View Full Version : ผู้ประท้วงในไอซ์แลนด์หวั่นการสร้างถนนทำลายถิ่นอาศัยของ "เอลฟ์"


Knooch C
16-01-2014, 10:01
<table align="Center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"><tbody><tr><td align="center" valign="top"><table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="600"><tbody><tr><td align="center" valign="Top" width="600">ผู้ประท้วงในไอซ์แลนด์หวั่นการสร้างถนนทำลายถิ่นอาศัยของ "เอลฟ์"

http://mpics.manager.co.th/pics/Images/557000000579001.JPEG </td> </tr> <tr><td class="Image" align="left" valign="baseline">ผู้ประท้วงในไอซ์แลนด์หวั่นการสร้างถนนทำลายถิ่นอาศัยของ "เอลฟ์" </td></tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" height="5" valign="top">http://www.manager.co.th/images/blank.gif</td> </tr> </tbody></table> ในโลกนี้มีการประท้วงอยู่นับ ไม่ถ้วน แต่หลายคนอาจไม่ทราบว่าการประท้วงนี้มีอยู่จริง ที่ไอซ์แลนด์มีการประท้วงการตัดถนนผ่านดินแดนที่เต็มไปด้วยหินภูเขาไฟ ซึ่งหนึ่งในเหตุผลที่ผู้ประท้วงหยิบขึ้นมาคัดค้านการก่อสร้างที่จะเกิดขึ้น จะเป็นการทำลายถิ่นอาศัยของเอลฟ์ที่อาศัยอยู่ท่ามกลางหินเหล่านั้น

เป็นเวลาหลายเดือนแล้วที่นักสิ่งแวดล้อมหลายสิบคนในไอซ์แลนด์ได้ออก มาประท้วงคัดค้านการสร้างถนนที่จะตัดผ่านดินแดนที่เต็มไปด้วยหินภูเขาไฟใน คาบสมุทรแอลฟ์ทาเนส (A'lftanes peninsula) และหนึ่งในกิจกรรมประท้วงที่เรียกความสนใจได้มากคือคำอ้างของผู้ประท้วงที่ ระบุว่า การสร้างถนนจะรบกวนถิ่นอาศัยของเอลฟ์ที่อยู่ตามหินต่างๆ

เบนจามิน แรดฟอร์ด (Benjamin Radford) คอลัมนิสต์ประจำไลฟ์ไซน์ วิเคราะห์เรื่องความเชื่อเกี่ยวกับเอลฟ์ (Elves) ของชาวไอซ์แลนด์ลงคอลัมน์แบดไซน์ เขาระบุว่าเอลฟ์และภูตแฟรี่ (fairies) นั้นมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกันในตำนานเล่าขาน ซึ่งมีกำเนิดมาจากตำนานเทพปกรณัมนอร์ส (Norse mythology) โดยผลสำรวจความคิดเห็นพบว่ากว่าครึ่งของชาวไอซ์แลนด์เชื่อในเอลฟ์หรืออย่าง น้อยก็ไม่ปฏิเสธการมีอยู่ของเอลฟ์

จากการสืบค้นหนังสือเกี่ยวกับตำนานและนิทานนางฟ้าของไอซ์แลนด์ แรดฟอร์ดได้คำอธิบายว่า โดยทั่วไปชาวไอซ์แลนด์นั้นมีความผูกผันกับประเทศตนเองมาก และอาจจะมากกว่าคนอื่นๆ ในโลก โดยมีความรักให้ต่อลักษณะทางกายภาพของผืนดินที่ปรากฏ ไม่ว่าจะเป็นก้อนดิน ภูเขา ธารน้ำ หุบเขา หรือแม้แต่ภูเขาไฟที่ปะทุและเศษธารน้ำแข็งไร้ค่า นอกจากนี้ยังมองว่าแผ่นดินนั้นมีชีวิตและจิตวิญญาณ และเอลฟ์และแฟร์รีก็มีชีวิตอยู่แยกออกไปจากมนุษย์ หลบซ่อนจากโลกและปฏิเสธมนุษย์ แต่ก็ต้องได้รับการเคารพ ไม่เช่นนั้นจะได้รับอันตรายจากเอลฟ์หรือเด็กอาจถูกลักพาตัว

แรดฟอร์ดยังยกตัวอย่างการประท้วงของนักอนุรักษ์ในอีกหลายประเทศที่ยก เรื่องเอลฟ์และแฟร์รี่มาเป็นประเด็น ซึ่งพบได้ในประเทศที่มีความเชื่อเกี่ยวกับเรื่องนี้ และมากกว่าแค่การหยิบฉวยจินตนาการอันโรแมนติกของคนทั่วไป แต่ยังสะกิดความกังวลในเชิงสังคมและวัฒนธรรมต่อสิ่งแวดล้อมที่คงอยู่มายาว นานด้วย

ประเด็นการคุกคามของโลกยุคใหม่ต่อธรรมชาติก็ปรากฏชัดในงานเขียนระดับ คลาสสิคหลายชิ้น โดยเขาได้ยกตัวอย่างเช่น ผลงานเรื่อง ?ลอร์ดออฟเดอะริงส์? ของ เจอาร์อาร์ โทลกิน ที่กล่าวถึงบ้านของชาวฮอบบิตที่ถูกคุกคามจากอุตสาหกรรมก่อมลภาวะอันสกปรกที่ อยู่ในมือของปีศาจซารูแมน แต่สันติสุขและธรรมชาติก็เอาชนะภัยคุกคามนั้นได้ ซึ่งเป็นข้อความของการอนุรักษ์ที่ทรงพลัง

ทั้งนี้ ยังมีผู้ประท้วงคนอื่นๆ ที่อาจไม่ได้สนใจในประเด็นเรื่องการทำลายถิ่นอาศัยของเอลฟ์ และอาจมีเหตุผลอื่นๆ อีก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความถูกต้องตามกฎหมายในการสร้างถนน หรือการทำลายภูมิประเทศที่มีความหมายเชิงวัฒนธรรม แต่ไม่ว่าผู้ประท้วงจะเชื่อหรือไม่เชื่อในตำนานเอลฟ์ แรกฟอร์ดกล่าวว่า ตอนนี้โลกกำลังจับตาในการสร้างถนนดังกล่าว ในแง่ของความไม่ชอบธรรมทางกฎหมาย หรือการทำลายดินแดนเก่าแก่อันบริสุทธิ์

?ไม่ว่าจะได้เห็นถนนที่ตัดผ่านหินลาวาเสร็จสมบูรณ์หรือไม่ แต่หากผู้ประท้วงหรือแม้แต่เอลฟ์ไม่อาจแก้ปัญหา เชื่อเถอะว่าระบบกฏหมายจะแก้ไขได้? แรดฟอร์ดระบุ

manager.co.th