24-02-2012 | #1 | ||
Administrator |
[FONT=Tahoma] ก่อนอื่นที่เราจะศึกษาว่า พุทธสุภาษิต และ พุทธศาสนสุภาษิต เป็นอย่างไร เราควรจะทราบว่า พุทธสุภาษิต - พุทธศาสนสุภาษิต คืออะไรเสียก่อน ความหมายของคำว่า สุภาษิต แปลว่า ถ้อยคำที่กล่าวไว้ดี (สุ=ดี, ภาษิต=กล่าว) สามารถนำมาเป็นคติ ยึดถือเป็นหลักใจได้ พุทธศาสนสุภาษิต หมายถึง ถ้อยคำดีๆ ในพระพุทธศาสนา แต่มิได้หมายความเฉพาะคำที่พระพุทธองค์ตรัสไว้เท่านั้น แม้สุภาษิตแทบทั้งหมดจะเป็นพระพุทธพจน์ก็ตาม เช่น ถ้าเป็นภาษิตพระสัมมาสัมพุทธตรัสเอง เรียกว่า พุทธภาษิต / พุทธสุภาษิต (หรือ พระพุทธพจน์) ถ้าพระโพธิสัตว์ กล่าวเรียกว่า โพธิสัตว์ภาษิต ถ้าพระสาวกกล่าว ก็เรียกว่า เถรภาษิต บ้าง สาวกภาษิต บ้าง แม้แต่คำที่เทวดากล่าว และพระพุทธองค์ได้ตรัสรับรองว่าดีด้วยการตรัสคำนั้นซ้ำ เรียกว่า เทวดาภาษิต เป็นต้น อันคำสุภาษิตย่อมเป็นที่นิยมของหมู่ชนทั้งหลาย แม้ต่างชาติ ต่างภาษาและต่างศาสนา ต่างก็มีสุภาษิตในหมู่ของตน ผูกขึ้นตาม ความนิยมให้ถูกแก่คราว แต่ก็เป็นธรรมดาของความดีที่ปรากฏ แก่ใจ ของปราชญ์ ถึงจะไม่ได้รับความคิดจากกันมาโดยทางใดทางหนึ่ง ก็ ยังดำริร่วมกันได้ก็มี แต่ข้อที่ต่างก็มีเหมือนกัน เพราะความนิยม ของฝ่ายหนึ่งย่อมต่างจากของอีกฝ่ายหนึ่ง อย่างไรก็ดี คำสุภาษิต ทั้งนั้น ย่อมเป็นคำสั้น ๆ จำได้ง่ายทั้งไพเราะมีความกว้าง ผู้ผูกขึ้น เลือกความกล่าวให้เป็นที่จับใจ [/FONT] [FONT=Tahoma] ฝ่ายของไทยเราก็มีหลายอย่าง มี สุภาษิตพระร่วงเป็นต้น ที่เลือกความมาจากบาลีก็มีบ้าง เช่นโลกนิติ. ความคิดรวมสุภาษิตนี้ขึ้น ก็เพื่อจะเลือกคำสอนฝ่ายพระพุทธศาสนา ไว้ในหมวดเดียวกัน จะเป็นประโยชน์แก่ผู้ฝึกสอนผู้ศึกษา และผุ้ ปฏิบัติในทางนั้นอีกเรื่องหนึ่ง เช่นหนังสือนวโกวาทที่เป็นอยู่บัดนี้ เพราะเหตุนั้น ในที่นี้ไม่ได้เก็บสุภาษิตของพวกถือลัทธิอื่นมากล่าว มีแต่คำที่มาในพระคัมภีร์ฝ่ายพระพุทธศาสนา คำที่สั้นก็ได้ชักมาไว้ ตรง ๆ คำที่ยาวเกินกว่าต้องการในที่นี้ได้ย่นให้สั้นลง แต่คงใจความ ตามเดิม คำเช่นนี้ได้เรียกว่านัย ได้แปลความไทยกับทั้งได้บอกที่มา ไว้ด้วย อีกอย่างหนึ่ง คำทีท่านผู้รู้ปริยัติทั้งหลายอื่นบ้าง ข้าพเจ้าเอง บ้าง อาศัยมติข้างพระพุทธศาสนาผูกขึ้นไว้ เพื่อประโยชน์เฉพาะเป็น ข้อสุภาษิตบ้าง เพื่อประโยชน์อื่นบ้าง เข้าพวกกันได้ก็ได้นำมารวบ. รวมไว้ด้วย แต่ข้างท้ายได้บอกนามผู้แต่งหรือหนังสือที่แต่งไว้. [/FONT] [FONT=Tahoma] ข้อ สุภาษิตในเรื่องนี้ ได้จัดสงเคราะห์เข้าเป็นหมวด ๆ เช่นว่าด้วยปัญญา หรือความสัตย์ ก็รวมไว้ตามพวก และชื่อหมวดนั้น ก็จัดเข้าลำดับ อักษรอื่นเพื่อค้นหาง่าย [/FONT][FONT=Tahoma]หนังสือนี้ เรียบเรียงขึ้นโดยกระแสพระราชดำริแห่งสมเด็จบรม- บพิตรพระราชสมภารเจ้า ดังมีแจ้งต่อไปนี้ เพื่อพระราชทานเป็นของ แจกในงานเลื่อนกรมข้าพเจ้า ที่ทรงเป็นพระราชธุระส่วนพระองค์ โดย ฐานที่ทรงตั้งอยู่ในทีเป็นผู้ใหญ่ของข้าพเจ้า. มีเวลาทำน้อย ระเบียบที่ จัดไม่เรียบร้อยไปโดยตลอด และคัมภีร์เป็นที่มาบางแห่ง ก็ต้องอ้าง แต่ที่เป็นชั้นรอง เช่นมังคลัตถทีปนี ที่ชักคำในแห่งอื่นมากล่าวไว้อีก ต่อหนึ่ง ถึงอย่างไรก็พอจะยังประโยชน์ให้สำเร็จได้ตามความมุ่งหมาย ซึ่งกล่าวแล้วในข้างต้น. กรมหมื่นวชิรญาณวโรรส วัดบวรนิเวศวิหาร วันที ๑๖ ตุลาคม ร. ศ๓๙. ๑๒๕ [/FONT] พุทธศาสนสุภาษิต : พระราชา [LIST][*]ราชา รฏฺฐสฺส ปญฺญาณํ พระราชาเป็นเครื่องปรากฏของแว่นแคว้น[*]ราชา มุขํ นุสฺสสานํ พระราชาเป็นประมุขของประชาชน[*]สพฺพํ รฏฺฐํ สุขํ โหตุ ราชา เจ โหติ ธมฺมิโก ถ้าพระราชาเป็นผู้ทรงธรรม ราษฎรทั้งปวงก็เป็นสุข[*]กุทฺธํ อปฺปฏิกุชฺฌนฺโต ราชา รฏฺฐสฺส ปูชิโต พระราชาผู้ไม่กริ้วตอบผู้โกรธ ราษฎรก็บูชา[*]สนฺนทฺโธ ขตฺติโย ตปติ พระมหากษัตริย์ทรงเครื่องรบย่อมสง่า[*]ขตฺติโย เสฏฺโฐ ชเนตสฺมิง เย โคตฺตปฏิสาริโน พระมหากษัตริย์เป็นผู้ประเสริฐสุดในหมู่ชนผู้รังเกียจด้วยสกุล[/LIST] พุทธศาสนสุภาษิต : สิ่งที่เป็นการยาก [LIST][*]กิจฺโฉ มนุสฺสปฏิลาโภ ความได้เป็นมนุษย์เป็นการยาก[*]กิจฺฉํ มจฺจาน ชีวิตํ ความเป็นอยู่ของสัตว์เป็นการยาก[*]กิจฺฉํ สทฺธมฺมสฺสวนํ การฟังธรรมของสัตบุรุษเป็นการยาก[*]กิจฺโฉ พุทฺธานมุปฺปาโท ความเกิดขึ้นแห่งท่านผู้รู้เป็นการยาก[*]ทุลฺลภํ ทสฺสนํ โหติ สมฺพุทฺธานํ อภิณฺหโส การเห็นพระพุทธเจ้าเนืองๆ เป็นการหาได้ยาก พุทธศาสนสุภาษิต : ทรัพย์และอนิจจัง [*]น จาปิ วิตฺเตน ชรํ วิหนฺติ กำจัดความแก่ด้วยทรัพย์ไม่ได้[*]น ทีฆมายุง ลภเต ธเนน คนไม่ได้อายุยืนเพราะทรัพย์[*]สพฺเพ ว นิกฺขิปิสฺสนฺติ ภูตา โลเก สมุสฺสยํ สัตว์ทั้งปวง จักทอดทิ้งร่างไว้ในโลก[*]อฑฺฒา เจว ทฬิทฺทา จ สพฺเพ มจฺจุปรายนา ทั้งคนมีทั้งคนจน ล้วนมีความตายเป็นเบื้องหน้า[*]อปฺปกญฺจิทํ ชีวตมาหุธีรา ปราชญ์กล่าวว่าชีวิตนี้น้อยนัก[*]น หิ โน สงฺครนฺเตน มหาเสเนน มจฺจุนา ความผัดเพื่อนกับมฤตยู อันมีกองทัพใหญ่นั้น ไม่ได้เลย[*]ยงฺกิญฺจิ สมุทยธมฺมํ สพฺพนฺตํ นิโรธธมฺมํ สิ่งใดสิ่งหนึ่งมีความเกิดขึ้นเป็นธรรมดา สิ่งนั้นล้วนมีความดับไปเป็นธรรมดา[*]ภิยฺโย จ กาเม อภิปตฺถยนฺติ ผู้บริโภคกาม ย่อมปรารถนากามยิ่งขึ้นไป[*]ชรูปนีตสฺส น สนฺติ ตาณา เมื่อสัตว์ถูกชรานำเข้าไปแล้ว ไม่มีผู้ป้องกัน[*]น มิยฺยมานสฺส ภวนฺติ ตาณา เมื่อสัตว์จะตาย ไม่มีผู้ป้องกัน[*]น มิยฺยามานํ ธมฺมนฺเวติ กิญฺจิ ทรัพย์สักนิดก็ติดตามคนตายไปไม่ได้[*]สงฺขารา ปรมา ทุกฺขา สังขารเป็นทุกข์อย่างยิ่ง[*]ขโณ โว มา อุปจฺจคา ขณะอย่าล่วงท่านทั้งหลายไปเสีย[*]อติปตฺติ วโย ขโณ ตเถว วัยย่อมผ้านพ้นไปเหมือนขณะทีเดียว[*]กาโล ฆสติ ภูตานิ สพฺพาเนว สหตฺตนา กาลเวลาย่อมกินสรรพสัตว์กับทั้งตัวมันเอง[/LIST] พุทธศาสนสุภาษิต : ความโกรธ [LIST][*]โกธํ ฆตฺวา น โสจติ ฆ่าความโกรธได้แล้วย่อมไม่เศร้าโศก[*]โกโธ สตฺถมลํ โลเก ความโกรธเป็นดังสนิมศัสตราในโลก[*]โกธํ ฆตฺวา สุขํ เสติ ฆ่าความโกรธได้แล้วย่อมอยู่เป็นสุข[/LIST] พุทธศาสนสุภาษิต : ความทุกข์ [LIST][*]ทฬิทฺทิยํ ทุกฺขํ โลเก ความจนเป็นทุกข์ในโลก[*]อิณาทานํ ทุกฺขํ โลเก การกู้หนี้ เป็นทุกข์ในโลก[*]ทุราวาสา ฆรา ทุกฺขา เหย้าเรือนที่ปกครองไม่ดี นำทุกข์มาให้[*]สงฺขารา ปรมา ทุกฺขา สังขารเป็นทุกข์อย่างยิ่ง[/LIST] พุทธศาสนสุภาษิต : สหาย [LIST][*]อตฺถมฺหิ ชาตมฺหิ สุขา สหายา เมื่อความต้องการเกิดขึ้น สหายเป็นผู้นำสุขมาให้[*]สเจ ลเภถ นิปกํ สหายํ จเรยฺย เตนตฺตมโน สติมา ถ้าได้สหายผู้รอบคอบพึงพอใจมีสติเที่ยวไปกับเขา[*]ปาปมิตฺโต ปาปสโข ปาปอาจารโคจโร มีมิตรเลว มีเพื่อนเลว ย่อมมีมรรยาทและมีที่เที่ยวเลว[*]นตฺถิ พาเล สหายตา ความเป็นสหาย ไม่มีในคนพาล[*]ภริยา ปรมา สขา ภริยาเป็นเพื่อนสนิท, ภรรยาเป็นสหายอย่างยิ่ง[/LIST] พุทธศาสนสุภาษิต : มลทิน [LIST][*]อสชฺฌายมลา มนฺตา มนต์มีการไม่ท่องบ่น เป็นมลทิน[*]อนุฏฺฐานมลา ฆรา เหย้าเรือนมีความไม่หมั่นเป็นมลทิน[*]มลํ วณฺณสฺส โกสชฺชํ ความเกียจค้านเป็นมลทินแห่งผิวพรรณ[*]มลิตฺถิยา ทุจฺจริตํ ความประพฤติชั่วเป็นมลทินของหญิง[/LIST] พุทธศาสนสุภาษิต : บริสุทธิ์ [LIST][*]สุทฺธิ อสุทฺธิ ปจฺจตฺตํ ความบริสุทธิ์และความไม่บริสุทธิ์มีเฉพาะตัว[*]นาญฺโญ อญฺญํ วิโสธเย ผู้อื่นพึงทำให้ผู้อื่นบริสุทธิ์ไม่ได้[*]สุทฺธสฺส สุจิกมฺมสฺส สทา สมฺปชฺชเต วตํ พรตของผู้บริสุทธิ์มีการงานสะอาด ย่อมถึงพร้อมทุกเมื่อ[/LIST] พุทธศาสนสุภาษิต : การชนะ [LIST][*]สพฺพรติง ธมฺมรติ ชินาติ ความยินดีในธรรมย่อมชนะความยินดีทั้งปวง[*]ตณฺหกฺขโย สพฺพทุกฺขํ ชินาติ ความสิ้นตัณหา ย่อมชนะทุกข์ทั้งปวง[*]น หิ ชิตํ สาธุ ชิตํ ยํ ชิตํ อวชิยฺยติ ความชนะที่ไม่กลับแพ้เป็นดี[*]อสาธุง สาธุนา ชิเน พึงชนะคนไม่ดี ด้วยความดีของตน[*]ชิเน กทริยํ ทาเนน พึงชนะคนตระหนี่ ด้วยการให้[*]สจฺเจนาลิกวาทินํ พึงชนะคนพูดปดด้วยคำจริง[/LIST] พุทธศาสนสุภาษิต : หว่านพืชเช่นใด ได้ผลเช่นนั้น [LIST][*]อคฺคสฺส ทาตา ลภเต ปุนคฺคํ ผู้ให้สิ่งที่เลิศ ย่อมได้สิ่งที่เลิศอีก[*]มนาปทายี