ชื่อกระทู้
:
รูปภาพดาวหางไอซอน เป็นอย่างไร โคจรไปที่ไหน ใกล้โลกแค่ไหน
ดูแบบคำตอบเดียว
26-11-2013
#
1
Knooch C
Senior Member
วันที่สมัคร: Aug 2012
ข้อความ: 120
ถ่ายทอดพลัง: 77
คะแนนหรอย: 57
รูปภาพดาวหางไอซอน เป็นอย่างไร โคจรไปที่ไหน ใกล้โลกแค่ไหน
permalink
รูปภาพดาวหางไอซอน เป็นอย่างไร โคจรไปที่ไหน ใกล้โลกแค่ไหน
ภาพดาวหางไอซอนเมื่อวันที่ 6 พ.ย.56 โดย สดร.
สดร.ชวนชม ?ดาวหางไอซอน? ทิ้งทวนก่อนเข้าใกล้ดวงอาทิตย์ที่สุด 28 พ.ย.นี้ พร้อมลุ้นดาวหางจะสว่างจ้าหรือแตกสลาย ระบุหากพ่นฝุ่นหลังโคจรออกมาจากดวงอาทิตย์จะสว่างมากที่สุดในศตวรรษ พร้อมยังมีดาวหางอีก 3 ดวงที่สว่างขึ้นมาไล่เลี่ยกันระหว่างนี้ให้ชม
รศ.บุญรักษา สุนทรธรรม ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ สดร. กล่าวถึงดาวหางไอซอน (C/2012 S1 ISON) ระหว่างการแถลงข่าวชวนชมดาวหางดังกล่าว เมื่อวันที่ 21 พ.ย. 56 ณ กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ว่าดาวหางไอซอนถูกค้นพบตั้งแต่เดือน ก.ย.55 โดย ไวลาลี เนปสกี นักดาราศาสตร์ชาวเบลารุส และ อาร์เตียม โนวิคโคนอค นักดาราศาสตร์ชาวรัสเซีย ในโครงการไอซอน (ISON: International Scientific Network)
จากการติดตามวงโคจรและศึกษาขนาด รศ.บุญรักษากล่าวว่า ทำให้รู้ว่าดาวหางดังกล่าวเป็นดาวหางเฉียดดวงอาทิตย์ (Sungrazing Comet) ซึ่งกำเนิดของไอซอนมาจากขอบระบบสุริยะที่เรียกว่า ?เมฆออร์ต? (Oort cloud) พร้อมทั้งอธิบายแก่ทีมข่าววิทยาศาสตร์ ASTV-ผู้จัดการออนไลน์ว่า อาจมีแรงภายนอกระบบสุริยะที่ผลักให้ดาวหางโคจรเข้ามาในระบบสุริยะ และเป็นวงโคจรแบบไฮเปอร์โบลาทำให้เมื่อดาวหางดวงนี้เข้ามาในระบบสุริยะเพียง ครั้งเดียว และจะไม่กลับเข้ามาอีก
ทางด้าน ดร.ศรัณย์ โปษยะจินดา รองผู้อำนวยการ สดร.ให้ข้อมูลเพิ่มเติมระหว่างการแถลงข่าวว่า ดาวหางมีส่วนที่เป็นน้ำแข็งที่เรียกว่า ?นิวเคลียส? ซึ่งเมื่อตอนดาวหางยังอยู่ที่ระยะห่างในวงโคจรของดาวเนปจูน นักดาราศาสตร์ยังไม่ทราบว่าดาวหางมีขนาดนิวเคลียสเท่าไร แต่มีความสว่างมากแม้อยู่ไกลขนาดนั้น จากนั้นองค์การบริหารการบินอวกาศสหรัฐ (นาซา) ได้ใช้กล้องโทรทรรศน์ถ่ายภาพและวัดขนาดของนิวเคลียส คาดว่าไอซอนมีนิวเคลียสไม่เกิน 2 กิโลเมตร
