|
อ่าน: 5547 - คำตอบ: 0
| LinkBack | คำสั่งเพิ่มเติม | เรียบเรียงคำตอบ |
20-11-2011 | #1 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
Senior Member |
[FONT="]มาเจอกันอีกแล้วนะค่ะน้องๆวันนี้ต่อเรื่องจากข่าวที่แล้วที่เอาโครงงานวิทยาศาสตร์มาให้ชมคราวนี้ก็ลองชมอีกตัวอย่างมันเป็นตัวอย่างโครงงานวิทยาศาสตร์ประเภทสิ่งประดิษฐ์ สำหรับคนที่ต้องเขียนหรือมีครูอาจารย์ให้เขียนสามารถลองดูกระทู้นี้เป็นตัวอย่างได้เลยจ้า[/FONT] [FONT="]ตัวอย่างโครงงานวิทยาศาสตร์ประเภทสิ่งประดิษฐ์ที่นี่ [/FONT] [FONT="] [/FONT] [FONT="] [/FONT] [FONT="]โครงงานวิทยาศาสตร์ [/FONT] [FONT="]- คือ การที่นักเรียนมีปัญหา หรือข้อสงสัย แล้วนำปัญหานั้นไปทดลองศึกษาแก้ปัญหา โดยใช้ กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ แล้วนำผลงานมาเสนอวิเคราะห์ [/FONT] [FONT="]- เป็น การศึกษาค้นคว้าหาความรู้เรื่องใดเรื่องหนึ่งด้วยตนเองโดยใช้กระบวนการทาง วิทยาศาสตร์ แล้วรวบรวมสรุป วิเคราะห์ รายงานผลที่ได้จากการศึกษา[/FONT] [FONT="] ความสำคัญของโครงงานวิทยาศาสตร์[/FONT] [FONT="]การศึกษาค้นคว้าด้วยโครงงานวิทยาศาสตร์ ช่วยให้นักเรียนเกิด[/FONT][FONT="] การเรียนรู้ มีประสบการณ์จากการปฏิบัติจริง [/FONT][FONT="]ฝึกแก้ปัญหาด้วยกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ ซึ่งจะติดตัว[/FONT][FONT="] ผู้เรียนไปตลอด[/FONT][FONT="] เมื่อมีข้อสงสัย หรือปัญหาเกิดขึ้น จะแก้ปัญหา โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ ซึ่งเป็นที่ยอมรับกันทั่วไปว่า เป็นสิ่งที่สำคัญกว่าความรู้ที่ขาดการปฏิบัติ ทั้งนี้กระบวนการดังกล่าว จะทำให้ผู้เรียนเกิดความเชื่อมั่นในตนเอง และกล้าแสดงออก [/FONT] [FONT="]โครงงานวิทยาศาสตร์ ทำได้หลายรูปแบบ จ๊ะ[/FONT] [FONT="] โครงงานวิทยาศาสตร์ประเภททดลอง โครงงานวิทยาศาสตร์ประเภทสำรวจ [/FONT] [FONT="] โครงงานวิทยาศาสตร์ประเภทสิ่งประดิษฐ์ โครงงานวิทยาศาสตร์ประเภททฤษฎี [/FONT] [FONT="] แต่ที่นักเรียนนิยมทำกัน มี 3 ประเภท[/FONT][FONT="] คือ ทดลอง [/FONT][FONT="] สำรวจ และ สิ่งประดิษฐ์ สำหรับ ประเภท ทฤษฎี เหมาะสมสำหรับระดับมัธยมปลาย ซึ่งมีส่วนเกี่ยวข้องกับคณิตศาสตร์ชั้นสูง[/FONT] [FONT="]โครงงานวิทยาศาสตร์ประเภททดลอง[/FONT] [FONT="] มีการออกแบบการทดลองเพื่อศึกษาผลของตัวแปรต้น ที่มีผลต่อ ตัวแปรตาม โดยควบคุมตัวแปรอื่น ๆ ที่มีอิทธิพลต่อผลการทดลอง[/FONT] [FONT="] โครงงานวิทยาศาสตร์ประเภททฤษฎี[/FONT] [FONT="] เป็นโครงงานที่ผู้ทำโครงงาน ได้เสนอทฤษฎี หลักการ หรือแนวคิดใหม่ ๆ ซึ่งอาจอยู่ในรูปของสูตร สมการ หรือ คำอธิบายก็ได้[/FONT] [FONT="]โครงงานวิทยาศาสตร์ประเภทประดิษฐ์[/FONT] [FONT="] เป็น โครงงานที่เกี่ยวกับการประยุกต์ทฤษฎี หรือหลักการทางวิทยาศาสตร์มาประดิษฐ์เครื่องมือ เครื่องใช้ หรืออุปกรณ์ เพื่อประโยชน์ในการใช้สอยต่าง ๆ อาจคิดประดิษฐ์ของใหม่ ๆ หรือดัดแปลง ปรับปรุง ของเดิมที่มีอยู่แล้วให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น[/FONT] [FONT="]โครงงานวิทยาศาสตร์ประเภทสำรวจ[/FONT] [FONT="] เป็น การสำรวจรวบรวมข้อมูล แล้วนำมาจำแนกเป็นหมวดหมู่นำมาเสนอในรูปแบบต่าง ๆ เพื่อให้เห็นลักษณะ หรือรูปแบบสัมพันธ์ของเรื่องที่ศึกษาได้ชัดเจนขึ้น [/FONT]