ลภเต มนาปํ ผู้ให้สิ่งที่ชอบใจ ย่อมได้สิ่งที่ชอบใจ[*]เสฏฺฐนฺทโท เสฏฺฐมุเปติ ฐานํ ผู้ให้สิ่งที่ประเสริฐ ย่อมถึงฐานะที่ประเสริฐ[*]ททโต ปุญฺญํ ปวฑฺฒติ บุญของผู้ให้ย่อมเจริญ[*]ทเทยฺย ปุรโส ทานํ คนควรให้ทาน[*]ปุญฺญมากงฺขมานานํ สงฺโฆ เว ยชตํ มุขํ พระสงฆ์นั้นแล เป็นประมุขของเหล่าชนผู้จำนงบุญบูชาอยู่[/LIST] พุทธศาสนสุภาษิต : ผู้ครองเรือน [LIST][*]ทุราวาสา ฆรา ทุกฺขา เหย้าเรือนที่ปกครองไม่ดี นำทุกข์มาให้ฯ[*]อนุฏฺฐานมลา ฆรา เหย้าเรือนมีความไม่หมั่น เป็นมลทินฯ[*]โภคา สนฺนิจฺจยํ ยนฺติ วมฺมิโก วุปจียติ โภคทรัพย์ของผู้ครองเรือนดี ย่อมถึงความพอกพูน เหมือนจอมปลวกกำลังก่อขึ้นฯ[/LIST] พุทธศาสนสุภาษิต : ภรรยา [LIST][*]ภตฺตา ปุญฺญาณมิตฺถิยา ภัสดาเป็นสง่าของสตรีฯ[*]ภตฺตารํ นาติมญฺญติ ภรรยาดี ไม่ดูหมิ่นภัสดา[*]ภตฺตุ ฉนฺทวสานุคา ภรรยาย่อมคล้อยตามอำนาจแห่งความพอใจของภัสดา[*]ภตฺตุญฺจ ครุโน สพฺเพ ปฏิปูเชติ ปณฺฑิตา ภรรยาผู้ฉลาดย่อมนับถือภัสดาและคนควรเคารพทั้งปวง[*]ภตฺตุมนา ปญฺจรติ ภรรยาดีย่อมประพฤติเป็นที่พอใจของภัสดา[*]สมฺภตํ อนุรกฺขติ ภรรยาดีย่อมคอยรักษาทรัพย์ที่ภัสดาหามาได้ไว้[*]สุสํวิหิตกมฺมนฺตา ภรรยาดีเป็นผู้จัดทำการงานดี[*]สุสฺสูสา เสฏฺฐา ภริยานํ บรรดาภิรยาทั้งหลาย ภริยาผู้เชื่อฟังเป็นผู้ประเสริฐ[/LIST] พุทธศาสนสุภาษิต : วาจา [LIST][*]หทยสฺส สทิสี วาจา วาจาเช่นเดียวกับใจ[*]สํโวหาเรน โสเจยฺยํ เวทิตพฺพํ ความเป็นผู้สะอาด พึงทราบได้ด้วยถ้อยคำสำนวน[*]ทุฏฺฐสฺส ผรุสวาจา คนโกรธมีวาจาหยาบคาย[*]มุตฺวา ตปฺปติ ปาปิกํ คนเปล่งวาจาชั่วย่อมทำตนให้เดือดร้อน[*]อภูตวาที นิรยํ อุเปติ คนพูดไม่จริง ย่อมเข้าถึงนรก[*]สณฺหํ คิรํ อตฺถาวหํ ปมุญฺจ ควรเปล่งวาจาให้ไพเราะที่มีประโยชน์[*]ตเมว วาจํ ภาเสยฺย ยายตฺตานํ น ตาปเย ควรกล่าวแต่วาจาที่ไม่ยังตนให้เดือดร้อน[*]น หิ มุญฺเจยฺย ปาปิกํ ไม่ควรเปล่งวาจาชั่วเลย[*]สํโวหาเรน โสเจยฺยํ กลฺยาณิง ควรเปล่งวาจางาม