เว็บการ์ตูนหรอยกู

กลับไป   เว็บการ์ตูนหรอยกู > RoiGOo City > หรอยกูคาเฟ่

ตอบ
อ่าน: 2373 - คำตอบ: 1  
LinkBack คำสั่งเพิ่มเติม เรียบเรียงคำตอบ
เก่า 27-12-2011   #1
Senior Member
 
JigSaW's Avatar
 
วันที่สมัคร: Aug 2011
ข้อความ: 340
บล็อก: 18
ถ่ายทอดพลัง: 317
คะแนนหรอย: 255
Default 10 ข่าวกระแสแรงประจำปี 2011 ค่ะลองชมกันดู

เข้ามาอ่านกันเล่นเล่นค่ะ ว่าข่าวไหนเคยอะไรกันบ้างข้อมูลโดยเว็บเอ็มไทยนะค่ะขอบคุณมาก
บางข่าวเราก็อาจจะลืมลืมไปแล้วว่ามันเคยดังมากมายชนาดไหนในรอบปีนั้น ลองมาเตือนความจำ
กับย้อนข่าวแรงของปีเก่าเก่าเห่ากันดีกว่าจะได้ไม่เครียดถ้าปีต่อไปมีข่าวฮาฮาแบบนี้อีก



ในรอบปีที่ผ่านมา เหตุการณ์สำคัญเกิดขึ้นมากมายทั้งในประเทศไทย และทั่วโลก ไม่ว่าจะเหตุภัยพิบัติทางธรรมชาติในหลายประเทศ การจากไปของบุคคลที่มีชื่อเสียง บุคคลสำคัญ และเหตุอาชญากรรม-อุบัติเหตุ สะเทือนขวัญ รวมไปถึงเรื่องราวอื่นๆ ทั้งดีและร้าย ซึ่ง ได้สรุป และจัดอันดับ 11 ข่าวเด่นในรอบปี ที่เกิดขึ้นในบ้านเรา โดยทั้ง 11 ลำดับ ได้แก่ลำดับที่ 11.พญานาค บึงกาฬ ปู่อือลือ สารวัตรติดต่อพญานาคได้
ลำดับที่ 10.แผ่นดินไหวที่เชียงราย แตกตื่นเรื่องรอยเลื่อนต่างๆ
ลำดับที่ 9.หมอมุก
ลำดับที่ 8.กระแสแพลงกิ้งระบาด ทำให้เกิด พับเพียบ เลวิเทติ้ง ตามมา
ลำดับที่ 7.สาวซีวิคชนกับรถตู้โดยสารบนทางด่วนโทลล์เวย์
ลำดับที่ 6.เฮลิคอปเตอร์ตกในพื้นที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน
ลำดับที่ 5.คลิปสงกรานต์สีลม สาวเปลือยอก
ลำดับที่ 4.ปะทะเดือด! ไทย-กัมพูชา จนไทยถอนตัวจากมรดกโลก
ลำดับที่ 3 เลือกตั้งครั้งใหญ่ นายกฯหญิงคนแรก นโยบายรถคันแรก บ้านหลังแรก
ลำดับที่ 2.คันหูฟีเวอร์
ลำดับที่ 1.น้ำท่วมไทย ? เกิดคำว่า เอาอยู่ งูแมมบ้าหลุด แต่สุดท้ายความสามัคคีทำให้ต่างชาติจัดอันดับไทยติด 1 ใน 10 ประเทศมีน้ำใจ


ขอบคุณ mthai




ลำดับที่ 11.พญานาค บึงกาฬ ปู่อือลือ สารวัตรติดต่อพญานาคได้
เป็น ข่าวมาอย่างต่อเนื่องตามสื่อต่างๆ ถึงเรื่องราวลี้ลับเกี่ยวกับ พนานาค ปรากฎตัวโผล่เล่นน้ำ ตามแม่น้ำทางภาคอีสาน ความเชื่อเหล่านี้ยังไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่า พญานาคมีจริงหรือไม่ ซึ่งทุกครั้งที่เป็นข่าวจะไม่พ้นภาพประหลาดชวนฉงนที่ว่า ?พญานาคมีตัวตนเช่นไร? อย่างเช่นกรณีที่ ชาว อ.บึงโขงหลง จ.บึงกาฬ ร่ำลือถึงเรื่องราว พญานาคบึงกาฬ ปู่อือลือ ที่มาปรากฎให้เห็นริมแม่น้ำรอบบึงโขงหลง ทำให้ชาวบ้านนับพันต่างเดินทางเพื่อมารอชม พญานาคบึงกาฬ ปู่อือลือ ดังกล่าว

ภาพพญานาค ปู่อือลือ ที่บึงโขงหลง เมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม ที่ผ่านมา
นางกัลยา แม่ค้าที่มีบ้านพักติดริมบึงโขงหลง เปิดเผยว่า เมื่อเช้าวันที่ 23 ส.ค. ตน ได้ยินเสียง นางหนู ซึ่งกำลังหาปลาอยู่ ร้องเสียงดัง ตนจึงวิ่งไปดู ก็เห็นนางหนูวิ่งหน้าตาตื่นขึ้นจากริมแม่น้ำ ซึ่งเมื่อตนมองไปในบึง ก็เห็น ปู่อือลือ หรือ พญานาคบึงกาฬ มีลักษณะคล้ายงูใหญ่เท่าลำเรือ สีดำ ยาวประมาณ 30 เมตร กำลังว่ายน้ำจากทิศใต้ขึ้นเหนือ นานกว่า 10 นาที หลายคนสามารถใช้กล้องมือถือถ่ายภาพ และคลิปไว้ได้
นอก จากนี้ เช้าวันที่ 19 สิงหาคมประชาชนจำนวนมากแห่จับจองพื้นที่ บริเวณบึงโขงหลง จ.บึงกาฬ เพื่อรอดู การปรากฏร่างของพญานาค ตามความฝันของ พ.ต.อ.ชยรพ และได้มีพิธีบวงสรวงพญานาคที่ตำหนักปู่อือลือ และในที่สุด เวลาประมาณ 16.20 น.ก็มีพญานาค ปู่อือลือ ปรากฏกายที่บริเวณบึงโขงหลงตามความเชื่อของชาวบ้าน สร้างความฮือฮาให้กับคนที่เฝ้ารอชมนับหมื่น โดยมีลักษณะเหมือนปลาขนาดใหญ่ แหวกว่ายในน้ำไปมา

เหล่า นี้ นับว่าเป็นแรงศรัทธา ของชาวบ้าน จะเชื่อหรือไม่ มีเพียงประโยคเดียวก็คือ ไม่เชื่อ ก็อย่าลบหลู่? ตราบใดที่ยังไม่มีการพิสูจน์ ให้เห็นชัดแจ้ง เป็นปริศนาที่ยังรอหลักฐานพิสูจน์ให้เห็นจริงในเรื่องราวเหนือธรรมชาติ เรื่องนี้








