ดูแบบคำตอบเดียว
เก่า 04-03-2012   #1
JigSaW
Senior Member
 
JigSaW's Avatar
 
วันที่สมัคร: Aug 2011
ข้อความ: 340
บล็อก: 18
ถ่ายทอดพลัง: 317
คะแนนหรอย: 255
Default ความรู้เกี่ยวกับวิธีทําให้ผิวขาวโดยกลูต้าไธโอน

สมัยนี้มีวิธีทำให้ผิวขาวมาใหม่เลยค่ะส่วส่วหลายคนชอบเหลือเกินกับการฉีดกลูต้าไธโอน ไม่น่าเชื่อว่าเพื่อนๆหลายคนที่เราเห็นนั้นเคยฉีดกันมาแล้วทั้งนั้นค่ะ วิธีทำให้ผิวขาวแบบนี้มันจะดีอย่างนั้นจริงหรือ วันนี้มีนายแพทย์มาให้ความรู้เรื่องกลูต้าไธโอนค่ะว่ามีข้อห้ามหรืออะไรอย่างไรบ้าง คนที่ป่วยอะไรที่ห้ามฉีดกลูต้าไธโอน ลองอ่านดูค่ะบทความข่าวนี้เขียนได้ดีเลยทีเดียว




ผู้อำนวยการศูนย์ผิวหนังมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ระบุสาร กลูต้าไทโอน ไม่ใช่สารพิษที่ประชาชนหลายคนเข้าใจตามกระแสข่าวที่เกิดขึ้นในระยะนี้ ทั้งยังเป็นสารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย ทำให้ร่างกายเกิดความสมดุล และยังเป็นตัวขจัดของเสียหรือสารพิษที่เข้าสู่ร่างกาย ฝากถึงนักวิจัยที่ทำงานด้านยาหรือการรักษา หากต้องการใช้ยาประเภท กลูต้าไทโอน ควรจะทำการวิจัยให้จริงจัง

ศ.นพ.ปิติ พลังวชิรา ผู้อำนวยการศูนย์ผิวหนังมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ (มศว) กล่าวถึงสารกลูตาไทโอน (glutathione) ว่า คนไทยจำนวนไม่น้อยที่รู้สึกไม่ดีกับสารตัวนี้ คนจำนวนมากเข้าใจพิษคิดว่าสารตัวนี้เป็นสารพิษ ซึ่งในความเป็นจริงสาร กลูตาไทโอน เป็นสารแอนติออกซิเดนซ์ หรือสารที่ต้านอนุมูลอิสระ ร่างกายมนุษย์จะได้รับสารชนิดนี้จากการบริโภคอาหารประเภทโปรตีน ไข่และนม รวมถึงผลไม้ประเภท อะโวคาโด และจะถูกเก็บไว้ที่ตับ ทั้งนี้ สาร กลูตาไทโอน นี้ เป็นสารที่มีประโยชน์ต่อร่างกายทำให้ร่างกายเกิดความสมดุล โดยเฉพาะเมื่อร่างกายต้องรับสารอนุมูลอิสระเข้าไป สารต้านอนุมูลอิสระก็จะช่วยปรับให้สภาพร่างกายเกิดความสมดุล และยังเป็นตัวขจัดข้อเสีย หรือสารพิษที่เข้าสู่ร่างกาย ตั้งแต่สารปรอท ยาฆ่าแมลง หรือยาบางชนิดที่เราต้องกินเข้าไป และเหลือตกค้าง ตับจะทำหน้าที่ขับสารพิษออกมาโดยสารกลูต้าไทโอนมีบทบาทสำคัญ

ดังนั้น จึงอยากทำความเข้าใจว่า ยาที่มีส่วนส่วนประกอบของ กลูตาไทโอน ไม่ได้น่ากลัว ยาที่อยู่ในกลุ่มของยากินนั้นในต่างประเทศมีขายอยู่ตามร้านขายยาทั่วๆ ไป ในเมืองไทยสาร กลูตาไทโอน อยู่ในผลิตภัณฑ์เสริมสุขภาพ แต่ยาที่อยู่ในรูปของการฉีด เพื่อรักษาฝ้านั้นในเมืองไทยยังไม่มีการวิจัย จึงอยากฝากถึงนักวิจัยที่ทำงานด้านยาหรือการรักษา หากต้องการใช้ยาประเภท กลูต้าไทโอน ควรจะได้ทำการวิจัยให้จริงจัง

?ระดับ กลูตาไทโอน ของคนที่ป่วยด้วยโรคบางชนิด เช่น โรคทางสมอง อย่างพากินซัน โรคหัวใจบางชนิดหรือบางคนกินยาแก้ปวดอย่างพาราเซตามอลบ่อยๆ ความเครียด หรือคนที่ได้รับสารพิษบ่อยๆ ระดับ กลูต้าไทโอน จะลดลง การกินยาที่มีสารประเภท กลูต้าไทโอน จะถูกซึมเข้าสู่ร่างกายได้น้อยกว่าการฉีด ซึ่งทำให้ผู้ที่ใช้ยาประเภทนี้นิยมฉีด และที่สำคัญ ต้องฉีดเข้าเส้นเลือด ซึ่งต้องอยู่ในความดูแลของแพทย์ที่มีความรู้ความชำนาญ นอกจาก ฉีด เข้าเส้นแล้วยังสามารถฉีดเข้ากล้ามเนื้อ หรือใช้สูดดมได้อีกด้วยขึ้นอยู่กับโรคในแต่ละโรคว่าเหมาะกับการใช้ยาชนิดนี้ด้วยวิธีการไหน



อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยา กลูตาไทโอน ที่ใช้ในการรักษาฝ้านั้น ยังถือว่าผิดกฎหมาย เพราะการนำเข้ายาประเภทนี้เข้ามายังไม่ได้ขึ้นทะเบียน อย. และหากจะใช้ยาชนิดนี้เพื่อรักษาฝ้าควรจะนำเข้ามาให้ถูกกฎหมายและขึ้นทะเบียนยาให้ถูกต้องด้วย ถ้าต้องนำมาใช้ในการรักษาฝ้าควรจะมีการค้นคว้าวิจัย ซึ่งคนที่เป็นฝ้าจำนวนมากพอใจกับการรักษาด้วยยา กลูต้าไทโอน เนื่องจากกลูต้าไทโอนจะไปเปลี่ยนยูเมลานินซึ่งเป็นสีผิวที่คล้ำ ให้กลายเป็นฟีโอเมลานิน ซึ่งจะทำให้สีผิวจางหรือขาวขึ้น




รูปขนาดเล็ก
วิธีทําให้ผิวขาวโดยกลูต้าไธโอน1.jpg   วิธีทําให้ผิวขาวโดยกลูต้าไธโอน2.jpg  
__________________
สงสัยเรื่องการใช้ยาแวะเข้ามาถามได้จ๊ะ ที่นี่ (อย่ายากมากนะค่ะ)
JigSaW is offline   ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
 

1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 21 22 23 24 25 26 27 28 29 30 31 32 33 34 35 36 37 38 39 40 41 42 43 44 45 46 47 48 49 50 51 52 53 54 55 56 57 58 59 60 61 62 63 64 65 66 67 68 69 70 71 72 73 74 75 76 77 78 79 80 81 82 83 84 85 86 87 88 89 90 91 92 93 94 95 96 97 98 99 100 101 102