[FONT="] คือ การสรุปคำตอบล่วงหน้า ก่อนการทดลองโดยอาศัยประสบการณ์ ที่เกิดขึ้นซ้ำ ๆ หลักการ กฎ หรือทฤษฎีที่มีอยู่แล้วในเรื่องนั้น มาช่วยในการสรุป [/FONT][FONT="] [FONT="] การพยากรณ์มีสองทาง[/FONT][/FONT][FONT="] คือ การพยากรณ์ภายในขอบเขตของข้อมูลที่มีอยู่และ การพยากรณ์นอกขอบเขตข้อมูลที่มีอยู่ [/FONT] [FONT="]ทักษะการลงความเห็นจากข้อมูล[/FONT] [FONT="]คือ การเพิ่มความคิดเห็นให้กับข้อมูลที่ได้จากากรสังเกตอย่างมีเหตุผล[/FONT][FONT="] โดยอาศัยความรู้หรือประสบการณ์เดิมมาช่วย[/FONT] [FONT="]ทักษะการวัด[/FONT] [FONT="] คือ การเลือกและการใช้เครื่องมือทำการวัดหาปริมาณของสิ่งต่าง ๆ ออกมาเป็นตัวเลขที่แน่นอนได้อย่างเหมาะสม และถูกต้อง โดยมีหน่วยกำกับเสมอ[/FONT] [FONT="]ทักษะการ[/FONT][FONT="] สังเกต คือ ความสามารถในการใช้ประสาทสัมผัส อย่างใดอย่างหนึ่ง หรือหลายอย่าง เพื่อหาข้อมูล หรือรายละเอียดของสิ่งต่าง ๆ โดยไม่เพิ่มความคิดเห็น ส่วนตัวลงไป[/FONT] [FONT="]ทักษะการหาความสัมพันธ์ระหว่างมิติกับมิติ และมิติกับเวลา[/FONT] [FONT="] วัตถุต่าง ๆ ในโลกนี้ จะทรงตัวอยู่ได้ ล้วนแต่ครองที่ที่ว่าง การครอง ที่ของวัตถุในที่ว่างนั้น โดยทั่วไปแล้วจะมี 2 มิติ ได้แก่ มิติยาว มิติกว้าง และมิติสูงหรือหนา[/FONT]
(เลือกข้อที่ถูก 1 ข้อ)[/FONT] [FONT="]-เพื่อเปรียบเทียบการตกถึงพื้นของก้อนหินก้อนใหญ่ และก้อนเล็ก [/FONT] [FONT="]จากสถานการณ์ คาดว่าจะได้ผลการทดลองอย่างไรบ้าง [/FONT] [FONT="]จากสถานการณ์ นักเรียนคิดว่าข้อความด้านล่างเป็นตัวแปรชนิดใด [/FONT][FONT="]? [/FONT][FONT="] [FONT="]ตัวแปรต้น[/FONT][FONT="]1. ก้อนหินก้อนเล็ก [/FONT] [FONT="] 2. ก้อนหินก้อนใหญ่[/FONT] [FONT="] 3. นักเรียน[/FONT] [FONT="]ตัวแปรตาม[/FONT][FONT="]4. การตกถึงพื้นของก้อนหินก้อนเล็ก[/FONT] [FONT="] 5. การตกถึงพื้นของก้อนหินก้อนใหญ่[/FONT] [FONT="]ตัวแปรควบคุม[/FONT][FONT="]6. ปล่อยก้อนหินจากความสูงเท่ากัน[/FONT] [FONT="] 7. ปล่อยก้อนหินในเวลาเดียวกัน(พร้อมกัน)[/FONT] [FONT="] 8. ก้อนหินชนิดเดียวกัน[/FONT][/FONT] [FONT="]จากสถานการณ์ นักเรียนคิดว่าจะใช้วัสดุอุปกรณ์อะไรบ้าง [/FONT][FONT="]? [/FONT][FONT="] [FONT="]1. ก้อนหินก้อนเล็ก [/FONT] [FONT="]2. ก้อนหินก้อนใหญ่[/FONT] [FONT="]3. นักเรียน[/FONT] [FONT="]6. นาฬิกาจับเวลา[/FONT][/FONT] [FONT="]จากสถานการณ์[/FONT][FONT="] จะทำการทดลองอย่างไร [/FONT][FONT="]? [/FONT][FONT="]เรียงลำดับให้ถูกต้อง[/FONT][FONT="] [/FONT][FONT="]1.