ohmohm
21-10-2011, 10:36
กว่าจะมาเป็นการ์ตูนได้นั้นต้องใช้มันสมองในการคิดเรื่องแต่งเรื่องเป็นอย่างมากกว่าจะได้ลงมือวาดการ์ตูน เพราะอย่างที่น้องๆเห็นกันครับการ์ตูนหลายๆเรื่องที่เอามาให้เราชมนั้นไม่ได้วาดสวยกว่าเรื่องที่ไม่ได้โด่งดังเลย แล้วอะไรกันล่ะครับเป็นสิ่งที่คนอ่านคนชมต้องการกันภาพสวยๆหรือว่าเนื้อเรื่องสนุกๆ ก็ต้องตอบว่าคนอ่านต้องการเนื้อเรื่องการ์ตูนสนุกๆก่อนเป็นอันดับแรก แต่ภาพในการ์ตูนก็สำคัญไม่ได้ต่างจากเนื้อเรื่องเลยเพราะฉะนั้นเรามาสนใจเรื่องเนื้อเรื่องในการ์ตูนของเรากันดีกว่าค๊าบ
http://www.orgsites.com/wv/dbzchaostheory/DragonballZChaosTheory.jpg
การ์ตูนดราก้อน การ์ตูนอีกหนึ่งเรื่องที่เนื้อเรื่องโดนใจประชาทุกวัยในยุคของกระผม
1 เนื้อเรื่อง
2 สตอรี่บอร์ด
ทั้งนี้จะไม่กล่าวถึงเทคนิคทางภาพเลยเพราะจะยกเป็นอีกหัวข้อใหญ่ที่จะหาโอกาสมาแนะนำกันอีกที
เอาล่ะทีนี้เรามาลองดูกันว่าทำยังไงถึงจะควบคุมปัจจัยข้างต้นนั้นได้
เริ่มจากเมื่อเราอยากเขียนการ์ตูนสักเรื่อง ที่มาของแรงบันดาลใจของเราคืออะไรสิ่งนี้จะส่งผลอย่างมากต่อผลงานของเรา แรงบันดาลใจนั้นอาจจะมาจากความประทับใจในผลงานของอาจารย์นักเขียนท่านใดท่านหนึ่งสำหรับผู้ที่เริ่มวาดการ์ตูนใหม่ๆ หรือจะเป็นเรื่องราวของสื่ออื่นๆเช่น ภาพยนตร์ ทีวีซีรี่ หนังสือ เรื่องสั้น นิยาย ข่าว ซึ่งก็เป็นไปได้ทั้งนั้น สำหรับระยะแรกของการอยากเขียนการ์ตูนก็น่าจะมาจากความประทับใจในผลงานนักเขียนซะเป็นส่วนใหญ่ ดังนั้นช่วงนี้เราจึงยังตกอยู่ภายใต้อิทธิพลและลายเส้นของอาจารย์คนนั้น พอจะเขียนจะวาดอะไรก็จะออกมาเป็นแบบลายเส้นของอาจารย์ท่านนั้นไปโม้ดซึ่งอันนี้ไม่ผิด ส่วนบางคนที่คิดว่าตัวเองไม่ได้ลอกใครเขาก็ลอกธรรมชาติรอบตัวเขานั่นแหละโดยเฉพาะพวกที่เรียนศิลปะมา ส่วนเนื้อเรื่องก็เหมือนกันแทบอยากจะลอกของท่านมาเลยเทียว เราจึงเห็นงานโดจินออกมาเยอะแยะเพราะในใจคนวาดก็คิดว่าตนไม่น่าจะคิดอะไรได้เจ๋งกว่าอาจารย์คนนี้อีกแล้ว ตรงนี้ก็ไม่ผิดครับเพราะจะฝืนแต่งเองยังไงในระยะนี้มันก็ตื้อๆครับถึงทำออกมาได้ก็ยังมีอิทธิพลของเรื่องที่เราชอบติดมาด้วยจนขาดเอกลักษณ์เฉพาะตัวไป อาการแบบนี้จะเป็นช่วงวัยรุ่นเดี๋ยวพอเริ่มอิ่มตัวก็จะบรรเทาลงเองขึ้นอยู่กับว่าจะอิ่มตอนอายุเท่าไหร่ จากอาการดังกล่าวจะเกิดปัญหาเวลาไปพรีเซ้นงานกับทางสำนักพิมพ์ก็จะโดน บก.