th/images/blank.gif</td> </tr> </tbody></table>
</td> </tr> <tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> <table align="Center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="575"> <tbody><tr> <td align="center" valign="Top" width="575"> http://mpics.manager.co.th/pics/Images/556000013665604.JPEG </td> </tr> <tr><td class="Image" align="left" valign="baseline">นักวิทยาศาสตร์บางส่วนเชื่อว่าแมวมองเห็นสีฟ้าได้ไม่ดีนัก </td></tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" height="5" valign="top">http://www.manager.co.th/images/blank.gif</td> </tr> </tbody></table>
</td> </tr> <tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> <table align="Center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="575"> <tbody><tr> <td align="center" valign="Top" width="575"> http://mpics.manager.co.th/pics/Images/556000013665605.JPEG </td> </tr> <tr><td class="Image" align="left" valign="baseline">แมวยังมองเห็นระยะใกล้ได้ไม่ได้ดี</td></tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" height="5" valign="top">http://www.manager.co.th/images/blank.gif</td> </tr> </tbody></table>
</td> </tr> <tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> <table align="Center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="575"> <tbody><tr> <td align="center" valign="Top" width="575"> http://mpics.manager.co.th/pics/Images/556000013665606.JPEG </td> </tr> <tr><td class="Image" align="left" valign="baseline">ภาพนิวยอร์กที่แมวจะเห็นเบลอๆ เพราะมองเห็นได้ไม่ดีนักสำหรับภาพระยะไกล </td></tr></tbody></table></td></tr></tbody></table></td></tr></tbody></table>