ลำดับที่ 10.แผ่นดินไหวที่เชียงราย แตกตื่นเรื่องรอยเลื่อนต่างๆ
ทำเอาอกสั่น ขวัญผวาไปตามๆกัน หลังจากที่เกิดคลื่นยักษ์สึนามิที่ประเทศญี่ปุ่น ภายหลังก็เกิดแผ่นดินไหวศูนย์กลางอยู่ที่ประเทศพม่า ความแรง 6.7 ริกเตอร์ แรงสั่นสะเทือนได้กระจายไปทั่วภาคเหนือ ทั้ง แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย น่าน แพร่ ความแตกตื่นในเรื่องภัยพิบัติทางธรรมชาติ ทำให้ชาวบ้านต่างตื่นตระหนก และหวั่นว่าจะเกิดสึนามิในประเทศไทย
อย่างไรก็ตาม กรมอุตุนิยมวิทยาได้ออกมาระบุว่า จะไม่เกิดสึนามิ และให้รอการรายงานเป็นระยะ แต่สุดท้ายก็ไม่มีเหตุการณ์ร้ายแรงตามมา แต่เป็นที่น่าสลดใจคือ มีผู้เสียชีวิต1 ราย คือ นางหงษ์ อายุ 55 ปีหลังเกิดแผ่นดินไหวรุนแรง ประกอบกับมีอาฟเตอร์ช็อค 2 ครั้ง บ้านของผู้ตายสร้างด้วยปูน ทำให้ล้มทับ
นอกจากนี้ เสาไฟฟ้าในตัวเมืองยังมีความเสียหาย การติดต่อทางโทรศัพท์เป็นไปด้วยความลำบาก เจ้าหน้าที่ต้องใช้วิทยุในการสื่อสาร

แผ่น ดินไหวครั้งนี้ เรียกได้ว่ารับรู้การสั่นไหวได้ชัดเจนในพื้นที่หลายจังหวัด และยังเกิดอาฟเตอร์ช็อกมากกว่า 10 ครั้ง ส่งผลให้เกิดความเสียหาย ต่อโบราณสถาน 4 แห่งใน จ.เชียงราย คือ 1.พระธาตุเจดีย์หลวง เสียหายหนัก บริเวณยอดฉัตร ประมาณ 3 เมตร หักโค่นหล่นลง 2. พระธาตุจอมกิตติ ยอดฉัตรงอ 30-40 องศาฯ 3. วิหารวัดพระธาตุภูเข้า และ4.พระโมฬี ยอดหักงอ

อย่าง ไรก็ตาม ชาวบ้านยังคงหวาดผวากับรอยเลื่อนที่เป็นผลจากอาฟเตอร์ช็อก ในพื้นที่จังหวัดภาคเหนือ อย่างเช่นจ.น่าน มีการพบรอยเลื่อนยาวกว่า 15เมตร ผ่ากลางหมู่บ้านสกาดเหนือ ต.สกาด อ.ปัว จ.น่าน ทำให้ต้องเร่งอพยพชาวบ้านกว่า 39 ครัวเรือนออกจากพื้นที่เป็นการด่วน เกรงว่าจะเกิดดินสไลด์ถล่มลงมาจากการสำรวจรอบหมู่บ้าน

ขณะเดียวกัน ดร.สมิทธ ธรรมสโรช อดีตอธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา อดีตประธานกรรมการอำนวยการศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ ยังได้เปิดเผยว่า จากเหตุแผ่นดินไหว มีรอยเลื่อนที่ยังไม่ตายในฝั่งไทยค่อนข้างมากถึง 93 รอยเลื่อน ทั้งที่ จ.เชียงใหม่ จ.ตาก หากเกิดแผ่นดินไหวใหญ่อีกครั้ง ก็สามารถสร้างความเสียหายได้








ลำดับที่ 9.หมอมุก
เกิดเหตุการณ์สะเทือนขวัญขึ้น เมื่อคืนวันเสาร์ที่ 11 มิถุนายนกรณีที่ พ.ต.พญ. หทัยพร อิ่มวิทยา หรือ หมอมุก แพทย์ประจำ รพ.พระมงกุฎ ถูกรถยนต์คันหนึ่งขับพุ่งชน บริเวณหน้าบ้านและเป็นคลินิกของหมอมุก กระเด็นไปไกลกว่า 30 เมตร จนอาการสาหัสแต่มีพลเมืองดีจดเลขทะเบียนใส่มือแม่พร้อมเป็นพยาน

ซึ่ง ภายหลัง พ.อ.ศักดิ์สิทธิ์ ภู่กลั่น ผอ.กองกลางสำนักปลัดบัญชีทหาร กองบัญชาการกองทัพไทย ได้เข้ามอบตัวกับพนักงานสอบสวน สน.พญาไท พร้อมมีนายทหารพระธรรมนูญ ร่วมรับฟังการสอบปากคำ โดยพ.อ.ศักดิ์สิทธิ์ ปฏิเสธว่าไม่ได้เป็นผู้ขับชน
โดยยอมรับว่า วันเวลาที่เกิดเหตุ ตนเอง ภรรยา ลูกสาว และเพื่อนลูกสาว ได้เข้าไปทานอาหารที่ร้านเสนาวิลล่า บริเวณที่เกิดเหตุจริง ซึ่งหลังจากที่รับประทานอาหารเสร็จแล้วก็ออกมาที่รถ เพื่อจะเดินทางกลับ แต่เมื่อถึงรถยนต์ก็ถูก รถของ หมอมุก จอดขวางอยู่ ทำให้ไม่สามารถขยับรถได้ เนื่องจากรถไม่ได้ใส่เกียร์ว่างไว้ ทำให้ลูกสาวโมโห ไปเขียนบนกระจกรถว่า จอดรถไม่มีมารยาท ต่อมาหมอมุก เดินออกมา จึงมีการโต้เถียงกันเล็กน้อยเรื่องการจอดรถ
หลังจากนั้น ตนจึงโทรไปที่ 191 เพื่อให้มาเคลียร์เหตุการณ์แต่โทรไม่ติดโดยเมื่อ หมอมุก ขยับรถแล้ว ตนจึงนำรถออกมา แต่หมอมุกได้ทุบรถของตน ตนจึงถ่ายทะเบียนรถหมอมุกไว้ หมอมุก ขวางรถไว้ เมื่อตนจะขยับรถออก หมอมุกกระโดดขึ้นมาบนฝากระโปรงรถ พร้อมกับเกาะที่ปัดน้ำฝนและดึงติดมือไป

ด้าน พญ.พรรณพร อิ่มวิทยา มารดาของ พ.ต.พญ.หทัยพร หรือ หมอมุก ระบุว่าหมอมุกได้จอดรถซ้อนคันไว้ ทำให้นายทหารคนนั้น ต้องเข็นรถที่จอดอยู่ข้างหน้าออกเพื่อขับรถตนออกไปได้ หมอมุกได้เดินเข้าบ้านไปเข้าห้องน้ำ เจ้าของรถจึงลงมาเขียนข้อความต่อว่าไว้ที่กระจกรถ และวนไปจอดอีกถนนอีกฝั่ง เมื่อหมอมุกเดินออกมา จึงวนกลับมาพุ่งชนหมอมุก จนกระเด็นไปไกลกว่า 30 เมตร โดยมีที่ปัดน้ำฝน 2 ข้างของรถคันดังกล่าว หลุดติดไปที่ข้างตัว แล้วจะถอยรถทับอีกแต่คนแถวนั้นมาช่วยไว้ เจ้าของรถจึงขับหลบหนีไป
จาก นั้น มีการเปิดเผยผลการตรวจรถเก๋งยี่ห้อนิสสัน รุ่นซันนี่ นีโอ สีบรอนซ์ทอง หมายเลขทะเบียน วค1355 กรุงเทพมหานคร รถต้องสงสัย ไม่มีการแข้ไขเครื่องเป็นรถคันที่จดทะเบียนเอาไว้จริง ไม่พบรอยบุบด้านหน้ารถ และไม่น่าเชื่อ หมอมุก กระโดดใส่ตามที่นายทหารอ้าง

