iPhone 5c แน่แหลกแหวกชิมิ ทิม คุก บอกพลาดเป้าสุดๆ
 

<table align="Center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"><tbody><tr><td align="center" valign="top"><table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="600"><tbody><tr><td align="center" valign="Top" width="600">http://mpics.manager.co.th/pics/Imag...001154302.JPEG </td> </tr> <tr><td class="Image" align="left" valign="baseline">ซีอีโอแอปเปิล "ทิม คุก"</td></tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" height="5" valign="top">http://www.manager.co.th/images/blank.gif</td> </tr> </tbody></table> หลังจากปากแข็งมานาน ซีอีโอแอปเปิล ?ทิม คุก? ประกาศยอมรับว่าบริษัทไม่ปลื้มกับยอดจำหน่ายไอโฟนสีสันสดใสอย่าง iPhone 5c ระบุเหตุผลที่ทำให้ iPhone 5s ขายดีกว่าเพราะผู้ใช้ต้องการระบบสัมผัสที่สามารถวิเคราะห์ตัวตนได้หรือ ?ทัชไอดี (Touch ID)? มากกว่า ความต้องการนี้ถือว่าผิดคาดจากที่แอปเปิลคาดการณ์ไว้ จึงทำให้ยอดจำหน่าย iPhone 5c พลาดเป้าไปโดยปริยาย

คำประกาศครั้งนี้ของทิม คุก ถือว่าเป็นการหาทางออกที่สวยงามให้กับความผิดพลาดของแอปเปิล แทนที่จะโทษรูปแบบการกำหนดราคาที่สูงจนทำให้ผู้ใช้ไม่สนใจซื้อ iPhone 5c แต่แอปเปิลยกให้เป็นเรื่องของความต้องการในผู้บริโภคที่แตกต่างจากที่แอ ปเปิลคาดไว้ จนทำให้ iPhone 5c จำหน่ายในสัดส่วนที่น้อยกว่า iPhone 5s

ซีอีโอแอปเปิลแสดงความเห็นนี้ในงานประกาศผลประกอบการของ บริษัทประจำไตรมาสปลายปี 2013 (ตุลาคม-ธันวาคม 2013) โดยระบุว่ายอดจำหน่ายไอโฟนรวมตลอด 3 เดือนปลายปีคือ 51 ล้านเครื่อง ถือเป็นยอดจำหน่ายสูงสุดที่เคยทำได้

อย่างไรก็ตาม นักลงทุนกลับไม่ปลื้มกับตัวเลขที่แอปเปิลประกาศออกมา เนื่องจากแม้แอปเปิลจะสามารถทำลายสถิติยอดขายได้ แต่ยอดขายที่ได้กลับต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 55 ล้านเครื่อง

<table align="Center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="656"> <tbody><tr> <td align="center" valign="Top" width="656"> http://mpics.manager.co.th/pics/Imag...001154303.JPEG </td> </tr> <tr><td class="Image" align="left" valign="baseline">สมาร์ทโฟนระดับกลางที่ใช้วัสดุพลาสติกสีสดของแอปเปิล iPhone 5c</td></tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" height="5" valign="top">http://www.manager.co.th/images/blank.gif</td> </tr> </tbody></table> งานนี้ซีอีโอแอปเปิลปฏิเสธที่จะเปิดเผยแผนพัฒนา iPhone 5c ในอนาคต ทำให้ยังไม่ชัดเจนว่าแอปเปิลวางหมากให้สมาร์ทโฟนระดับกลางที่ใช้วัสดุ พลาสติกสีสดมีราคาลดลงอีก หรือจะเพิ่มความสามารถให้ iPhone 5c มีจุดขายที่แข็งแกร่งกว่าเดิม

สำหรับผลประกอบการของแอปเปิล รายงานระบุว่าตลอดเดือนตุลาคม-ธันวาคม 2013 เจ้าพ่อไอทีมีรายได้รวม 5.7 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 5.7% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันในปีก่อนซึ่งเคยทำได้ 5.4 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ กำไรสุทธิช่วงไตรมาสที่ผ่านมา 1.3 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ หรือเฉลี่ยเป็น 14.50 เหรียญสหรัฐต่อหุ้น

ตัวเลขกำไรสุทธิของแอปเปิลมีมูลค่าใกล้เคียงกับปี 2012 ที่เคยทำได้ 1.3 หมื่นล้านเหรียญ โดยอัตรากำไรหรือมาร์จิ้นอยู่ที่ 37.9% ลดลงจากปีก่อนที่ 38.6% จุดนี้แอปเปิลระบุว่ายอดขายนอกสหรัฐอเมริกาคิดเป็น 63% ของรายได้รวม ถือเป็นสัดส่วนที่สะท้อนว่าตลาดโลกขานรับแอปเปิลในสัดส่วนที่มากขึ้น

นอกจากยอดจำหน่ายไอโฟน 51 ล้านเครื่อง (คิดเป็นรายได้รวม 3.2 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ) แอปเปิลยังระบุว่ายอดจำหน่ายคอมพิวเตอร์แท็บเล็ตอย่างไอแพดก็ทำสถิติใหม่ เช่นกัน โดยมียอดจำหน่ายมากกว่า 26 ล้านเครื่อง (คิดเป็นรายได้ 1.1 หมื่นล้านเหรียญ) รวมถึงคอมพิวเตอร์แมคอินทอชที่ขายได้ 4.8 ล้านเครื่องตลอดไตรมาส และไอพอดที่ขายได้ 6 ล้านเครื่อง