|
อ่าน: 4003 - คำตอบ: 13
| LinkBack | คำสั่งเพิ่มเติม | เรียบเรียงคำตอบ |
21-10-2011 | #1 | ||
Administrator |
กว่าจะมาเป็นการ์ตูนได้นั้นต้องใช้มันสมองในการคิดเรื่องแต่งเรื่องเป็นอย่างมากกว่าจะได้ลงมือวาดการ์ตูน เพราะอย่างที่น้องๆเห็นกันครับการ์ตูนหลายๆเรื่องที่เอามาให้เราชมนั้นไม่ได้วาดสวยกว่าเรื่องที่ไม่ได้โด่งดังเลย แล้วอะไรกันล่ะครับเป็นสิ่งที่คนอ่านคนชมต้องการกันภาพสวยๆหรือว่าเนื้อเรื่องสนุกๆ ก็ต้องตอบว่าคนอ่านต้องการเนื้อเรื่องการ์ตูนสนุกๆก่อนเป็นอันดับแรก แต่ภาพในการ์ตูนก็สำคัญไม่ได้ต่างจากเนื้อเรื่องเลยเพราะฉะนั้นเรามาสนใจเรื่องเนื้อเรื่องในการ์ตูนของเรากันดีกว่าค๊าบ การ์ตูนดราก้อน การ์ตูนอีกหนึ่งเรื่องที่เนื้อเรื่องโดนใจประชาทุกวัยในยุคของกระผม 1 เนื้อเรื่อง 2 สตอรี่บอร์ด ทั้งนี้จะไม่กล่าวถึงเทคนิคทางภาพเลยเพราะจะยกเป็นอีกหัวข้อใหญ่ที่จะหาโอกาสมาแนะนำกันอีกที เอาล่ะทีนี้เรามาลองดูกันว่าทำยังไงถึงจะควบคุมปัจจัยข้างต้นนั้นได้ เริ่มจากเมื่อเราอยากเขียนการ์ตูนสักเรื่อง ที่มาของแรงบันดาลใจของเราคืออะไรสิ่งนี้จะส่งผลอย่างมากต่อผลงานของเรา แรงบันดาลใจนั้นอาจจะมาจากความประทับใจในผลงานของอาจารย์นักเขียนท่านใดท่านหนึ่งสำหรับผู้ที่เริ่มวาดการ์ตูนใหม่ๆ หรือจะเป็นเรื่องราวของสื่ออื่นๆเช่น ภาพยนตร์ ทีวีซีรี่ หนังสือ เรื่องสั้น นิยาย ข่าว ซึ่งก็เป็นไปได้ทั้งนั้น สำหรับระยะแรกของการอยากเขียนการ์ตูนก็น่าจะมาจากความประทับใจในผลงานนักเขียนซะเป็นส่วนใหญ่ ดังนั้นช่วงนี้เราจึงยังตกอยู่ภายใต้อิทธิพลและลายเส้นของอาจารย์คนนั้น พอจะเขียนจะวาดอะไรก็จะออกมาเป็นแบบลายเส้นของอาจารย์ท่านนั้นไปโม้ดซึ่งอันนี้ไม่ผิด ส่วนบางคนที่คิดว่าตัวเองไม่ได้ลอกใครเขาก็ลอกธรรมชาติรอบตัวเขานั่นแหละโดยเฉพาะพวกที่เรียนศิลปะมา ส่วนเนื้อเรื่องก็เหมือนกันแทบอยากจะลอกของท่านมาเลยเทียว เราจึงเห็นงานโดจินออกมาเยอะแยะเพราะในใจคนวาดก็คิดว่าตนไม่น่าจะคิดอะไรได้เจ๋งกว่าอาจารย์คนนี้อีกแล้ว ตรงนี้ก็ไม่ผิดครับเพราะจะฝืนแต่งเองยังไงในระยะนี้มันก็ตื้อๆครับถึงทำออกมาได้ก็ยังมีอิทธิพลของเรื่องที่เราชอบติดมาด้วยจนขาดเอกลักษณ์เฉพาะตัวไป อาการแบบนี้จะเป็นช่วงวัยรุ่นเดี๋ยวพอเริ่มอิ่มตัวก็จะบรรเทาลงเองขึ้นอยู่กับว่าจะอิ่มตอนอายุเท่าไหร่ จากอาการดังกล่าวจะเกิดปัญหาเวลาไปพรีเซ้นงานกับทางสำนักพิมพ์ก็จะโดน บก.