ชัดเจน ว่า ยังคงมีเงื่อนงำในการพยายามปกปิดหลักฐาน และคำให้การของ พ.อ.ศักดิ์สิทธิ์ ภู่กลั่น ผอ.กองกลางสำนักปลัดบัญชีทหาร กองบัญชาการกองทัพไทย ที่เข้ามอบตัวที่ สน.พญาไท ไม่ตรงกับกล้องวงจรปิดที่ระบุว่า หมอมุกกระโดดขึ้นมาบนฝากระโปรงรถ พร้อมกับเกาะที่ปัดน้ำฝนและดึงติดมือไป..ในขณะที่เหยื่อยังไม่สามารถตอบโต้ ใดๆได้

คดี ดังกล่าวเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ในวงกว้าง ถึงการดำเนินคดีกับบุคคลในเครื่องแบบ ที่อาจจะมีอำนาจเข้าแทรกแซงกระบวนการยุติธรรม จนมีข่าวลือว่า บุคคลที่ขับรถพุ่งชน หมอมุก อาจมีการสลับตัว น่าจะเป็น พ.ท. ศ. นายทหารสังกัดกองพลน้อยที่ 1 กองทัพบก ที่มีบิดาคือ พล.อ.อ. เป็นนายทหารนอกราชการ เดิมเป็นฝ่ายเสธ.ของ เสธ.อ.
ซึ่งการดำเนินคดี นั้น ทางแม่และเพื่อนๆของหมอมุกจึงขอร้องให้ผู้เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการเรียกร้อง ความเป็นธรรมให้หมอมุกด้วย เพราะคดีไม่คืบหน้าขณะที่อาการของหมอมุก จากที่ไม่รู้สึกตัว สมองบวม พักรักษาตัวในห้องไอซียู ก็อาการดีขึ้นตามลำดับ คณะแพทย์ได้ถอดเครื่องช่วยหายใจออกแล้ว จากนั้นก็ดูอาการทั่วไป








ลำดับที่ 8.กระแสแพลงกิ้งระบาด ทำให้เกิด พับเพียบ เลวิเทติ้ง ตามมา
กลายเป็นท่าฮิตติดลมบนกันไปแล้วสำหรับแพลงกิ้ง ที่ระบาดหนักทั้งในไทยและต่างประเทศ ท่าแผลงดังกล่าว มี กฎอยู่ว่า ต้องทำท่านอนคว่ำ ขาเหยียดตรง และราบไปกับพื้น แขนเหยียดตรงไม่งอ และต้องมีผู้ถ่ายรูปเก็บไว้เป็นหลักฐานแบ่งปันเพื่อนๆในโซเชียลเน็ตเวิร์ค โดยเฉพาะเฟสบุค

เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์กันไปว่า ทำไปเพื่ออะไร ขณะที่บางคนก็มองว่า เป็นศิลปะอย่างหนึ่ง

ไม่ มีต้นตอที่แน่ชัดว่ามาจากแหล่งใด แต่มีการระบาดไปอย่างรวดเร็วไปสู่บุคคลแทบทุกวงการ ไม่เว้นแม้กระทั่ง พนักงานแอ็ปเปิ้ล พยายามทำท่า แพลงกิ้ง บนปล่องไฟสูงขณะทำงาน จนงานเข้าเป็นเหตุให้ถูกไล่ออก นอกจากนี้ ดารานักแสดงของไทย ก็โชว์ศิลปะ เพลงกิ้งกันด้วยเช่นกัน
ความเลยเถิดของท่าแผลงแพลงกิ้ง ยังทำให้มีผู้เสียชีวิต อย่างเช่นนายแอคตัน บีล ชายออสเตรเลีย วัย20 ปี พยายามทำท่าแพลงกิง บนราวระเบียงอพาร์ตเมนต์สูงเจ็ดชั้น แล้วร่วงลงมาเสียชีวิต

นอกจากนี้ในประเทศไทย ยังพบภาพพระภิกษุ ทำท่า แพลงกิ้ง บนราวบันไดแพร่กระจายทางโลกออนไลน์อย่างรวดเร็ว จนกรมศาสนาต้องสั่งสอบอย่างเร่งด่วน และเกิดคำถามขึ้นว่า สิ่งเหล่านี้ เหมาะสมหรือไม่

หลังจากเป็นกระแสฮิตในอินเตอร์เนต กับการทำท่า แพลงกิ้ง ยังเกิดเทรนใหม่ตามมา อย่างเช่นคนไทยได้คิดท่า พับเพียบไทยแลนด์ มากลบกระแสแพลงกิ้ง ซึ่งในหน้าเพจของเว็บไซต์เฟซบุ๊กมี คนกด Like กว่าแสนคนเพียงไม่กี่วัน

นอกจากนี้ยังมีเลวิเทติ้ง หรือ Levitating เกิดขึ้นมา ซึ่งผู้นำเทรนด์ เลวิเทติ้ง นั่นคือ นัทสึมิ ฮายาชิ สาวน้อยชาวญี่ปุ่น เธอได้แรงบันดาลใจในการถ่ายภาพจากสำนวน ?เท้าที่เหยียบยืนบนผืนดิน แสดงให้เห็นว่าเราต่างก็เป็นคนอย่างแท้จริง?

ความแผลงของท่าเหล่านี้ ถูกพัฒนาขึ้นไปให้พิสดารมากยิ่งขึ้น จนเป็นที่มาของท่าแบทแมนนิ่ง โดยจะใช้วิธีห้อยหัวลงสู่พื้น ใช้เท้าเกี่ยวกับราวยึดไว้ ถือเป็นท่ายาก และอันตราย หากเกิดความผิดพลาดอาจคอหัก ศรีษะแตก หรือถึงขั้นเสียชีวิตได้

ขณะที่ท่าสุดแผลงลุกลามไปยัง พลัมกิ้ง (Plunbking) โดยใช้ท่าเดียวกับแพลงกิ้ง แต่จะกลับเป็นแนวดิ่งตั้งฉาก และที่สำคัญศรีษะต้องมุดอยู่ในโถส้วม มีเพียงหัวไหล่ที่คอยค้ำลำตัวไว้
บุคคลเหล่านี้ ต่างพอใจที่ะนำภาพไปอวดเพื่อนๆบนโซเชียลเน็ตเวิร์ค อย่างภาคภูมิใจ ไม่มีใครบอกได้ว่า ทำไปเพื่ออะไร แต่พวกเขาบอกว่า ไม่ต้องมีคำอธิบาย เพราะมันเป็นศิลปะอย่างหนึ่ง เท่านั้นเอง