โหดๆติได้ว่าเรื่องมีช่องโหว่มาก เพราะเราไม่ได้วาดรูปตามเรื่องแต่แต่งเรื่องเพื่อจะได้วาดไอ้ที่อยากจะวาด เช่น เราชอบพวกตัวละครชายหน้าหวานแต่งองค์ทรงเครื่องหรูๆโก้ๆ เราก็พยายามแต่งเรื่องที่มันมีโอกาสได้วาดตัวละครพวกนี้ แต่ละเลยสิ่งที่สำคัญไปว่าคอมมิคเป็นการเล่าเรื่องด้วยภาพนะ ไม่ใช่หาเรื่องมาวาดภาพ พอไม่คิดถึงการแต่งเรื่อง บก.จึงตำหนิเราได้เพราะเราไม่ให้น้ำหนักงานด้านนี้วิธีแก้ไขก็คือไปหัดแต่งเรื่องซะสิ
การแต่งเรื่องสำหรับเขียนการ์ตูนนั้นก็ขึ้นอยู่กับความชอบของคนเขียนล่ะว่าชอบแนวไหน แต่จะขอแนะนำให้ลองถามตัวเองว่าตัวรู้ดีในเรื่องที่เราจะแต่งแค่ไหน ถ้าอยากเขียนแนวแฟนตาซีมีปีกแต่งตัวกรุยกรายก็จงถามตัวเองว่า มีความรู้เรื่องเทววิทยาระดับไหนที่จะเขียนถึงเทพองค์นั้นองค์นี้ เพราะถ้าไม่รู้แล้วทึกทักแต่งเองเลยมันก็จะไม่มีที่มาที่ไปทำให้เรื่องขาดแก่นสารเว้นแต่คุณมีจุดขายอื่น เช่น เป็นแนวตลก อ้างั้นมาลองสมมุติดูกันว่าจะเริ่มยังไง
1 อันดับแรกถามตัวเองเลยว่าจะเขียนแนวไหน
ตอบ รักโรแมนติคผสมตลก
2 จะเขียนให้ใครอ่าน
ตอบ วัยรุ่นมัธยมจนถึงมหาลัย ทั้งสองเพศอ่านได้ (กำหนดให้ชัดเจน)
3 ความยาว
ตอบ 32 หน้า(เรื่องสั้นจบในตอน)
4 บรรยากาศของเรื่อง
ตอบ ยุคปัจจุบัน เมืองท่องเที่ยวเล็กๆริมแม่น้ำ
5 มีตัวละครหลักกี่ตัว
ตอบ สามตัว (เรื่องสั้นห้ามตัวละครเยอะ)
จริงๆคำถามนำอาจจะมากกว่านี้ขึ้นอยู่กับจุดประสงค์ของการเขียน
เอ้าที่นี้มาดูกันว่าคำถามแต่ละข้อมีนัยยังไง
ข้อ 1 คือจะเขียนการ์ตูนแนวเลิฟคอมเมดี้ การผูกปมของแนวเรื่องแบบนี้คือ พระเอกกับนางเอกจะรักกันได้อย่างไรหรือจะสมหวังกันยังไง เนี่ยที่คนอ่านลุ้น
ข้อ 2 จะเขียนให้ใครอ่าน การกำหนดกลุ่มเป้าหมายที่ชัดเจนจะช่วยให้เรามองเห็นภาพงานได้ชัดว่าจะต้องวาดออกมาสไตล์ไหน ออกแบบตัวละครยังไง ถ้าเรื่องนี้เขียนให้คนวัยทำงานอ่านก็อาจจะมีการปรับเรื่องอายุของตัวละครให้สอดคล้องกับกลุ่มเป้าหมายด้วย
ข้อ 3 ความยาว ความยาวของจำนวนหน้าจะช่วยให้เรากำหนดการเล่าเรื่องได้ในช่วงทำสตอรี่บอร์ด ใครไม่เคยทำสตอรี่บอร์ดก็หัดๆไว้นะเพราะเป็นขั้นตอนสำคัญมาก ในช่วงแรกของการหัดเขียนการ์ตูนควรเริ่มจากเรื่องสั้นก่อน เพื่อเป็นการหัดเล่าเรื่อง
ข้อ 4 บรรยากาศของเรื่อง กำหนดไปเลยว่าเป็นยุคสมัยไหน สถานที่ใด เราจะได้เอาสิ่งแวดล้อมในสถานที่และบรรยากาศนั้นมาผสมในการแต่งเรื่อง อย่างเมืองท่องเที่ยวริมแม่น้ำก็ต้องมี นักท่องเที่ยว
ร้านค้าของที่ระลึก โรงแรม ล้วนแต่เป็นสิ่งที่เราสามารถหยิบเอาใช้ในเรื่องได้และยังช่วยให้เราหาข้อมูลได้ง่ายขึ้นเพราะรู้ว่าต้องการหาอะไร