โหดๆติได้ว่าเรื่องมีช่องโหว่มาก เพราะเราไม่ได้วาดรูปตามเรื่องแต่แต่งเรื่องเพื่อจะได้วาดไอ้ที่อยากจะวาด เช่น เราชอบพวกตัวละครชายหน้าหวานแต่งองค์ทรงเครื่องหรูๆโก้ๆ เราก็พยายามแต่งเรื่องที่มันมีโอกาสได้วาดตัวละครพวกนี้ แต่ละเลยสิ่งที่สำคัญไปว่าคอมมิคเป็นการเล่าเรื่องด้วยภาพนะ ไม่ใช่หาเรื่องมาวาดภาพ พอไม่คิดถึงการแต่งเรื่อง บก.จึงตำหนิเราได้เพราะเราไม่ให้น้ำหนักงานด้านนี้วิธีแก้ไขก็คือไปหัดแต่งเรื่องซะสิ การแต่งเรื่องสำหรับเขียนการ์ตูนนั้นก็ขึ้นอยู่กับความชอบของคนเขียนล่ะว่าชอบแนวไหน แต่จะขอแนะนำให้ลองถามตัวเองว่าตัวรู้ดีในเรื่องที่เราจะแต่งแค่ไหน ถ้าอยากเขียนแนวแฟนตาซีมีปีกแต่งตัวกรุยกรายก็จงถามตัวเองว่า มีความรู้เรื่องเทววิทยาระดับไหนที่จะเขียนถึงเทพองค์นั้นองค์นี้ เพราะถ้าไม่รู้แล้วทึกทักแต่งเองเลยมันก็จะไม่มีที่มาที่ไปทำให้เรื่องขาดแก่นสารเว้นแต่คุณมีจุดขายอื่น เช่น เป็นแนวตลก อ้างั้นมาลองสมมุติดูกันว่าจะเริ่มยังไง 1 อันดับแรกถามตัวเองเลยว่าจะเขียนแนวไหน ตอบ รักโรแมนติคผสมตลก 2 จะเขียนให้ใครอ่าน ตอบ วัยรุ่นมัธยมจนถึงมหาลัย ทั้งสองเพศอ่านได้ (กำหนดให้ชัดเจน) 3 ความยาว ตอบ 32 หน้า(เรื่องสั้นจบในตอน) 4 บรรยากาศของเรื่อง ตอบ ยุคปัจจุบัน เมืองท่องเที่ยวเล็กๆริมแม่น้ำ 5 มีตัวละครหลักกี่ตัว ตอบ สามตัว (เรื่องสั้นห้ามตัวละครเยอะ) จริงๆคำถามนำอาจจะมากกว่านี้ขึ้นอยู่กับจุดประสงค์ของการเขียน เอ้าที่นี้มาดูกันว่าคำถามแต่ละข้อมีนัยยังไง ข้อ 1 คือจะเขียนการ์ตูนแนวเลิฟคอมเมดี้ การผูกปมของแนวเรื่องแบบนี้คือ พระเอกกับนางเอกจะรักกันได้อย่างไรหรือจะสมหวังกันยังไง เนี่ยที่คนอ่านลุ้น ข้อ 2 จะเขียนให้ใครอ่าน การกำหนดกลุ่มเป้าหมายที่ชัดเจนจะช่วยให้เรามองเห็นภาพงานได้ชัดว่าจะต้องวาดออกมาสไตล์ไหน ออกแบบตัวละครยังไง ถ้าเรื่องนี้เขียนให้คนวัยทำงานอ่านก็อาจจะมีการปรับเรื่องอายุของตัวละครให้สอดคล้องกับกลุ่มเป้าหมายด้วย ข้อ 3 ความยาว ความยาวของจำนวนหน้าจะช่วยให้เรากำหนดการเล่าเรื่องได้ในช่วงทำสตอรี่บอร์ด ใครไม่เคยทำสตอรี่บอร์ดก็หัดๆไว้นะเพราะเป็นขั้นตอนสำคัญมาก ในช่วงแรกของการหัดเขียนการ์ตูนควรเริ่มจากเรื่องสั้นก่อน เพื่อเป็นการหัดเล่าเรื่อง ข้อ 4 บรรยากาศของเรื่อง กำหนดไปเลยว่าเป็นยุคสมัยไหน สถานที่ใด เราจะได้เอาสิ่งแวดล้อมในสถานที่และบรรยากาศนั้นมาผสมในการแต่งเรื่อง อย่างเมืองท่องเที่ยวริมแม่น้ำก็ต้องมี