ลำดับที่ 7.สาวซีวิคชนกับรถตู้โดยสารบนทางด่วนโทลล์เวย์
เกิด อุบัติเหตุสยองขวัญ รถเก๋งซีวิคของหญิงสาววัย17ปี พุ่งชนรถตู้โดยสารบนทางยกระดับดอนเมืองโทลล์เวย์ เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตทั้งสิ้น 9 ราย เมื่อวันที่ 27 ธ.ค. 2553 ที่ผ่านมา เป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ถึง ?สาวซิวิค? รายนี้ กับความหวั่นเกรงความสองมาตรฐานในการดำเนินคดี ทั้งที่ไม่มีใบอนุญาติขับขี่ และโทรศัพท์ขณะขับรถ
โดยเธอตกเป็นจำเลยในความผิดฐานขับรถยนต์โดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย อัยการฟ้องว่า จำเลยขับรถ ด้วยความเร็วสูงเกินกว่าอัตราที่กฎหมายกำหนด ปราศจากความระมัดระวัง โดยจำเลยไม่ขับรถในช่องทางซ้าย เมื่อมาถึงบริเวณแยกทางลงบางเขน ช่วงมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ได้เปลี่ยนช่องทางจากช่องขวาสุดมาช่องทางซ้ายถัดมา และยังเปลี่ยนกลับไปยังช่องทางขวาอีก
เป็นเหตุให้รถยนต์ของ จำเลยพุ่งเข้าชนรถยนต์ตู้ที่วิ่งระหว่างมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ศูนย์รัง สิต-อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เสียหลักหมุนไปชนขอบกั้นทางโทลล์เวย์พลิกคว่ำพังเสียหาย คนขับรถตู้โดยสารและผู้โดยสารภายในรถยนต์ตู้ กระเด็นออกจากตัวรถตกจากทางด่วนเสียชีวิตรวม 9 คน และบาดเจ็บสาหัสจำนวนมาก

จำเลย ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา ซึ่งภายหลัง ฝ่่ายพนักงานสอบสวน ต้องแจ้งข้อหาใช้โทรศัพท์ขณะขับรถกับผู้ต้องหาเพิ่มเติมอีก 1 ข้อหาด้วย ขณะที่ด้านทนายความฝ่ายจำเลยได้ออกแถลงการณ์ระบุว่า อาจมีความเป็นไปได้ว่ารถยนต์ทั้งสองคัน อาจจะไม่ได้เฉี่ยวชนกัน แต่อาจเกิดจากการเสียหลัก เพราะเหตุที่รถตู้โดยสารขับค่อมเลนและปาดหน้ามายังช่องทางเดินรถด้านขวาสุด อย่างกะทันหัน ขณะที่รถซีวิคก็พยายามหักหลบหนี จนเกิดเป็นอุบัติเหตุขึ้นดังกล่าว
ขอโทษค่ะ หนูเสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น มันเป็นอุบัติเหตุ เป็นคำพูดที่ออกจากปากสาวซิวิค ที่ไม่มีการให้ข้อมูลใดๆเพิ่มเติม

อย่างไรก็ตาม ทางทีมกฎหมายจากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้เป็นตัวแทน ดำเนินดคีเพิ่มเติมเพื่อเอาผิดกับผู้เกี่ยวข้องอีก 2 รายคือ
1.ผู้ ให้ยืมรถยนต์ที่ก่อเหตุและ 2.ผู้ปกครองของผู้ก่อเหตุ ในความผิดคู่ขนานของผู้ให้ยืมรถยนต์ที่ก่อเหตุ ฐานประมาททำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย และความผิดของพ่อแม่ฐานไม่ดูแลลูกให้ไปกระทำผิด

กลาย เป็นคดี ที่สังคมเคลือบแคลงสงสัย ติดตามอย่างใกล้ชิดในการตัดสิน และชี้ขาดบทลงโทษ ว่า สรุปแล้วคดีจะพลิก เป็นมวยล้มต้มคนดูหรือไม่อย่างไรในกระบวนการยุติธรรม สิ่งที่สูญเสียก็นำกลับคืนมาไม่ได้ แต่อย่างน้อย คงจะเป็นบรรทัดฐานครั้งต่อไป ที่ไม่ว่าใครทำผิดก็ต้องได้รับโทษเช่นเดียวกัน








ลำดับที่ 6.เฮลิคอปเตอร์ตกในพื้นที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน
เมื่อ วันที่ 16 ก.ค. 54 ทหาร 5นาย ประสบอุบัติเหตุเฮลิคอปเตอร์ตกที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี เสียชีวิตทั้งหมด เนื่องจากเครื่องชนภูเขาหลังประสบกับสภาพอากาศปิด ทำให้เครื่องเสียหลักและตกลงบริเวณแนวเขาตะนาวศ โดยเฮลิคอปเตอร์ที่เกิดอุบัติเหตุ เป็นรุ่นฮิวอี้มีผู้ร่วมโดยสารคือ
พ.ต.กิติ ศักดิ์ จีนเอี่ยม เป็นนักบินที่ 1,
ร.ท.ปรัชญา นวลศรี นักบินที่ 2,
จ.ส.อ.รังสรรค์ พลสายบัว ช่างเครื่อง, จ.ส.อ.ณรงค์เดช พงษ์นุ่มกูล
ช่าง เครื่อง ทั้ง 4 นายมาจาก พล.ร.9 นอกจากนี้ยังมี พ.ต.กิติภูมิ เอกพันธ์ รองผู้บังคับกองพันทหารราบที่ 2 กรมทหารราบที่ 9 ทำหน้าที่นายทหารยุทธการ หน่วยเฉพาะกิจทัพพระยาเสือ อ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี ร่วมเดินทางไปด้วย
โดย เหตุการณ์ดังกล่าวสืบเนื่องจากกรณีหน่วยทหารภาคพื้นที่ได้เดินเท้าตรวจ สอบกลุ่มลักลอบตัดไม้ทำลายป่า พร้อมคณะสื่อมวลชน จนสามารถเข้าจับกุมได้ ระหว่างนั้นเกิดการพลัดหลงในป่า จึงได้มีการติดตามช่วยเหลือ

ภายหลังกองทัพบก ได้ปูนบำเหน็จพิเศษ 8 ขั้น ให้กับ 5 ทหารเสียชีวิต จากกรณีเฮลิคอปเตอร์ตกที่แก่งกระจาน

หลัง จากนั้น(19 กรกฎาคม) เวลา 12.30 น. ก็เกิดเหตุสลดขึ้นอีกครั้ง เมื่อ เฮลิคอปเตอร์แบบแบล็คฮอว์ก ที่ออกบินในช่วงเช้า เพื่อไปลำเลียงศพทหารที่เสียชีวิตจากเหตุเฮลิคอปเตอร์ตกเมื่อวันที่ 16 กรกฎาคมที่ผ่านมา ประสบอุบัติเหตุตกซ้ำ
มีนักบิน ช่างเครื่อง ผู้สื่อข่าว รวมทั้ง พล.ต.ตะวัน เรืองศรี ผบ.พล.ร.9 รวม 9 ชีวิต ในพื้นที่ป่าฝั่งประเทศพม่า ตรงข้าม บ้านเขาไม้แดง อ.แก่งกระจาน ห่างจากจุดเดิมที่เฮลิคอปเตอร์ตกครั้งก่อนราว 2 กิโลเมตร คาดว่าอาจเกิดจากสภาพอากาศที่เลวร้าย โดยเฉพาะลมที่เกิดในหุบเขา
รายชื่อนายทหาร และนักบินที่อยู่บนเครื่องทั้งหมด 9 ราย และเสียชีวิตทั้งหมด มีดังนี้
1. พ.ต.ประพันธ์ เจียมสูงเนิน (นักบิน1)
2. พ.ต.ชูพันธ์ พลวรรณ (นักบิน2)
3. จ.ส.อ.สมคิด วงษ์ตาแสง (ช่างเครื่อง)
4. ส.อ.อร่าม พงษ์สิงห์
5. พล.ต.ตะวัน เรืองศรี ผู้บัญชากองพลทหารราบที่ 9
6. ร.อ.เจษ สุขใจ
7. ร.อ.จักรพันธ์ บำรุงพืช
8. สิบตรีอิทธิศักดิ์ หิณะสุทธิ์ และ
9. นายศรวิชัย คงตันนิกูล (ช่างภาพสถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบก ช่อง 5)
รายงาน ระบุว่า สภาพศพนายทหาร และนักบินไม่สมบูรณ์ เครื่องแบล็กฮอว์ก แหลกละเอียด แต่ไม่มีร่องรอยไฟไหม้ โดยลักษณะน่าจะเป็นการตกกระแทกอย่างรุนแรง แต่ไม่มีการระเบิด พิธีพระราชทานน้ำหลวงอาบศพของนายทหารทั้ง 8 นาย และนายศรวิชัย คงตันนิกูล ช่างภาพช่อง 5 บรรยากาศเต็มไปด้วยความโศกเศร้า ท่ามกลางบรรดาญาติ ๆ และเพื่อนพ้องที่มารอรดน้ำศพ

