เว็บการ์ตูนหรอยกู

เว็บการ์ตูนหรอยกู (http://board.roigoo.com/index.php)
-   หรอยกูคาเฟ่ (http://board.roigoo.com/forumdisplay.php?f=11)
-   -   หน้าตาโจรๆอย่างผมจะเปิดเนิร์สเซอรีที่ดีได้หรือไม่ (http://board.roigoo.com/showthread.php?t=2202)

ohmohm 02-02-2012 03:03

หน้าตาโจรๆอย่างผมจะเปิดเนิร์สเซอรีที่ดีได้หรือไม่
 
1 Attachment(s)
ยังไม่นอนครับตอนนี้รอดูบอลสดอาร์เซน่อลอยู่ ตอนนี้บอลก็ใกล้จะมาแล้วครับกำลังหาข้อมูลเกี่ยวกับการเปิดเนิร์สเซอรีอยู่ มีหลายคนถามว่าหน้าตาโจรแบบนี้เด็กไม่เรียกโจรหรือไม่แน่ครับ งานนี้ลองหาข้อมูลการเปิดเนิร์สเซอรีให้คุณแม่สุดที่รักครับแม่เป็นครูเลยมีไอเดียอยากเปิดเนิร์สเซอรี เพราะเดี่ยวก็เกษียญแล้วครับยังไงฝากบทความนี้ให้นายเอ็มอ่านอีกคนด้วยแล้วกันครับ เผื่อนายเอ็มจะส่งลูกมาเลี้ยงที่นี้ด้วย



เปิดเนิร์สเซอรีดีๆ ทำอย่างไร

Post Today - วิถีชีวิตของคนไทยและครอบครัวไทยเปลี่ยนแปลงไปจากครอบครัวขยายที่มีทั้งปู่ ย่า ตายาย ลุงป้า น้าอา มาเป็นครอบครัวเดี่ยวที่อยู่กันเพียงลำพังระหว่างพ่อแม่ลูก จากที่เคยมีญาติผู้ใหญ่คอยช่วยเลี้ยงลูกเลี้ยงหลานให้ ก็ต้องไปจ้างสถานรับเลี้ยงเด็กหรือเนิร์สเซอรีช่วยเลี้ยงลูกให้แทน ซึ่งทำให้ธุรกิจเนิร์สเซอรีมีความสำคัญและจำเป็นสำหรับพ่อแม่ยุคใหม่มาก เหลือเกิน เพราะแม้อยากจะเลี้ยงลูกเองใจจะขาด แต่รายจ่ายก็เป็นเรื่องต้องคิดมาก ...

http://www.jobjob.co.th/backoffice/c...050508_c02.jpg

การ นำเด็กมาฝากเนิร์สเซอรีดูแลนั้น จะช่วยแก้ปัญหาไม่มีใครเลี้ยงลูกเล็กๆ ให้กับพ่อแม่ได้ แต่การจะหาเนิร์สเซอรีดีๆ ที่ไว้ใจได้ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายอีกเหมือนกัน เพราะนอกจากดูแลลูกทางด้านร่างกายแล้ว เรื่องจิตใจ อารมณ์ สังคม และสติปัญญาก็สำคัญ เนิร์สเซอรีดีที่น่าเชื่อถือจึงเป็นที่มองหากันมากๆ
ดังนั้น เนิร์สเซอรีที่ดีและได้มาตรฐานนั้นจึงเป็นที่ต้องการของตลาดเป็นอย่างมาก จึงเป็นช่องทางในการขยายธุรกิจที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการเนิร์สเซอรีที่มี คุณภาพ หากคุณๆ กำลังมองหาช่องทางในการทำธุรกิจใหม่ๆ เป็นของตัวเอง การเปิดเนิร์สเซอรีที่ได้คุณภาพถือเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจ

เข้าใจธุรกิจ
เนิร์สเซอรีก็คือสถานรับเลี้ยงเด็กและพัฒนาเด็กที่มีอายุไม่เกิน 6 ขวบ และมีจำนวนตั้งแต่ 6 คนขึ้นไป โดยเด็กไม่มีความเกี่ยวข้องเป็นญาติกับเจ้าของหรือผู้ดำเนินการดังกล่าว โดยแบ่งเป็น 3 ประเภทหลักๆ คือ เนิร์สเซอรีปฐมวัย หรือเด็กอ่อนอายุ 0-2.5 ขวบ ผู้ดูแลต้องเป็นคนละเอียดอ่อน ใจเย็น ช่างสังเกต เพราะเด็กวัยนี้เลี้ยงง่าย กินแล้วก็นอน แต่ถ้ามีสิ่งปกติเกิดขึ้น เช่น ปวดท้อง มดกัด สำลักนม เด็กจะไม่สามารถบออกได้ว่าเจ็บปวดตรงไหน ลักษณะการแหวะนมธรรมดา กับอาเจียนแตกต่างกันอย่างไร ต้องช่างสังเกตเอาใจใส่ ผู้ดูแลต้องเตรียมความพร้อมเรื่องนี้ให้มาก ต้องจัดหาพี่เลี้ยง 1 คนต่อเด็ก 3 คน
ส่วนเนิร์สเซอรีเด็กเล็ก อายุ 2.5-4 ขวบ เด็กวัยนี้เริ่มซุกซนไม่อยู่นิ่ง ต้องหากลยุทธ์และยุทธวิธีที่จะรับมือเจ้าตัวน้อยเหล่านี้ให้ได้ทั้งความสนุก สนานและพัฒนาการทั้งร่างกายและจิตใจ โดยจัดพี่เลี้ยง 1 คนต่อเด็ก 6 คน สุดท้ายเนิร์สเซอรีระดับอนุบาล 4-6 ขวบ เริ่มเข้าเรียนแล้วแบ่งเป็น 2 ชั้น คือชั้นอนุบาลปีที่ 1 อายุ 4 ขวบ กับชั้นอนุบาล 2 อายุ 5-6 ขวบ จะได้รับการดูแลเป็นพิเศษในเรื่องพัฒนาการ เพื่อเตรียมความพร้อมในทุกด้าน เป็นการเตรียมเข้าเรียนชั้นประถม 1 ตามเกณฑ์การศึกษาภาคบังคับ

แนวโน้มและทิศทางของธุรกิจ
ธุรกิจเนิร์สเซอรีมีการแข่งขันรุนแรงมากขึ้น เมื่อกระทรวงศึกษาธิการประกาศให้โรงเรียนเอกชนสามารถเพิ่มชั้นเรียนระดับเนิร์สเซอรีได้
ผู้ที่จะลงทุนด้านนี้ต้องมีใจรัก ความพร้อมที่จะทุ่มเท พัฒนา มีการจัดการที่ดีอย่างต่อเนื่อง มิใช่ลงทุนครั้งเดียวแล้วคอยเก็บเกี่ยวระยะยาว แต่ต้องปรับปรุงอยู่เรื่อยๆ ให้ทุกอย่างดีขึ้น การแข่งขันจะเน้นกันที่คุณภาพ มาตรฐาน และความสัมพันธ์ที่ดีกับพ่อแม่
ข้อดีคือ ไม่ว่าเศรษฐกิจจะมีความผันผวนอย่างไร ธุรกิจนี้ก็แทบจะไม่กระทบ เพราะกลุ่มเป้าหมายก็คือกลุ่มคนทำงานที่ไม่มีเวลาดูแลบุตรหลาน ยิ่งเศรษฐกิจแย่พ่อแม่ก็ต้องยิ่งทำงานนอกบ้าน ผู้ปกครองวันนี้มีลูกน้อยลงเพียง 1 หรือ 2 คน ยิ่งมีลูกน้อยยิ่งให้ความสำคัญและต้องการคุณภาพดีที่สุดให้แก่ลูก จึงยินดีที่จะจ่ายเงินเพื่อสิ่งที่ดีที่สุด

ความเป็นไปได้
ถ้าคุณเป็นแม่บ้านอยู่แล้วไม่อยากเสียเวลา หรือหายใจทิ้งไปวันๆ ธุรกิจนี้อาจสร้างรายได้มากกว่างานประจำเสียอีก หรือหากคุณเลี้ยงลูกอยู่กับบ้านอยู่แล้ว ทำไมไม่รับเลี้ยงลูกคนอื่นเพิ่มอีกสัก 5-6 คนล่ะ การเลี้ยงเด็ก 1 คน กับเด็ก 8-10 คน ใช้เวลาเท่ากัน แล้วก็ไม่เหนื่อยกว่ากันเท่าไหร่ แถมยังมีผลพลอยได้อีกมากมาย ความรู้ที่เราขวนขวายมาใช้กับลูกก็สามารถนำมาใช้กับเด็กคนอื่นๆ ด้วย ของเล่นลูกก็ซื้อเพิ่มอีกนิดหน่อย บวกกับการบริหารจัดการอีกนิดก็จะได้เป็นเจ้าของเนิร์สเซอรีขนาดเล็กคุณภาพดี แล้ว
ธุรกิจประเภทนี้ใช้เงินลงทุนไม่สูงมาก จัดได้ว่าเป็นธุรกิจขนาดย่อม มีสถานที่ไม่ต้องใหญ่โตมาก ขอเพียงสะอาด ปลอดภัย ใส่ใจดูแล ภาครัฐเองก็มีนโยบายและมาตรการส่งเสริมธุรกิจขนาดกลางและย่อมอยู่แล้ว จึงเป็นอีกธุรกิจที่น่าสนใจและมีแนวโน้มสดใส หากทำธุรกิจอย่างมีคุณภาพและสร้างจุดเด่นที่แตกต่างในการสร้างพัฒนาการด้าน ต่างๆ ของเด็ก และความมีชื่อเสียงจะส่งต่อผ่านปากต่อปากไปเรื่อยๆ โดยไม่ต้องเสียค่าโฆษณามาก โดยเจ้าของธุรกิจจะได้รับความสุขทางใจและทางการเงินที่เป็นอิสระไปพร้อมๆ กัน