นักท่องเที่ยว ร้านค้าของที่ระลึก โรงแรม ล้วนแต่เป็นสิ่งที่เราสามารถหยิบเอาใช้ในเรื่องได้และยังช่วยให้เราหาข้อมูลได้ง่ายขึ้นเพราะรู้ว่าต้องการหาอะไร ข้อ 5 มีตัวละครกี่ตัว สำหรับเรื่องสั้นไม่ควรมีมากกว่าสามตัว ไม่งั้นจะเสียหน้ากระดาษไปกับการเปิดตัว ตัวละครมากแล้วยังจะดึงความเด่นกันเองจนทำเรื่องไม่สนุก เอาไว้มาต่อเรื่องเทคนิคการเล่าเรื่องกัน ขอขอบคุณ jimmoo.exteen.com/20070514/comic
__________________ ผมรักเว็บการ์ตูนหรอยกูที่สุดในโลก | ||
22-10-2011 | #4 | ||
Senior Member วันที่สมัคร: Aug 2011
ข้อความ: 151
ถ่ายทอดพลัง: 0
คะแนนหรอย: 123
| การทำสตอรี่บอร์ด... 1.เราต้องกำหนดเนื้อเรื่องแน่นอนแล้ว เป็นตัวอักษร เพื่อไม่ให้เนื้อเรื่องเพี้ยนไปตามอารมณ์ ซึ่งต้องแต่งเนื้อเรื่องตั่งแต่ต้นจนจบ โดยแบ่งเป็น เริ่มต้น-ดำเนินเรื่อง-ไคลแม็ก-จุดจบ 2.จัดการแบ่งหน้าโดยการคาดคะเนว่า ซีนนี้จะใช้กี่หน้าๆ แล้วคำนวนจำนวนหน้าให้พอดีกับความต้องการของงาน การ์ตูนปกติที่ใช้ตีพิมพ์ อยู่ที่ 16 หน้า 20 หน้า 24 หน้า 32 หน้า 3.บทคำพูดต้องกำหนดไว้ตายตัวแล้ว อาจเปลี่ยนสำนวนบ้างได้ภายหลัง แต่ถ้าไม่กำหนดไว้แน่นอน เอาแค่กำหนดเหตุการไว้ สำหรับมือใหม่ พอวาดๆ จะหลงทางได้ 4.ทำการร่างสตอรี่บอร์ดจากบทที่เขียนขึ้น สตอรี่บอร์ดมีหลายระดับ ขึ้นแบบเขียนเพื่อ ดูการดำเนินเรื่อง และเขียนเผื่อใช้เป็นตัวจริงหลังตัดเส้น ซึ่งแล้วแต่คนจะถนัด 5.สตอรี่บอร์ดต้องทำครบทุกหน้า เพื่อตรวจทาน/หรือส่งไปให้สำนักพิมพ์อ่าน เมื่อผ่าน จากนั้นจึงค่อยตัดเส้น
__________________ | ||
24-10-2011 | #9 | ||
Administrator | เรื่องไม่กล้าวาดนี่ปัญหาใหญ่เลยเนอะเคอะ นายเฟรนด์ น้องๆ ส่วนใหญ่ที่ไม่ได้วาดการ์ตูนเป็นเรื่องประจำๆ แต่ละครั้งเวลาวาดจะเกิดอาการเกร็ง คิดหน้าคิดหลัง จนในท้ายที่สุดก็ไม่ได้วาดเสียที กลายเป็นเงอะๆ งะๆ สุดท้ายก็ไม่ได้ทำอะไร น่าเสียดายเวลาตรงนี้ครับ !!! | ||
25-10-2011 | #10 | |||
Senior Member วันที่สมัคร: Aug 2011
ข้อความ: 151
ถ่ายทอดพลัง: 0
คะแนนหรอย: 123
| อ้างอิง:
การจะเริ่มวาดการ์ตูนนั้น "ใจ" ต้องถึงครับ
__________________ | |||
Tags |
ก่อนวาดการ์ตูน, ก่อนวาด, การ์ตูน, การแต่งการ์ตูน, การแต่งเรื่อง, การแต่ง, แต่งเรื่อง, เทคนิคการแต่งเรื่อง, เทคนิคการวาดการ์ตูน, วาดการ์ตูน |
คำสั่งเพิ่มเติม | |
เรียบเรียงคำตอบ | |
| |