จาก นั้น เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม 2554 เฮลิคอปเตอร์เครื่องเบลล์ 212 ร่วงอีกขณะบินกู้ภัย โดยขนอุปกรณ์เพื่อใช้ในการลำเลียงศพเฮลิคอปเตอร์เครื่องแบล็กฮอว์คตกใน พื้นที่หมู่ 7 บ้านหนองเกด ต.แก่งกระจาน อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี ตัวเครื่องมีไฟลุกไหม้พบผู้เสียชีวิต 3 ราย และมีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส 1 ราย ซึ่งผู้เสียชีวิต 3 ราย
ได้แก่ พ.ต.ฐิรวัฒน์ แก้วกมล นักบินที่ 1 , ร.ท.บูรณา หวานใจ นักบินที่ 2 และ จ.ส.อ.วิเชียร จันทร์พัฒน์ ช่างเครื่อง
ความสูญเสียในกองทัพไทย เป็นโศกนาฏกรรมรั้งใหญ่ที่เกิดขึ้น ซึ่งพลตรีพิทยา กระจ่างวงษ์ ผู้บัญชาการศูนย์การบินทหารบก ยืนยันว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นอุบัติเหตุไม่ใช่ความประมาทของนักบิน หรือช่างเครื่อง เพราะนักบินทั้ง 6 คน (3 ลำ ลำละ 2 คน) ผ่านการฝึกตามมาตรฐานสากลและมาตรฐานทางทหาร ส่วนตัวเครื่องแม้จะเป็นเครื่องเก่า แต่ก็มีระบบซ่อมบำรุงตามมาตรฐานกองทัพบกสหรัฐฯ มีการตรวจเช็คตามวงรอบ เปลี่ยนชิ้นส่วนใหม่ตลอด ในแต่ละวันจะมีช่างเครื่องตรวจเช็คทุกวัน ทั้งก่อนและหลังบิน

ขณะที่สังคมไทย เชื่อเรื่องสิ่งศักดิ์สิทธิ์ และสิ่งเร้นลับ ก็อดคิดไม่ได้ว่า เหตุการณ์ไม่น่าเชื่อนั้น จะเกี่ยวกับ ?อาถรรพ์แก่งกระจาน? เช่น คำพูดของพล.ต.ตะวัน เรืองศรี ผบ.พล.ร.9 กองกำลังสุรสีห์ ฉก.ทัพพระยาเสือ จ.กาญจนบุรี ก่อนที่จะขึ้นเฮลิคอปเตอร์แบล็กฮอว์กไปรับศพทหารทั้ง 5 นายที่เสียชีวิตจากเหตุเฮลิคอปเตอร์ฮิวอี้ตก พูดแบบติดตลกหลังจาก นักข่าวจะขอตามขึ้นไปทำข่าวด้วยว่า ?อย่าไปเลย เดี๋ยวก็ตกกันหมดหรอก? ภายหลังก็เกิดขึ้นจริงๆ
รวมทั้ง พ.ต.ประพันธ์ เจียมสูงเนิน นักบินที่ 1 ประจำเฮลิคอปเตอร์แบล็กฮอว์ก พร้อมทหารที่กำลังจะออกบินไปลำเลียงศพผู้เสียชีวิตจากเหตุเฮลิคอปเตอร์ฮิ วอี้ตก ก็ได้จุดธูปเซ่นไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์เหมือนทุก ๆ ครั้ง แต่ก็ไม่สามารถปักธูปลงบนพื้นได้ ต้องเปลี่ยนสถานที่ปักธูปอยู่หลายครั้งจึงจะสามารถปักธูปลงบนพื้นดินได้ หลาย คนจึงร่ำลือกันว่า มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในพื้นที่ป่าแห่งนี้ โดยภายหลังพิธีขอขมาและเซ่นไหว้เจ้าป่าเจ้าเขาเสร็จสิ้นก็แทบไม่น่าเชื่อว่า ท้องฟ้ากลับสว่าง มีสายรุ้งเหนือยอดเขา และไม่มีอุบัติเหตุใดๆเกิดขึ้นอีกเลย








ลำดับที่ 5.คลิปสงกรานต์สีลม สาวเปลือยอก
ภาย หลังจบสิ้นเทศกาลสงกรานต์ ประเพณีอันดีงามของชาวไทย แทนที่จะประทับใจกับการรดน้ำดำหัวผู้ใหญ่ แสดงออกถึงขนบธรรมเนียมประเพณีอันดีงาม แต่ก็เป้นที่น่าสลดใจเมื่อมีคลิปที่ถูกส่งต่อกันทางอินเตอร์เนต โดยเป็นภาพสาวถอดเสื้อเปลือยอก เต้นบนหลังคารถ โดยระบุว่าเป็นการเล่นสงกรานต์ที่ถนนสีลม กรุงเทพมหานคร โดยมีเสียงชายหนุ่มส่งเสียงเชียร์

ซึ่งใน คลิปสงกรานต์สีลม ดังกล่าวมีเด็กสาว เปลือยอก ผลัดกันขึ้นมาเต้นยั่วยวนโชว์ ท่ามกลางสายตาของนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาติจำนวนมากจนมีหลายฝ่ายออก มาตำหนิถึงการกระทำดังกล่าว
โดย นางสาวสุเพ็ญศรี พึ่งโคกสูง หัวหน้าศูนย์พิทักษ์สิทธิสตรี มูลนิธิเพื่อนหญิง กล่าวว่า เป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสม พร้อมตำหนิเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติหน้าที่ ในพื้นที่ที่ปล่อยให้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าว
ขณะ ที่สื่อมวลชนชาวอังกฤษที่ทำงานในประเทศไทย กล่าวว่า ไม่คิดว่าจะเป็นพฤติกรรมของวัยรุ่นไทยโดยทั่วไป เชื่อว่าคนไทยไม่กระทำพฤติกรรมดังกล่าวในที่สาธารณะ
นางระเบียบรัตน์ พงษ์พานิชในฐานะนายกสมาคมครอบครัวอบอุ่นและเป็นสุข ได้ออกมากล่าวถึงกรณีดังกล่าวว่า เมื่อตนเห็นภาพนี้แล้วก็รู้สึกตกใจเป็นอย่างมาก ไม่นึกว่าวัยรุ่น และสังคมจะเปลี่ยนไปได้มากขนาดนี้