?เราไม่สามารถมองเห็นนิวเคลียสดาวหางได้จากบนโลก และเห็นได้ยากมาก ต้องใช้ยานอวกาศโคจรเข้าไปใกล้ เช่น เมื่อปี 2529 ก็มีการส่งยานอวกาศเข้าไปใกล้ดาวหางฮัลเลย์และวัดเส้นผ่านศูนย์กลางของ นิวเคลียสได้ว่ามีขนาดมากกว่า 10 กิโลเมตร และดาวหางเฮล-พอพพ์ที่สว่างมากๆ ทางซีกโลกเหนือก็วัดขนาดนิวเคลียสได้มากกว่า 40 กิโลเมตร? ดร.ศรัณย์กล่าว
สำหรับดาวหางไอซอนนั้นจะเข้าใกล้ดวงอาทิตย์ที่สุดในระยะที่เรียกว่า ?เพอร์ริฮิเลียน? (Perihelion) ในวันที่ 28 พ.ย.56 ที่ระยะห่าง 1.2 ล้านกิโลเมตร ซึ่ง ดร.ศรัณย์อธิบายว่า ในความรู้สึกของคนทั่วไปอาจคิดว่าเป็นระยะที่ห่างมาก แต่เมื่อเทียบกับดวงอาทิตย์ที่มีเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 1.2 ล้านกิโลเมตรแล้ว หากไปยืนอยู่บนดาวหางไอซอนในช่วงเวลาดังกล่าวจะเห็นดวงอาทิตย์ใหญ่เต็มท้อง ฟ้า อุณหภูมิที่ผิวไอซอนจะเพิ่มขึ้นเป็น 2,700 องศาเซลเซียส ทำให้ดาวหางมีอัตราการปลดปล่อยก๊าซและฝุ่นละอองมหาศาล
ดร.ศรัณย์กล่าวว่ามีการคาดการณ์สิ่งที่จะเกิดขึ้นกับดาวหางเมื่อเข้า ใกล้ดวงอาทิตย์หลายแบบ โดยดาวหางนั้นเป็นก้อนน้ำแข็งที่เกาะกันหลวมๆ ที่ทำให้ดาวหางแตกออกได้ทุกเมื่อ หรืออาจมีลำพุ่งจากภายในดาวหาง หรือแรงไทดัล (tidal force) แรงที่ทำให้เกิดทำขึ้นน้ำลงทำให้ดาวหางแตกเป็นผงเช่นเดียวกับกรณีที่เกิด ขึ้นกับดาวหางเอลินิน (Elenin) เมื่อปี 2555 จะทำให้ไม่เห็นดาวหางในช่วงขาออกจากดวงอาทิตย์ หรือหากมีการพ่นฝุ่นก่อนเข้าใกล้ดวงอาทิตย์จะทำให้เกิดปฏิริยากับรังสี ของดวงอาทิตย์จนเกิดการสว่างจ้ามากๆ เช่นเดียวกับที่เคยเกิดขึ้นกับดาวหางเลิฟจอย 2011 (C/2011 W3 Lovejoy) หรือหากไม่เกิดอะไรขึ้นจะเห็นดาวหางเป็นก้อนออกมาจากดวงอาทิตย์ให้ติดตามต่อ ไปอีกหลายเดือนหลังจากนั้น
ส่วน รศ.บุญรักษาบอกด้วยว่าช่วงที่เหมาะแก่การสังเกตดาวหางไอซอนมากที่สุดคือช่วง ที่ดาวหางกำลังเข้าใกล้ดวงอาทิตย์ระหว่าง15-25 พ.ย.นี้ เพราะยิ่งใกล้จะยิ่งได้รังสีจากดวงอาทิตย์ ทำให้หางของดาวหางที่เป็นของแข็งระเหิดเป็นหางยาวขึ้นและสว่างมากขึ้น แต่เมื่อดาวหางเข้าใกล้ดวงอาทิตย์แล้วจะไม่ได้สามารถสังเกตเห็นได้เนื่องจาก ถูกแสงสว่างจ้าของดวงอาทิตย์บดบัง ซึ่งดาวหางไอซอนนั้นมีความคล้ายคลึงกับดาวหางอิเคยะ-เซกิ (C11965 S1 Ikeya-Seki) ที่เป็นดาวหางเฉียดดวงอาทิตย์เหมือนกัน แต่มีขนาดใหญ่กว่า เฉียดใกล้ดวงอาทิตย์มากกว่าแต่ไม่พุ่งชนดวงอาทิตย์ และเคยถูกบันทึกไว้ว่าสว่างที่สุดในศตวรรษนี้ จึงคาดว่าไอซอนน่าจะรอดออกมาและจะมีความสว่างมากที่สุดในรอบร้อยปี