http://www.jobjob.co.th/backoffice/c...050508_c03.jpg

เข้าใจลูกค้า

การทำธุรกิจเราต้องมีความเข้าใจลูกค้าว่า ลูกค้าของเราคือใคร แต่การทำเนิร์สเซอรีเด็กเป็นผู้ใช้บริการ แต่พ่อแม่เป็นผู้ตัดสินใจซื้อบริการนี้ โดยพ่อแม่จะได้รับข้อมูลจากการบอกเล่าจากเพื่อนหรือญาติที่เคยใช้บริการซึ่ง มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจ ดังนั้น จึงต้องศึกษาและเข้าใจพฤติกรรมการใช้บริการของลูกค้าและกลุ่มเป้าหมายของเรา ให้ถ่องแท้
ปัจจัยที่พ่อแม่ใช้ประกอบการตัดสินใจเลือกเนิร์สเซอรีให้ลูกน้อยก็ คือ ให้ความรู้สึกวางใจเหมือนเป็นบ้านที่สองของลูก สถานที่ตั้งใกล้บ้านหรือที่ทำงาน เดินทางสะดวก สถานที่ สิ่งแวดล้อม สะอาดปลอดภัย ครู พี่เลี้ยงมีประสบการณ์ มีเจ้าหน้าที่เพียงพอต่อเด็กเพื่อดูแลอย่างทั่วถึง เอาใจใส่ต่อเด็กดีพอ มีกิจกรรมเสริมทักษะ พัฒนาการที่เหมาะสมกับเด็ก อาหารและของเล่นดี สะอาด ปลอดภัย ค่าใช้จ่ายเหมาะสม มีชื่อเสียงและได้รับใบอนุญาตถูกต้อง

เข้าใจตัวเองก่อนเป็นผู้ประกอบการ
เมื่อเข้าใจลูกค้าดีแล้ว ต้องมาดูที่ตัวเองว่าเป็นคนที่เหมาะสมกับธุรกิจนี้หรือไม่ เพราะการดำเนินธุรกิจเนิร์สเซอรีเป็นทั้งศาสตร์และศิลป์ที่ละเอียดอ่อน หากคุณเป็นคนที่รักเด็ก ชอบเลี้ยงเด็ก สนุกสนานกับความไร้เดียงสาของเด็ก สุขใจที่ได้เห็นพัฒนาการการเจริญเติบโตของเด็กๆ ละก็ ธุรกิจนี้อาจเป็นคำตอบที่ดีสำหรับคุณ เนื่องจากสร้างรายได้แล้ว คุณจะมีความสุขกับการทำงานที่เปื้อนรอยยิ้มของเด็กๆ ซึ่งหายากเต็มทีในโลกอันแสนวุ่นวายอย่างเช่นทุกวันนี้

ขั้นตอนการจัดตั้งเนิร์สเซอรี
เมื่อได้คำตอบชัดเจนทั้งเรื่องลูกค้า ถามตัวเองว่าคุณรักเด็กแน่แท้แล้วละก็ มาสู่ขั้นตอนสุดท้ายที่จะเปิดกันเลยว่าต้องทำอะไรบ้าง ได้แก่
[LIST][*]การจัดเตรียมทุน-ทรัพยากร เงินลงทุนขั้นต่ำ 5 หมื่นบาท กรณีใช้บ้านเป็นเนิร์สเซอรี หากเช่าสถานที่อาจจะต้องมี 5 แสนบาทขึ้นไป ขึ้นอยู่กับทำเลและความกว้างของสถานที่[*]จัดเตรียมอาคารสถานที่ ว่าจะใช้ที่บ้านตัวเองดีหรือหาสถานที่อื่น[*]วางแผนการบริหารงาน-จัดเตรียมบุคลากร ว่าคุณจะรับเด็กกี่คน ต้องมีเจ้าหน้าที่กี่คน[*]ขออนุญาตจัดตั้ง เตรียมเอกสาร-ยื่นขออนุญาตที่กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์[*]การเตรียมการรับเด็กได้เลย[/LIST]

chaskinny 02-02-2012 03:12

นึกภาพ เด็กร้องไห้ ด่ากัน แย่งของเล่น โอยยยยย สุดตรีนครับ


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 00:56

vBulletin รุ่น 3.8.7
สงวนลิขสิทธิ์ ©2000-2024, บริษัท Jelsoft Enterprises จำกัด


1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 21 22 23 24 25 26 27 28 29 30 31 32 33 34 35 36 37 38 39 40 41 42 43 44 45 46 47 48 49 50 51 52 53 54 55 56 57 58 59 60 61 62 63 64 65 66 67 68 69 70 71 72 73 74 75 76 77 78 79 80 81 82 83 84 85 86 87 88 89 90 91 92 93 94 95 96 97 98 99 100 101 102