นักเรียนป.ตรี จีน ฮิตเสริมดั้งก่อนจบ เชื่อ!!! ได้งานง่ายขึ้น


<table align="Center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"><tbody><tr><td align="center" valign="top"><table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="620"><tbody><tr><td align="center" valign="Top" width="620">http://mpics.manager.co.th/pics/Images/556000015584801.JPEG </td> </tr> <tr><td class="Image" align="left" valign="baseline">ป้ายประชาสัมพันธ์ ศัลยกรรมทรงจมูกหอไอเฟล ของคลีนิคศัลยกรรมแห่งหนึ่งในเมืองฉงชิ่ง (ภาพเอเอฟพี)</td></tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" height="5" valign="top">http://www.manager.co.th/images/blank.gif</td> </tr> </tbody></table> เอเยนซี - แรงกดดันที่จะต้องหางานทำหลังเรียนจบให้ได้ ทำให้เหล่าบัณฑิตจีน ยอมปรับบุคลิกหน้าตาเสริมจมูกทรงไอเฟล เชื่อว่าการมีโหงวเฮ้งดีจะทำให้ง่ายและได้เปรียบคนอื่นๆ ในการหางาน

สื่อต่างประเทศรายงาน (28 พ.ย.) ว่า เหล่าบัณฑิตจีน เชื่อว่าการมีโหงวเฮ้งดีจะง่ายและได้เปรียบคนอื่นๆ ในการหางาน จึงเข้ารับการผ่าตัดเสริมจมูก ทำให้ธุรกิจศัลยกรรมจมูกในจีนเจริญรุ่งเรือง บางแห่งถึงขั้นวางแผนการตลาดด้วยการโฆษณาว่ามีรูปทรงจมูกที่ได้แรงบันดาลใจ จากหอไอเฟล ประเทศฝรั่งเศส

รายงานข่าวกล่าวว่า ปัจจุบันตลาดแรงงานจีนแข่งขันกันสูง เงื่อนไขในการรับสมัครคนเข้าทำงานของบรรดาบริษัทในจีน จึงเลือกคนที่มีบุคลิกดีกว่าคนอื่นๆ ทั้งหน้าตา และส่วนสูง จากข้อมูลพบว่า แต่ละปีจะมีจำนวนบัณฑิตใหม่ราว 7 ล้านคน ซึ่งล้วนต้องเข้าแข่งขันกันอีกรอบในการหางานบริษัทที่ค่าตอบสูง และอนาคตก้าวหน้า ความจำเป็นที่ต้องได้งาน ทำให้ผู้สมัครฯ หลายคน ต้องพึ่งศัลยกรรมเพื่อให้ดูดีกว่าคนอื่นๆ

ความต้องการที่สูงขึ้น ทำให้ธุรกิจศัลยกรรมความงามจีนเติบโตอย่างรวดเร็ว จนมีขนาดใหญ่อยู่ในอันดับที่ 3 ของโลก รองจาก สหรัฐฯ และบราซิล โดยเหล่าคลินิกศัลยกรรมในจีน ต่างก็แข่งขันหาจุดเด่นให้ลูกค้าสนใจกันอย่างคึกคัก บางแห่งถึงกับประชาสัมพันธ์จุดเด่นของตน ว่าสามารถเปลี่ยนสันจมูก ให้โค้งเว้างามแบบหอไอเฟล สถาปัตยกรรมมหัศจรรย์ของโลกยุคใหม่

หวัง ซื่อหมิง เจ้าของคลินิก ในฉงชิ่ง ซึ่งเป็นต้นคิดจมูกหอไอเฟลฯ กล่าวว่า ใช้แรงบันดาลใจของหอไอเฟล มาเป็นโครงจมูกให้ลูกค้า เชื่อมั่นว่าจะเสริมบุคลิกให้ลูกค้าโดดเด่น ซึ่งล่าสุดมีผู้ต้องการสันจมูกทรงนี้หลายสิบคนแล้ว

ทั้งนี้ การขยายโอกาสทางการศึกษามากขึ้นในจีน ในรอบ 10 ปีที่ผ่านมา ทำให้มีจำนวนมหาวิทยาลัยเพิ่มขึ้นจำนวนมาก เป็นผลให้เกิดบัณฑิตใหม่มากเกินกว่ากว่าตลาดแรงงานจีนจะรับได้หมด มีคนจำนวนมากต้องเตะฝุ่นตกงาน โดยเป็นสัดส่วนของบัณฑิตมหาวิทยาลัยราวร้อยละ 10 ยังไม่รวมสัดส่วนของผู้ศึกษาต่ำกว่าระดับมหาวิทยาลัย อีกกว่าร้อยละ 50

หวัง กล่าวว่า แรงกดดันที่จะต้องหางานทำหลังเรียนจบให้ได้ เพื่อพิสูจน์ว่าตนเองเป็นคนมีการมีงาน ได้เรื่องได้ราว ทำให้เหล่าบัณฑิตลงทุนในเรื่องบุคลิกหน้าตาด้วย พวกเขารู้ว่าการเสริมจมูกทรงไอเฟลช่วยพวกเขาเรื่องนี้ได้ ซึ่งคุ้มค่ากับค่าใช้จ่ายในการทำศัลยกรรม ที่ราคา 60,000 หยวน

ขอบคุณ manager.co.th