วิธีคิดเนื้อเรื่องการ์ตูนฮาแบบเป็นเรื่องเป็นราว ต่อยอดกระทู้น้อง MicaFeresz 2 Attachment(s) กระทู้นี้เป็นกระทู้ตอบคำถามของน้อง MicaFeresz คนหล่อแบบเต็มๆ ครับ จากกระทู้อันนี้เลย http://board.roigoo.com/เทคนิคการวาด...ตูน.html ก่อนอื่นต้องขออภัยที่มาตอบน้องช้า และ ที่ภาพที่เอามาใช้ประกอบกระทู้นี้ถ่ายจากมือถือมันไม่ค่อยชัดเท่าที่ควร ดังนั้นพี่เอ็มขอพยายามอธิบายแทนภาพให้เยอะก็แล้วกัน ก่อนอื่นขออ้างอิงการ์ตูนที่ผมชอบที่สุดในระยะนี้ก็คือ ตอนนี้เลยครับ http://board.roigoo.com/การ์ตูนหรอยก...ร์ด.html สำหรับใครที่ยังไม่เคยอ่าน รบกวนอ่านก่อนก็ดีนะครับ จะได้เล่าถึงที่มาที่ไปกันอย่างเข้าใจไปในแนวทางเดียวกัน ถ้าอ่านแล้วพี่ขอเริ่มต้นวิธีการคิดการ์ตูนฮาแบบง่ายๆ แต่ก็เป็นเรื่องเป็นราวได้ นะครับน้อง MicaFeresz 1. เริ่มต้นด้วยการ Brain Storm หรือในภาษาไทยอันสวยหรูว่า พายุความคิด ขออภัยด้วยครับที่ไม่ได้ทำรูปประกอบมา อย่างตอนที่ถูกยกตัวอย่างมา มันเกิดจากอารมณ์แว๊บหนึงที่นึกขึ้นมาว่า "ระบบการศึกษาประเทศไทยนี่มันยังไงกัน" หลังจากนั้นก็เริ่มคิดครับ ส่วนใหญ่ระบบการศึกษาของไทยเน้นการจำมากกว่าการคิดหรือการจินตนาการ > เน้นการทำข้อสอบ > แถมยังเป็นข้อสอบแบบ ก ข ค ง อีก > ซึ่งแน่นอนว่ามันวัดผลอะไรไม่ได้แบบจีรังยั่งยืน > เพราะพี่เอ็มเทพด้านการเดาจนได้เกรด 4 ประจำ > สำหรับคนที่ไม่เก่งบางทีเขาก็มีทางออกแบบเทพๆ > ไม่ว่าจะลอกบ้าง > หาโผสอบบ้าง > ประเด็นนี้ตลกดีครับ มีวิธีการโกงข้อสอบเพียบ ร่ายวันนึงก็ไม่จบ น่าสนใจๆ > น่าจะหาวิธีการโกงข้อสอบแบบควายๆ แล้วตก เหล่านี้คือการ Brain Storm นะครับ เขียนกันมาเรื่อยๆ เลยครับ อย่าไปคิดมาก (ความจริงแล้วพี่เอ็มไม่เคยเขียนลงสมุดหรอกครับ ส่วนใหญ่จำๆ เอามากกว่า 555+ ไอ้ที่เล่ามานี่โม้ครับ) 2. กำหนดความชัดเจนด้วย Mind Map (หรือเปล่าวะ) ความจริงแล้วไม่อยากเรียกว่า มายเมพ เลยครับ เพราะว่ามันไม่ใช่อย่างแท้จริง แต่ยังคิดชื่อไม่ได้ เลยใช้ชื่อนี้ไปก่อนชั่วคราว ความจริงแล้วมันคือ กราฟ หรือ แผนผัง ที่ช่วยให้เราควบคุมตัวเรื่อง โครงเรื่อง ให้เข้าเป้า และ ไม่หลุดมากขึ้น ลองดูตัวอย่างจากภาพนะครับ ภาพรวมทั้งหมดของแผนผังตัวนี้คือ "เรื่องการเรียน" เวลาเราเขียนก็อย่าให้หลุดประเด็นหลักตัวนี้มากนะครับ แต่ประเด็นที่เราสโคปก็คือ "การสอบ" พี่เอ็มเลยเขียน "ปัญหา" เป็นจุดเริ่มต้นของตัวเรื่องไว้ทางซ้ายมือก่อนนะครับ ส่วนทางขวามือ เราก็เขียน "ทางออกของปัญหา" ไว้ครับ แน่นอนว่า เรื่องราวทั้งหมดตลอดของเส้นกลางระหว่างสองฝั่งนี้ต้องเป็นเรื่องของการแก้ปัญหาเหล่านั้นครับ แน่นอนว่าหลักการเขียนนิยายรวมถึงการ์ตูนส่วนใหญ่ก็จะบอกเล่าถึงวิธีการแก้ไขปัญหาของตัวละครแต่ละตัวตามนิสัยใจคอของเขา เหล่านั้นจะกลายเป็นความฮา หรือ เป็นจุดพลิกผันของเรื่องราว แน่นอนว่า เราควรจะสอดแทรกพัฒนาการของตัวการ์ตูนไปด้วยในเวลาเดียวกัน 3. จุดที่น่าสนใจ คือ "ส่วนหักมุม" นี่แหละครับ สำหรับพี่เอ็มแล้ว พี่เอ็มพยายามจะนึกจุดหักมุมให้ออกก่อนที่จะเขียนโครงเรื่องหลักให้จบ เพราะในแนวทางของพี่เอ็มแล้ว พี่เอ็มชอบการ์ตูนที่หักมุมแบบบ้าบอคอแตกและต้องหักแบบทวิส [Twist] ให้สุดๆ เท่าที่สมองน้อยๆ จะทำได้ ถ้าคิดจุดนี้ได้แล้ว เราจะได้ใส่ "กลไก" เข้าไปในการ์ตูนได้ตลอดทั้งเรือ่ง แต่ถ้าเราคิดมุก "หักมุม" ไม่ออก หรือ คิดว่าหักมุมได้ไม่ดีเท่าที่ควร ก็ควรจะเลือกวิธีจบแนวอื่นๆ ก็ได้ครับ เช่น จบแบบ Happy หรือ แนวไหนก็ว่าไป ตามความคิดของน้องๆ กันไปเลยครับ ทั้งหมดนี้คือวิธี "ที่ใช้ในการคิดการ์ตูน" แบบคร่าวๆ ครับ แน่นอนว่า มันเอาไปใช้กับทุกเรื่องไม่ได้ และ ถ้าใช้วิธีการอันนี้แล้วการ์ตูนอาจจะไม่ได้เทพหรือดีดั่งใจทุกเรื่อง และ การ์ตูนทุกเรื่องไม่จำเป็นต้องใช้วิธีคิดแบบนี้ครับ แต่สำหรับน้องๆ ที่ไม่รู้จะเริ่มต้นคิดการ์ตูนจากตรงไหน เอาวิธีการคิดแบบนี้ไปลองใช้ดูได้เลยครับ ไม่สงวนลิขสิทธิ์ และ อยากถ่ายทอดให้น้องๆ มากครับ ซึ่งหากน้องๆ มีวิธีการคิดแบบอื่นๆ พี่เอ็มก็อยากจะฟังกันบ้างนะครับ จะได้แลกเปลี่ยนกัน ไม่ว่าจะมือเก่าหรือมือใหม่ เล่าสู่กันฟังได้เลยครับ จุดที่อยากเน้นย้ำที่สุดคือ หาความเป็นตัวเองให้เจอครับ การ์ตูนของเราจะเป็นแบบไหน สไตล์ของเราคือแบบไหน ที่น่าเร้าใจที่สุดคือ ถ้าเมื่อยามใดที่คนอ่านเขาเปิดดูปุ๊บ แล้วรู้ว่าการ์ตูนนั่นคือการ์ตูนของเรา ไม่ว่าจะจากลายเส้น หรือ แม้กระทั่งเนื้อเรื่องก็ตาม นั่นแหละครับ คือ แนวทางที่ถูกต้องแล้วหละ ขอขอบพระคุณที่อ่านกระทู้กากๆ อันนี้มาจนจบนะครับ http://board.roigoo.com/attachment.p...1&d=1350918585 |