ข้อ 5 มีตัวละครกี่ตัว สำหรับเรื่องสั้นไม่ควรมีมากกว่าสามตัว ไม่งั้นจะเสียหน้ากระดาษไปกับการเปิดตัว ตัวละครมากแล้วยังจะดึงความเด่นกันเองจนทำเรื่องไม่สนุก
เอาไว้มาต่อเรื่องเทคนิคการเล่าเรื่องกัน
ขอขอบคุณ jimmoo.exteen.com/20070514/comic
http://www.orgsites.com/wv/dbzchaostheory/DragonballZChaosTheory.jpg
การ์ตูนดราก้อน การ์ตูนอีกหนึ่งเรื่องที่เนื้อเรื่องโดนใจประชาทุกวัยในยุคของกระผม
1 เนื้อเรื่อง
2 สตอรี่บอร์ด
ทั้งนี้จะไม่กล่าวถึงเทคนิคทางภาพเลยเพราะจะยกเป็นอีกหัวข้อใหญ่ที่จะหาโอกาสมาแนะนำกันอีกที
เอาล่ะทีนี้เรามาลองดูกันว่าทำยังไงถึงจะควบคุมปัจจัยข้างต้นนั้นได้
เริ่มจากเมื่อเราอยากเขียนการ์ตูนสักเรื่อง ที่มาของแรงบันดาลใจของเราคืออะไรสิ่งนี้จะส่งผลอย่างมากต่อผลงานของเรา แรงบันดาลใจนั้นอาจจะมาจากความประทับใจในผลงานของอาจารย์นักเขียนท่านใดท่านหนึ่งสำหรับผู้ที่เริ่มวาดการ์ตูนใหม่ๆ หรือจะเป็นเรื่องราวของสื่ออื่นๆเช่น ภาพยนตร์ ทีวีซีรี่ หนังสือ เรื่องสั้น นิยาย ข่าว ซึ่งก็เป็นไปได้ทั้งนั้น สำหรับระยะแรกของการอยากเขียนการ์ตูนก็น่าจะมาจากความประทับใจในผลงานนักเขียนซะเป็นส่วนใหญ่ ดังนั้นช่วงนี้เราจึงยังตกอยู่ภายใต้อิทธิพลและลายเส้นของอาจารย์คนนั้น พอจะเขียนจะวาดอะไรก็จะออกมาเป็นแบบลายเส้นของอาจารย์ท่านนั้นไปโม้ดซึ่งอันนี้ไม่ผิด ส่วนบางคนที่คิดว่าตัวเองไม่ได้ลอกใครเขาก็ลอกธรรมชาติรอบตัวเขานั่นแหละโดยเฉพาะพวกที่เรียนศิลปะมา ส่วนเนื้อเรื่องก็เหมือนกันแทบอยากจะลอกของท่านมาเลยเทียว เราจึงเห็นงานโดจินออกมาเยอะแยะเพราะในใจคนวาดก็คิดว่าตนไม่น่าจะคิดอะไรได้เจ๋งกว่าอาจารย์คนนี้อีกแล้ว ตรงนี้ก็ไม่ผิดครับเพราะจะฝืนแต่งเองยังไงในระยะนี้มันก็ตื้อๆครับถึงทำออกมาได้ก็ยังมีอิทธิพลของเรื่องที่เราชอบติดมาด้วยจนขาดเอกลักษณ์เฉพาะตัวไป อาการแบบนี้จะเป็นช่วงวัยรุ่นเดี๋ยวพอเริ่มอิ่มตัวก็จะบรรเทาลงเองขึ้นอยู่กับว่าจะอิ่มตอนอายุเท่าไหร่ จากอาการดังกล่าวจะเกิดปัญหาเวลาไปพรีเซ้นงานกับทางสำนักพิมพ์ก็จะโดน บก.โหดๆติได้ว่าเรื่องมีช่องโหว่มาก เพราะเราไม่ได้วาดรูปตามเรื่องแต่แต่งเรื่องเพื่อจะได้วาดไอ้ที่อยากจะวาด เช่น เราชอบพวกตัวละครชายหน้าหวานแต่งองค์ทรงเครื่องหรูๆโก้ๆ เราก็พยายามแต่งเรื่องที่มันมีโอกาสได้วาดตัวละครพวกนี้ แต่ละเลยสิ่งที่สำคัญไปว่าคอมมิคเป็นการเล่าเรื่องด้วยภาพนะ ไม่ใช่หาเรื่องมาวาดภาพ พอไม่คิดถึงการแต่งเรื่อง บก.จึงตำหนิเราได้เพราะเราไม่ให้น้ำหนักงานด้านนี้วิธีแก้ไขก็คือไปหัดแต่งเรื่องซะสิ