และ ในที่สุด นายสุรเกียรติ ลิ้มเจริญ ผู้อำนวยการเขตบางรัก ได้เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สน.ยานนาวา ให้ดำเนินคดีกับวัยรุ่นหญิง 3 คน และผู้สนับสนุนให้มีการเต้น เปลือยอกสงกรานต์สีลม ใน ข้อหากระทำการอันควรขายหน้า ตามมาตรา 388 มีโทษปรับไม่เกิน 500บาท ส่วนผู้สนับสนุนรับโทษไม่เกิน 2 ใน 3 และให้ดำเนินคดีกับผู้ที่เผยแพร่คลิปทางอินเตอร์เน็ต อันเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ มาตรา 14 วรรค 4 มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 100,000 บาท

3 วัยรุ่นหญิงถอดเสื้อเปลือยอกช่วงสงกรานต์สีลม ได้เข้ามอบตัวกับ พนักงานสอบสวน โดยทั้งสามคนเป็นเยาวชน มีอายุ ระหว่าง 13-16 ปี สารภาพว่า ที่ทำไปเพราะความคึกคะนอง และไม่ได้มีอาการมึนเมาแต่อย่างใด เจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งข้อหา กระทำการอันควรขายหน้าต่อหน้าธารกำนัล โดยเปลือยหรือเปิดเผยร่างกาย หรือกระทำการลามกอย่างอื่น โดยทำการเปรียบเทียบปรับเป็นจำนวนเงิน 500 บาท
เป็นที่น่าเสียดาย ที่สงกรานต์ ประเพณีอันดีงามกำลังจะเลือนหายไป สิ่งที่ปรากฏต่อนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ และสื่อมวลชนจากต่างประเทศ สะท้อน ภาพของความเสื่อมทรามของวัยรุ่นไทย ที่พวกเขายังไม่นึกเลยว่า คนไทยจะกล้าทำถึงเพียงนี้









ลำดับที่ 4.ปะทะเดือด! ไทย-กัมพูชา จนไทยถอนตัวจากมรดกโลก
เกิด ความสัมพันธ์ระหองระแหง จนกลายเป็นคู่รักคู่แค้น กันเรื่อยมา ปะทุเป็นสงครามย่อยๆระหว่างไทยกับกัมพูชา สืบเนื่องจากกรณีพิพาท พรมแดนพื้นที่ปราสาทพระวิหาร ที่ต่างฝ่ายต่างอ้างสิทธิ์ มาตั้งแต่ปี 2551 จนชายแดนระส่ำ ชาวบ้านขวัญผวาอยู่ไม่สุข
เสียงปืนดังเป็นระยะๆ ทุกครั้งที่มีการปะทะ มีทหารสังเวยชีวิตกับความขัดแย้งไปนักต่อนัก แต่สุดท้ายก็ยังไม่มีข้อยุติ การ ปะทะครั้งล่าสุด 22 เม.ย. เกิดขึ้นที่ บริเวณปราสาทตาควาย ต.บักได อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ ส่งผลให้มีทหารได้รับบาดเจ็บจำนวนหนึ่ง กระสุนปืนใหญ่ตกเข้าในหมู่บ้าน ส่งผลให้บ้านเรือนประชาชนเสียหาย ชาวบ้านหลายคนอยู่ในความหวาดวิตก ทหารผู้เคราะห์ร้ายต้องสังเวยชีวิตกับการต่อสู้ในครั้งนี้

เหตุการณ์ ระอุขึ้น ทหารกัมพูชา เพิ่มความถี่ ยิงใส่ทหารไทย บริเวณปราสาทตาเมือนธม-ตาควาย จ.สุรินทร์ ขณะฝั่งไทยยิงปืน ค.105 ตอบโต้ฐานที่มั่น ซึ่งทั้งสองฝ่ายมี ผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บจำนวนมาก ขณะที่ทางฝ่ายกัมพูชาอ้างว่า ทหารไทยได้รุกล้ำเข้ามาในฝั่งประเทศไทย ส่วนกองทัพไทยก็ระบุว่าทางฝ่ายเขมรรุกรานไทยก่อน

พัน เอกสรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกกองทัพบก แถลงถึงสถานการณ์ดังกล่าวว่า ทหารฝ่ายกัมพูชาพยายามเข้าไปดัดแปลงพื้นที่ ถือเป็นการละเมิดอธิปไตยและข้อตกลงฝ่ายไทย จึงแจ้งเตือน แต่ฝ่ายกัมพูชากลับใช้อาวุธยิงตอบโต้กลับมา

ข้อ พิพาทเรื่องพื้นที่ทับซ้อน เป็นเรื่องละเอียดอ่อนที่เกิดขึ้นมายาวนาน จากปัญหาน้ำผึ้งหยดเดียว ในปีพ.ศ. 2551 ฝั่งกัมพูชาได้เสนอต่อองค์การยูเนสโก ในการประชุมคณะกรรมการมรดกโลก สมัยที่ 31 ให้ ?ขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหาร เป็นมรดกโลก? แต่แผนที่ที่กัมพูชาแนบท้ายนั้น เป็นอาณาบริเวณของปราสาทพระวิหารได้ขีดเส้นเขตแดนล้ำเข้ามาในบริเวณทางทิศ เหนือและทิศตะวันตกของปราสาท ซึ่งเป็นพื้นที่ทับซ้อน และได้ขีดเส้นเขตแดนประเทศล้ำเข้ามาในฝั่งไทย
ซึ่งภายหลัง ทางฝ่ายกัมพูชาได้ยื่นเรื่องต่อศาลโลกให้มีคำสั่งให้ไทยถอนทหารจากพื้นที่ 4.6 ตารางกิโลเมตรโดยรอบปราสาทพระวิหาร และให้ไทยยุติกิจกรรมทางทหารทุกอย่างในทันที อีกทั้งยังขอให้ไทย ?ยุติการกระทำการใดๆ ที่จะแทรกแซงสิทธิของกัมพูชาหรือทำให้ความขัดแย้งในปัจจุบันขยายตัวออกไป

จน กระทั่งนายสุวิทย์ คุณกิตติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในฐานะหัวหน้าคณะเจรจามรดกโลกไทยตัดสินใจถอนตัว จากการเป็นภาคีมรดกโลก ด้วยเหตุผลที่ คณะกรรมการมรดกโลกพิจารณานำวาระเขาพระวิหารเข้าที่ประชุม ทางเลือกเดียวของไทยนั่นก็คือ ต้องถอนตัว เพราะแผนบริหารจัดการปราสาทพระวิหารของรัฐบาลกัมพูชานั้น รุกล้ำอำนาจอธิปไตยไทย โดยยูเนสโก จะไม่มีอำนาจบังคับให้ไทยยอมรับและปฏิบัติตามมติใดๆได้อีกต่อไป เรียกได้ว่าจะไม่มีอำนาจมาแทรกแซง หรือพันธะใดๆในการจัดการกับปัญหาการปักปันเขตแดนไทย-กัมพูชาได้อีก
หลัง จากนั้น ศาลกรุงเฮกของสหประชาชาติ หรือศาลโลก ออกนั่งบัลลังค์พิจารณา กรณีข้อพิพาท 4.6 กิโลเมตร พื้นที่ทับซ้อนเขาพระวิหาร ตามที่ประเทศกัมพูชาร้องขอ ระหว่างพื้นที่ทับซ้อนไทยและกัมพูชา โดยมติศาลโลก9ต่อ5สั่ง2ฝ่ายถอนกำลังรอบพื้นที่พระวิหาร ตั้งเขตปลอดทหาร4จุด และยังเรียกร้องให้ฝ่ายไทยและกัมพูชาเปิดโต๊ะเจรจาขจัดขัดแย้งระหว่างกัน









