จะเอาจริงจังหรือถามเล่นๆ หล่ะครับ เพราะถ้าว่ากันเป็นจริงเป็นจังต้องรื้อ และเจาะกันไปถึงระบบกลยุทธกันเลยทีเดียว เพราะทั้ง 2 ต่างก็คือ Hypermarket อันดับต้นๆ กันทั้งคู่ (ซึ่งอันที่จริง มันก็มีอีกอันหนึ่งคือ คาร์ฟูล แต่บังเอิญว่า คาร์ฟูล ในไทยได้ถูกควบกิจการจาก Big C ไปเรียบร้อยแล้ว เมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553 ...
โลตัส และ บิ๊ก C ต่างกันนิดหน่อยตรงกลยุทธให้ความรู้สึกกับลูกค้า กล่าวคือ
โลตัส
จะเน้นกระจายสาขาให้มากๆ เพื่อให้เข้าถึงผู้บริโภคได้มากที่สุดมีการจัดการขายทั้ง Stand alone ของ Lotus จะเห็นได้ว่าเดี๊ยวนี้มี Lotus Express ที่เป็นรูปแบบรวม ร้านค้าปลีก และ super market ไว้ด้วยกัน ทำให้ขยายสาขาได้ง่ายกว่า Discount store หรือ Hypermarket
Big C
จะเน้นขยายสาขาให้เข้าถึงง่ายทั้งแบบ Stand alone และแบบทั้งไปเปิดร้านย่อยในห้างสรรพสินค้า ซึ่งจะทำให้เกิดการเข้าถึงจากผู้ที่ไปใช้บริการห้างให้สามารถไปจับจ่ายใช้สอยได้ พยายามให้ความรู้สึกเป็นกันเองกับลูกค้า ดึงลูกค้าทั้งระดับกลางและล่าง ให้มาซื้อของได้เป็นแบบทั้งครอบครัว บางแห่งมีทั้งโรงหนัง และเปิดพื้นที่ให้เช่าขายของสร้างรายได้อีกทาง
และเนื่องจากในไทยได้รวบเอาคาร์ฟูลเข้าไปกลยุทธจึงได้ผสานของคาร์ฟูลไปด้วย นั่นคือการรับประกันสินค้า ไม่ว่าจะเป็นทั้งราคา และคุณภาพสิค้า
..................................
จริงๆ มันจะลงลึกกว่านี้ก็ได้ คือว่าไปถึงโปรโมชั่น และกลยุทธที่นำมาฟาดฟันกัน คล้ายๆ โค้ก กับ เปปซี่เลยหล่ะครับ แต่ผมกลัวว่ามันจะมากเกินไป และถ้าพูดมากไปกว่านี้ความผิดพลาดก็เริ่มจะมากขึ้นไปเรื่อยๆ เพราะผมเข้ามาตอบโดยอาศัยความจำที่เคยได้อ่านบทความมาบ้าง และจากการวิเคราะห์เองนิดหน่อย(ไม่สามารถวิเคราะห์เองได้หมดเนื่องจากความรู้น้อยนิด)
**** มีแถมนิดนึงครับเรื่องกลยุทธที่ฟาดฟันกัน เมื่อไม่นานมานี้ เกี่ยวกับเรื่องคูปองส่วนลด ลองไปอ่านตามลิ้งค์นี้ดู ผู้เขียนเขียนได้น่าสนใจ อ่านง่าย ไม่ยาว และสนุกมาก ได้แง่คิดเกี่ยวกับการตลาดอยู่บ้าง
สงครามแย่งชิงลูกค้าคาร์ฟูร์ ระหว่าง บิ๊กซี vs เทสโก้
ป.ล. สมัครมาวันนี้เพื่อตอคำถาม ปกติแอบเข้ามาอ่านอย่างเดียว ยังไงก็ฝากตัวด้วยนะครับ