อย่างไรก็ดี ดร.ศรัณย์กล่าวว่า การสังเกตดาวหางไอซอนในช่วงเข้าใกล้ดวงอาทิตย์นี้จะสังเกตได้ยากขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากดาวหางจะอยู่ต่ำใกล้ขอบฟ้ามากขึ้นเรื่อยๆ โดยก่อนวันที่ 28 พ.ย.ระหว่าง 05.00-05.40 น. ดาวหางจะอยู่สูงจากขอบฟ้า 10 องศา หลังจากนั้นจะมีแสงสนธยาขึ้นมา ดังนั้น แม้ดาวหางจะสว่างจนมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า แต่ก็จะถูกความสว่างของแสนสนธยาบดบัง โดยการสังเกตนั้นให้หันไปทางทิศตะวันออกแล้วสังเกตดาวพุธที่เป็นดาวสว่างที่ สุดบริเวณนั้น แล้วจะเห็นดาวหางไอซอนเป็นฝ้าๆ อยู่ทางขวาด้านล่างของดาวพุธ
พร้อมกันนี้ รองผู้อำนวยการ สดร.กล่าวว่า ปัจจุบันมีหุ่นยนต์ที่ค้นพบดาวหางเยอะขึ้น โดยปีหนึ่งค้นพบดาวหางได้นับ 100 ดวง แต่ที่มีสว่างไล่เลี่ยกับดาวหางไอซอนช่วงนี้ 3-4 ดวง ได้แก่ ดาวหางเลิฟจอย (C/2013 R1 Lovejoy) ที่ตั้งชื่อตามผู้ค้นพบ ดาวหางลิเนีย (LINEAR X1) ที่ค้นพบโดยหุ่นยนต์ค้นหาดาว และดาวหางเองเค (2P Enke) ที่เป็นดาวหางคาบสั้นมีรอบโคจรสามปีครึ่ง ซึ่งดาวหางที่โคจรเข้ามาประจำนี้จะทำให้ดาวหางหดสั้นเรื่อยๆ เหลือแต่หัวดาวหาง
ลักษณะทางกายภาพของดาวหาง
ขนาดของดาวหางทั้ง 4 ดวงที่จะเห็นได้ไล่เลี่ยกันในช่วงนี้
ลักษณะวงโคจรของดาวหางเป็นรูปโพลาโบลาและตำแหน่งของดาวหางเมื่อวันที่ 1 พ.ย.56 ซึ่งอยู่ในตำแหน่งวงโคจรของโลก
ตำแหน่งของดาวหาวไอซอนบนท้องฟ้าระหว่างวันที่ 20-28 พ.ย.
รศ.บุญรักษา (ที่ 2 ซ้าย) พร้อมด้วย ดร.ศรัณย์ (ขวา) และ นาย นิรุตติ คุณวัฒน์ ที่ปรึกษากระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีระหว่างการแถลงข่าวเรื่องดาวหางไอ ซอน
__________________
อ่านข่าวย้อนหลังที่นี่จ้า....
Knooch C
ดูรายละเอียดของ
ส่งข้อความส่วนตัวถึงคุณ Knooch C
ค้นหาโพสเพิ่มเติมของ Knooch C
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
32
33
34
35
36
37
38
39
40
41
42
43
44
45
46
47
48
49
50
51
52
53
54
55
56
57
58
59
60
61
62
63
64
65
66
67
68
69
70
71
72
73
74
75
76
77
78
79
80
81
82
83
84
85
86
87
88
89
90
91
92
93
94
95
96
97
98
99
100
101
102