ลำดับที่ 3 เลือกตั้งครั้งใหญ่ นายกฯหญิงคนแรก นโยบายรถคันแรก บ้านหลังแรก
ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร กลายเป็นผู้ที่ได้รับความสนใจจากมวลชน หลังจาก16 พฤษภาคม ที่ประชุมพรรคเพื่อไทยมีมติเป็นเอกฉันท์ให้เป็นผู้สมัคร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ ลำดับที่ 1 ท่ามกลางความสนใจในความแปลกใหม่ที่ เพศหญิงเข้ามาโลดแล่นในวงการการเมือง เป็นแคนดิเดตต่อสู้ช่วงชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนสำคัญกับ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ
โดยผลการจับฉลาก พรรคเพื่อไทยได้หมายเลข 1 ขณะที่พรรคประชาธิปปัตย์ได้หมายเลข10

ระหว่างการหาเสียงอันดุเดืออด โพลหลายสำนักเชื่อว่า การเลือกตั้งครั้งนี้ เพื่อไทยจะได้รับชัยชนะ ซึ่งผลการเลือกตั้งก็เป็นไปตามคาด คะแนนเสียงส่วนใหญ่เทคะแนนให้ฝั่งพรรคเพื่อไทย โดยนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร พร้อมแกนนำพรรคเพื่อไทย แถลงขอบคุณประชาชนคนไทยทุกคะแนนเสียง

ผล การเลือกตั้งครั้งนี้ยังทำให้ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ได้ออกแถลงการณ์ลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ แต่ภายหลัง ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ โหวตเลือก นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นหัวหน้าพรรคต่ออีกสมัย

การ ก้าวเข้ามาเป็นรัฐบาล ของพรรคเพื่อไทย จึงมีการทวงถามถึงนโยบายต่างๆดังที่ได้เคยหาเสียง พูดเอาไว้กับประชาชน ทั้งเรื่องเงินเดือนป.ตรีขั้นต่ำ 15,000บาท ค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาท แจกแท็บเล็ตเด็กป.1ใช้ทั่วประเทศ นอกจากนี้ยังมีนโยบายบ้านหลังแรก เพื่อเป็นการเปิดโอกาสประชาชน เข้าถึงที่อยู่อาศัยแบบไม่ต้องรับภาระกับค่าเช่า และสร้างการขยายตัวของภาคธุรกิจ อสังหาริมทรัย์ มากยิ่งขึ้น
แต่กระแส ตอบรับ มาพร้อมกับคำวิพากษ์วิจารณ์ว่า แท้จริงแล้วใครจะได้ประโยชน์จากโครงการบ้านหลังแรก และยังมีนโยบายรถคันแรก ที่รัฐได้เดินหน้าดำเนินการ แต่ก็มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ตามมาเช่นเดียวกันว่า ยิ่งจะทำให้การจราจรติดขัด เกิดปัญหายิ่งขึ้นอีก

อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกของไทย และฐานะนายกรัฐมนตรีหญิงคนที่ 52 ของโลก สร้างความสนใจจากสื่อทั่วโลกได้ไม่น้อย นิตยสารไทม์ ระบุว่า แม้ว่าจะมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ถึงคุณสมบัติทางการเมืองของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ว่าเธอเป็นน้องสาวของอดีตนายกรัฐมนตรี ทักษิณ ชินวัตร ซึ่งทำให้เธอขึ้นมาดำรงตำแหน่งนี้ แต่ทว่า เสียงวิจารณ์ดังกล่าวก็ไม่ถือว่าไม่เสียหายนัก ยกให้เธอขึ้นแท่น 12ผู้นำหญิงโลก
นอกจากนี้นิตยสารฟอร์บส์จัด 100 อันดับสตรีผู้ทรงอิทธิพลของโลก ประจำปี 2011 ยกให้ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีหญิงของไทย วัย 44 ปี ติดอันดับที่ 59









ลำดับที่ 2.คันหูฟีเวอร์
ประเด็นของน้อง จ๊ะ คันหู นักศึกษาวัย 20 ปี กำลังแพร่หลายในอินเตอร์เน็ต หลายคนให้ความสนใจอยู่ไม่น้อย ในลีลาการร้องเพลงคันหู ขณะที่ใช้มือลูบไล้บริเวณเป้ากางเกง อย่างยั่วยวนในเพลง คันหู กลุ่มนักร้องเทอร์โบที่โพสในเว็บไซต์ยูทูป จนมียอดผู้ชมนับล้าน

แน่นอนว่า หลังจากภาพเผยแพร่ออกไป มีผู้ที่ไม่เห็นด้วยออกมาต่อต้าน ประณามการกระทำของจ๊ะ คันหู เนื่อ งจากไม่เหมาะกับสังคมไทย และประเทศไทยซึ่งนับถือศานาพุทธ ขณะที่บางส่วนก็มองว่า เป็นสิทธิ ที่ไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อน และมองเป็นความบันเทิง
น้องจ๊ะ จึงได้รับความสนใจไม่น้อย ซึ่งกระแสโจมตีถาโถมเข้าหาเธอ อาทิเป็นโสเภณี ขายตัว มั่วผู้ชาย ทำลายจรรยาบรรณของนักร้องที่ทำมาหากินทั่วไป ต่างจากแฟนเพจของเธอที่มีสมาชิกกว่าแสนคน

ประเด็น ร้อนแรงเกิดขึ้นเป็นทอล์ค ออฟ เดอะทาวน์ หลังจากที่รายการ วู้ดดี้เกิดมาคุย ออกอากาศคืนวันที่ 4 กันยายน ก็มีกระแสโจมตีอย่างหนัก ถึงตัวพิธีกรว่า ไม่ให้เกียรติแขกรับเชิญ ในการตั้งคำถามที่รุนแรง ราวกับนำแขกรับเชิญมาด่ากลางรายการ
หลายคนให้ความเห็นว่า คำถามที่ตั้งขึ้นมาอย่าง เป็นศิลปะชั้นต่ำ ไม่สมควรนำมาถามกับแขกรับเชิญซึ่งเป็นผู้หญิง ที่ทำงานโดยสุจริต ขณะที่บางส่วนก็บอกว่า ในเมื่อเธอเลือกที่จะเดินทางสายนี้ ก็ต้องยอมรับกับกระแสวิพากษ์วิจารณ์ต่างๆได้ เช่นเดียวกัน
ท่าเต้นอันเย้ายวนของ จ๊ะ คันหู ดังไกลจนสื่อนอกตีข่าว กลายเป็นกระแสสังคม ซิดนีย์ มอร์นิ่ง สื่อของออสเตรเลียรายงานด้วยว่า สื่อ ต่างๆของไทย ทั้งหนังสือพิมพ์ โทรทัศน์ และอื่นๆ ต่างนำเสนอเรื่องราวที่เกิดขึ้น บางคนถึงขั้นด่า จ๊ะ คันหูว่าเธอ ไม่ต่างจากโสเภณี ทั้งทีความจริงไม่ได้เป็นเช่นนั้น ความรุนแรงของพฤติกรรมทำให้มีการส่งเรื่องร้องเรียนไปยังกระทรวงวัฒนธรรม ที่มีการพิจารณาเรื่องนี้