มีหลักการมากอะ เทคนิคสุดยอด มีการเชื่อมโยงสิ่งต่างๆ ความกากความห่วยขั้นเทพ จนออกมาเป็นการ์ตูน ล้ำลึกยิ่งนัก |
อ้างอิง:
|
มีต่อหรือนี่ท่านอาจาร์ย นับถิอ นับถือ |
อ้างอิง:
|
กระทู้ดีมีสาระแบบนี้ ยังไงขอสนับสนุนคะ |
งั้นคนหล่อbankbcoolขอแนะนำเทคนิคขั้นเทพเล็กๆน้อยๆเลยแล้วกันฮ๊าฟ สำหรับการคิดเรื่องการ์ตูนของผมนั้นโดยมากจะเป็นเหมือนการเล่าเรื่องเล่านิทานซะมากกว่า ซึ่งถ้าหากเราสามารถที่จะเล่าเรื่องต่างๆได้ดีแล้ว คนฟังรู้สึกคล้อยตามไปกับเราได้ เข้าใจในสิ่งที่เราเล่า นั่นแหละจะเรียกว่าเป็นการเล่าที่ดี เช่นเดียวไปกับการคิดเรื่องการ์ตูนก็เหมือนกัน แม้การ์ตูนจะแตกต่างตรงที่มีภาพให้เห็น สามารถที่จะเข้าใจได้มากกว่าหากเราสามารถที่จะวาดออกมาดี ซึ่งการแต่งเรื่องการ์ตูนก็จะมีเทคนิคมากมายกันไป ในที่นี้ก็คงจะต้องพูดถึงการแต่งเรื่องการ์ตูนฮา ตามหัวข้อของพี่เอ็มแล้วกัน โดยการแต่งเรื่องการ์ตูนฮานั้น ในเทคนิคของผม ก็ควรรู้หลักในการเล่าเรื่องฮาก่อน ซึ่งการเล่าเรื่องฮานั้นหลักการมากมายดังนี้ 1.การปู การปูเรื่องหมายถึง การเกริ่นเรื่องก่อนที่เราจะปล่อยหมัดเด็ดเพื่อน็อค การบรรยายเรื่องราวต่างๆ ที่มาที่ไปของเรื่อง 2.การชง หมายถึงการโยนมุก ซึ่งจังหวะนี้จะยังไม่ฮา แต่เป็นการพูด(วาด)นำ เพื่อที่จะถึงจุดฮา 3.การหยอด คือการใส่มุกเสริมรายทาง ในระหว่างเรื่องเพื่อให้การ์ตูนสนุกมากขึ้น มีอรรถรสมากขึ้น การ์ตูนจะได้ไม่นิ่งจนเกินไปนั่นเอง 4.การตบ คือการตบมุก จุดนี้จะต้องฮา หากไม่ฮาแสดงว่าพลาดแล้ว แสดงว่าตบแป็ก ลูกออกเสียแต้ม การ์ตูนไม่หนุกแน่ ต้องชงใหม่เซ็ทใหม่เอาแต้มคืนโดยด่วน ซึ่งหลักการต่างๆเหล่านี้ก็จะมีจังหวะtimingของมัน ต้องรู้หลักรู้เวลา จะชงจะหยอดตอนไหน ก็ต้องดูดีดี ไม่งั้นมันพลาดมันแป็ก ของอย่างนี้ต้องฝึกฝนเพื่อความแม่นยำ จำไว้ของอย่างนี้มันพลาดกันได้ แต่อย่าพลาดบ่อยคนอ่านเค้าจะเซ็งกันได้ สุดท้ายนี้ ก็อย่าลืมวาดแล้วเอามาให้อ่านให้ชมให้ติกันบ้าง ว่าจะตบแป็กหรือได้แต้ม และอย่าลืมฝึกฝนเพื่อจะได้มีความฮาเฉพาะตัวขั้นเทพแบบผม หรือพี่เอ็มท่านปรมาจาร์ยแห่งเว็ปหรอยนั่นเอง... |
อ้างอิง:
|
โอ้ว มาตั้งกระทู้ใหม่ให้เลย ไม่ได้เข้ามานานอะ |
เข้ามาอ่านครับ |
เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 14:08 |
vBulletin รุ่น 3.8.7
สงวนลิขสิทธิ์ ©2000-2024, บริษัท Jelsoft Enterprises จำกัด