ให้เป็นที่พอใจฯ[*]วาจํ มุญฺเจยฺย กลฺยาณิง ควรเปล่งวาจางาม[*]โมกฺโข กลฺยาณิกา สาธุ เปล่งวาจางาม ยังประโยชน์ให้สำเร็จ[*]มนุญฺญเมว ภาเสยฺย ควรกล่าวแต่วาจาที่น่าพอใจ[*]นามนุญฺญํ กุทาจนํ ในกาลไหนๆ ไม่ควรกล่าววาจาไม่น่าพอใจ[*]วาจํ ปมุญฺเจ กุสลํ นาติเวลํ ไม่ควรกล่าววาจาที่ดี ให้เกินกาล[/LIST] พุทธศาสนสุภาษิต : ความกตัญญูและพรหมวิหาร [LIST][*]หิริโอตฺตปฺ ปิยญฺเญว โลกํ ปาเลติ สาธุกํ หิริและโอตตับปปะ ย่อมรักษาโลกไว้เป็นอันดี[*]โลโกปตฺถมฺภิกา เมตฺตา เมตตาเป็นเครื่องค้ำจุนโลก[*]อรติ โลกนาสิกา ความริษยาเป็นเหตุทำโลกให้ฉิบหาย[*]มหาปุริสภาวสฺส ลกฺขณํ กรุณาสโห อัชฌาศัยที่ทนไม่ได้เพราะกรุณาเป็นลักษณะของความเป็นมหาบุรุษ[*]นิมิตฺตํ สาธุรูปานํ กตญฺญูกตเวทิตา ความกตัญญูกตเวทีเป็นเครื่องหมายแห่งคนดี[*]สพฺพญฺเจ ปฐวิง ทชฺชา เนว นํ อภิราธเย ถึงแม้ให้แผ่นดินทั้งหมดก็ยังคนอกตัญญูให้จงรักไม่ได้[/LIST] พุทธศาสนสุภาษิต : คนชั่วกับลาภสักการะ [LIST][*]หนฺติ โภคา ทุมฺเมธํ โภคทรัพย์ย่อมฆ่าคนมีปัญญาทราม[*]สกฺกาโร กาปุริสํ หนฺติ สักการะ ย่อมฆ่าคนชั่วเสีย[/LIST] พุทธศาสนสุภาษิต : การงาน [LIST][*]อกิลาสุ วินฺเท หทยสฺส สนฺติง คนไม่เกียจคร้าน พึงได้รับความสงบใจ[*]สุทสฺสํ วชฺชมญฺเญสํ อตฺตโน ปน ทุทฺทสํ ความผิดของผู้อื่นเห็นง่าย ฝ่ายของตนเห็นยาก[*]อิติ วิสฺสฏฺฐกมฺมนฺเต อตฺถา อจฺเจนฺติ มาณเว ประโยชน์ย่อมล่วงเลยคนหนุ่มผู้ทอดทิ้งการงาน[*]นกฺขตฺตํ ปฏิมาเนนฺตํ อตฺโถ พาลํ อุปจฺจคา ประโยชน์ย่อมล่วงเลยคนโง่ผู้มัวถือฤกษ์อยู่[/LIST]
__________________ เรียน พี่น้องที่ทำการซื้อและขายเม้าส์ปากกามือสองในเว็บหรอยกู โปรดตรวจสอบข้อมูลและรายละเอียดของผู้ซื้อและผู้ขาย รวมถึงสินค้าเม้าส์ปากกามือสองให้ชัดเจน ก่อนตัดสินใจซื้อ ส่งมอบ และ โอนเงินกัน เพื่อความปลอดภัยนะคร้าบผม | ||
Tags |
พุทธ, พุทธ สุภาษิต, พุทธศาสน, พุทธศาสนสุภาษิต, พุทธสุภาษิต, ศาสนสุภาษิต, สุภาษิต |
| |