น้อง จ๊ะ คันหู มีชื่อจริงว่า นงผณี มหาดไทย อายุ 20 ปี เธอบอกว่า เธอมาจากครอบครัวที่ไม่ได้ร่ำรวย เป็นเพียงนักศึกษาการบริหารจัดการปี 2 ที่ต้องการหาเงินมาเป็นทุนการศึกษาในมหาวิทยาลัย ซึ่งจริงๆแล้วตัวตนจริงๆของเธอ ไม่ใช่อย่างที่เห็น ถ้าหากเธอเลือกได้เธอคงไม่อยากจะเป็นแบบนี้









ลำดับที่ 1.น้ำท่วมไทย ? เกิดคำว่า เอาอยู่ งูแมมบ้าหลุด แต่สุดท้ายความสามัคคีทำให้ต่างชาติจัดอันดับไทยติด 1 ใน 10 ประเทศมีน้ำใจ
เป็น ที่ถกเถียงกันถึงสาเหตุของปริมาณน้ำท่วมในปีนี้ ที่มีมากเกินกว่าปกติ จนกลายเป็นมหาอุทกภัยในพื้นที่ลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา ที่มีความรุนแรงหนักสุดในรอบ 50 ปี อีกทั้งการบริหารจัดการน้ำของฝ่ายรัฐบาลที่ไม่ดีพอ ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมหนักในหลายๆจังหวัด โดยเฉพาะพิษณุโลก นครสวรรค์ พระนครศรีอยุธยา นนทบุรี ปทุมธานี กรุงเทพมหานคร กลายเป็นข้อสงสัยว่า น้ำในเขื่อนที่มากเกินปกติ เป็นปัจจัยที่ทำให้น้ำท่วมนั้นเป็นฝีมือใคร..

ความ วิตกกังวล และความเชื่อมั่นในการบริหารจัดการน้ำของรัฐบาล ที่พึ่งจะเข้ามารับหน้าที่เพียงไม่นาน ก็เป็นเหตุให้การทำงาน และการประสานงานของศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย (ศปภ.) ถูกโจมตีอย่างหนัก โดยเฉพาะการประกาศอพยพที่คาดเคลื่อน สร้างความเดือดร้อนแก่ประชาชน

แม้ว่านายกรัฐมนตรี จะออกมาพูดให้ความเชื่อมั่นว่า กรุงเทพมหานครจะไม่จมใต้บาดาล ด้วยวลีฮิตติดหู ?เอาอยู่ค่ะ? แต่สุดท้ายมวลน้ำก็ไม่สามารถต้านทานได้ แม้ว่าจะใช้ทั้งกระสอบทรายคันกั้นน้ำ บิ๊กแบ็ก แต่บางพื้นที่น้ำท่วมสูงจนได้รับความเดือดร้อนแสนสาหัส ศูนย์ สนับสนุนการอำนวยการและการบริหารสถานการณ์ อุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม (ศอส.) รายงานสถานการณ์ รายงานยอดตายน้ำท่วมยังพุ่ง 754 ศพ(20ธันวาคม)

และที่ทำเอาหวาดผวา ท่ามกลางกระแสน้ำนอกจากสัตว์เลื้อยคลานอย่างจรเข้ และงูมีพิษตัวอื่นๆแล้ว ยังมีข่าวลือออกมาว่า งูกรีนแมมบ้า (Green mamba) งูพิษนำเข้าจากแอฟริกา สีเขียวพิษแรงมาก ให้ชาวปากเกร็ด ให้ระวังงูชนิดนี้ ซึ่งภายหลังบ้างก็ว่าเป็นแค่เพียงข่าวลือ แต่อย่างไรก็ตาม สธ.ได้สั่งนำเข้าเซรุ่มแก้พิษงูดังกล่าวอย่างเร่งด่วน

ขณะ เดียวกัน ท่ามกลางกระแสน้ำ ธารน้ำใจไทยก็ไม่ทอดทิ้งกัน ยังคงให้ความช่วยเหลือในทุกๆด้าน ทั้งการบริจาคเงินช่วยเหลือผ่านหน่วยงานต่างๆ

ทุก องค์กรภาคส่วนระดมสิ่งของ ถุงยังชีพ ลงทุน ลงแรงเพื่อยกกระสอบทราย ช่วยกันสร้างคันกั้นน้ำ พร้อมทั้งให้กำลังใจกับผู้ประสบภัยให้ผ่านพ้นวิกฤตเหล่านี้ไปด้วยกัน

ภาพความมีน้ำใจของชาวไทย ที่สื่อต่างๆได้นำเสนอ ก็ทำให้คนไทยถูกยกให้ติดอันดับ 1ใน10 ประเทศใจบุญที่สุดในโลกแห่งปี 2011(World Giving Index 2011) ซึ่งสำรวจโดยมูลนิธิช่วยเหลือการกุศลของสหรัฐอเมริกา หรือ ซีเอเอฟ (CAF)
โดย ประเทศไทยติดอันดับที่ 9 เป็นอันดับที่ 2 ของทวีปเอเชียเป็นรองจาก ศรีลังกา ไม่เพียงแต่ธารน้ำใจที่หลั่งใหลช่วยผู้ประสบภัยน้ำท่วม แต่ทว่า น้ำใจคนไทยยังส่งไปถึงประเทศเพื่อนบ้านอีกด้วย




__________________
สงสัยเรื่องการใช้ยาแวะเข้ามาถามได้จ๊ะ ที่นี่ (อย่ายากมากนะค่ะ)

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย JigSaW : 27-12-2011 เมื่อ 09:10
JigSaW is offline   ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
เก่า 27-12-2011   #2
Member
 
sqallcung's Avatar
 
วันที่สมัคร: Aug 2011
ข้อความ: 88
ถ่ายทอดพลัง: 24
คะแนนหรอย: 24
Default

งูแมมบ้า... ผมอ่านว่า"งูแม่มบ้า"เลยคิดว่างูมันบ้าได้ด้วยเรอะ

sqallcung is offline   ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
ตอบ

Tags
10, 2011, ข่าวกระแสแรงประจำปี, ค่ะลองชมกันดู

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is ใช้ได้
Trackbacks are ใช้ได้
Pingbacks are ใช้ได้
Refbacks are ใช้ได้


กระทู้ที่คล้ายกัน
ชื่อกระทู้ ผู้ตั้งกระทู้ ห้อง คำตอบ ข้อความล่าสุด
สถิติผู้ใช้อินเตอร์เน็ตในประเทศไทยประจำปี 2011 คะ NuRay หรอยกูคาเฟ่ 0 13-11-2012 14:58
100 อันดับสาวหน้าสวยของโลกปี 2011 เชิญชมความงาม ohmohm รูปสาวน่ารัก 3 31-01-2012 20:09
อันดับต่างๆในปี 2011 ในเว็บการ์ตูนหรอยกู ohmohm หรอยกูคาเฟ่ 3 05-01-2012 17:42
รวมผลงาน ปี 2011 devilmouy รูปการ์ตูน devilmouy 6 01-01-2012 11:43
เกมส์ฟุตบอล 2011 เกมส์ฟุตบอลออนไลน์ที่เด็กไทยรอคอย ohmohm เกมส์ออนไลน์ 0 18-08-2011 15:40


ออกจากระบบ | RoiGOo เว็บการ์ตูนหรอยกู | เอกสาร | ไปบนสุด

vBulletin รุ่น 3.8.7
สงวนลิขสิทธิ์ ©2000-2024, บริษัท Jelsoft Enterprises จำกัด