การแต่งเรื่องสำหรับเขียนการ์ตูนนั้นก็ขึ้นอยู่กับความชอบของคนเขียนล่ะว่าชอบแนวไหน แต่จะขอแนะนำให้ลองถามตัวเองว่าตัวรู้ดีในเรื่องที่เราจะแต่งแค่ไหน ถ้าอยากเขียนแนวแฟนตาซีมีปีกแต่งตัวกรุยกรายก็จงถามตัวเองว่า มีความรู้เรื่องเทววิทยาระดับไหนที่จะเขียนถึงเทพองค์นั้นองค์นี้ เพราะถ้าไม่รู้แล้วทึกทักแต่งเองเลยมันก็จะไม่มีที่มาที่ไปทำให้เรื่องขาดแก่นสารเว้นแต่คุณมีจุดขายอื่น เช่น เป็นแนวตลก อ้างั้นมาลองสมมุติดูกันว่าจะเริ่มยังไง
1 อันดับแรกถามตัวเองเลยว่าจะเขียนแนวไหน
ตอบ รักโรแมนติคผสมตลก
2 จะเขียนให้ใครอ่าน
ตอบ วัยรุ่นมัธยมจนถึงมหาลัย ทั้งสองเพศอ่านได้ (กำหนดให้ชัดเจน)
3 ความยาว
ตอบ 32 หน้า(เรื่องสั้นจบในตอน)
4 บรรยากาศของเรื่อง
ตอบ ยุคปัจจุบัน เมืองท่องเที่ยวเล็กๆริมแม่น้ำ
5 มีตัวละครหลักกี่ตัว
ตอบ สามตัว (เรื่องสั้นห้ามตัวละครเยอะ)
จริงๆคำถามนำอาจจะมากกว่านี้ขึ้นอยู่กับจุดประสงค์ของการเขียน
เอ้าที่นี้มาดูกันว่าคำถามแต่ละข้อมีนัยยังไง
ข้อ 1 คือจะเขียนการ์ตูนแนวเลิฟคอมเมดี้ การผูกปมของแนวเรื่องแบบนี้คือ พระเอกกับนางเอกจะรักกันได้อย่างไรหรือจะสมหวังกันยังไง เนี่ยที่คนอ่านลุ้น
ข้อ 2 จะเขียนให้ใครอ่าน การกำหนดกลุ่มเป้าหมายที่ชัดเจนจะช่วยให้เรามองเห็นภาพงานได้ชัดว่าจะต้องวาดออกมาสไตล์ไหน ออกแบบตัวละครยังไง ถ้าเรื่องนี้เขียนให้คนวัยทำงานอ่านก็อาจจะมีการปรับเรื่องอายุของตัวละครให้สอดคล้องกับกลุ่มเป้าหมายด้วย
ข้อ 3 ความยาว ความยาวของจำนวนหน้าจะช่วยให้เรากำหนดการเล่าเรื่องได้ในช่วงทำสตอรี่บอร์ด ใครไม่เคยทำสตอรี่บอร์ดก็หัดๆไว้นะเพราะเป็นขั้นตอนสำคัญมาก ในช่วงแรกของการหัดเขียนการ์ตูนควรเริ่มจากเรื่องสั้นก่อน เพื่อเป็นการหัดเล่าเรื่อง
ข้อ 4 บรรยากาศของเรื่อง กำหนดไปเลยว่าเป็นยุคสมัยไหน สถานที่ใด เราจะได้เอาสิ่งแวดล้อมในสถานที่และบรรยากาศนั้นมาผสมในการแต่งเรื่อง อย่างเมืองท่องเที่ยวริมแม่น้ำก็ต้องมี นักท่องเที่ยว
ร้านค้าของที่ระลึก โรงแรม ล้วนแต่เป็นสิ่งที่เราสามารถหยิบเอาใช้ในเรื่องได้และยังช่วยให้เราหาข้อมูลได้ง่ายขึ้นเพราะรู้ว่าต้องการหาอะไร
ข้อ 5 มีตัวละครกี่ตัว สำหรับเรื่องสั้นไม่ควรมีมากกว่าสามตัว ไม่งั้นจะเสียหน้ากระดาษไปกับการเปิดตัว ตัวละครมากแล้วยังจะดึงความเด่นกันเองจนทำเรื่องไม่สนุก
เอาไว้มาต่อเรื่องเทคนิคการเล่าเรื่องกัน
ขอขอบคุณ jimmoo.exteen.com/20070514/comic