[FONT="]นักเรียนคนหนึ่งยืืนกางแขน มือข้างหนึ่งถือก้อนหินก้อนใหญ่ [/FONT] [FONT="] อีกข้างหนึ่งถือก้อนหินก้อนเล็ก[/FONT][/FONT][FONT="] [FONT="]2.ปล่อยก้อนหินทั้งสองก้อน พร้อมกัน[/FONT] [FONT="] 3.สังเกตจับเวลาที่ก้อนหินทั้งสองก้อนตกถึงพื้น ( มีผู้จับเวลา 2 คน)[/FONT] [FONT="]บันทึกผล[/FONT] [/FONT] [FONT="]การทดลอง[/FONT][FONT="] (ใบความรู้) [/FONT][FONT="] เป็นการปฏิบัติจริงซึ่งจะทดลองหลาย ๆ ครั้ง อย่างน้อยต้อง 3 ครั้ง เพื่อจะได้ผลที่น่าเชื่อถือ แต่การทดลอง บางครั้งผลการทดลองอาจขัดแย้งกัน ต้องเพิ่มการทดลองให้มากขึ้นเป็น 5 ครั้ง หรือ 10 ครั้ง แล้วจึงใช้วิธีเฉลี่ยข้อมูลหรือเลือกครั้งที่เป็นไปได้มากเป็นผลการทดลอง ข้อมูลที่ได้ต้องบันทึก และนำเสนอทั้งหมด มิใช่เลือกเอาเฉพาะข้อมูลที่เป็นไปได้ตามสมมติฐานเท่านั้น [/FONT] [FONT="]การออกแบบการทดลอง[/FONT][FONT="] เป็นการบอกความสัมพันธ์ระหว่างตัวแปรทั้งหมดให้เป็นรูปธรรม ปฏิบัติได้จริงน่าเชื่อถือ จะใช้ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ใดบ้าง จะเก็บรวบรวมข้อมูลอย่างไร กลุ่มควบคุม กลุ่มทดลองเป็นอย่างไร ในบางครั้งต้องไปค้นคว้าว่ามีผู้เคยทำการทดลองมาแล้วหรือยัง ผลการทดลองเป็นอย่างไร มีความสัมพันธ์กันหรือไม่ [/FONT] [FONT="]ตัวอย่างการบันทึก[/FONT]
[FONT="]การทดลองและการบันทึกผล[/FONT] [FONT="]ให้ดำเนินการตามการทดลองที่ได้วางแผนไว้ และ บันทึกผลลงในตาราง[/FONT] [FONT="]ตารางการบันทึกผลการทดลอง[/FONT]
[FONT="]การอภิปรายผล สรุปผล และนำเสนอ[/FONT] [FONT="]นำ ข้อมูลที่ได้จากการทดลองมาประเมินผล อภิปรายโดยการศึกษาจากเอกสารหลักฐาน มาประกอบ ว่ามีข้อความแตกต่างกันเพราะอะไร จะต้องหาเหตุผลหรือข้อเสนอแนะให้ได้ การนำเสนอต้องนำเสนอข้อมูลที่มาของความรู้ใหม่ กระบวนการทำงาน โดยการเขียนรายงาน และ จัดบอร์ดแสดงโครงงานวิทยาศาสตร์ที่ได้จัดทำ[/FONT]
โครงงานวิทยาศาสตร์ เรื่อง [/FONT][FONT="]ยางกล้วยช่วยเพ้นท์ผ้า[/FONT][FONT="] เป็นโครงงานระดับมัธยมศึกษาตอนต้น จัดทำขึ้นเพื่อ เปรียบเทียบว่าผ้าชนิดใดเหมาะสมกับการเพ้นท์ผ้า[/FONT][FONT="] ศึกษาสีของผ้าหลังจากเพ้นท์ ด้วยยางกล้วย นำไปย้อม ซัก แล้วตากให้แห้ง และศึกษาความคงทนสีของผ้าหลังจากเพ้นท์ด้วยยางกล้วย โดยได้ทำการศึกษาทดลอง ตอนที่ 1 นำผ้าแมมเบอร์กผ้ามัสลิน ผ้าดิบ นำมาตัดให้มีขนาด 11 x11 นิ้ว จำนวน ชนิดละ 1 ผืน เย็บริมให้เรียบร้อย นำไปซักตากให้แห้ง รีดให้เรียบ นำผ้าแต่ละชนิดไปขึงกับเฟรมวาดรูปตามต้องการ นำช้อนตักแกง ทุบที่ปลายด้ามด้วยค้อนให้มีรูขนาดเล็ก ใช้สำหรับเขียนเทียน ต้มเทียนไขให้ละลาย นำช้อนที่เตรียมไว้ มาชุบ เทียนที่ละลายแล้วเขียนตามเส้นลวดลายที่วาดไว้ นำยางกล้วยมาระบายตามรูปภาพโดยใช้พู่กัน ตากให้แห้ง ต้มน้ำเตรียมสีย้อมผ้า นำผ้าลงย้อมใช้แท่งแก้ว-คนสาร คนไปมาเพื่อให้ผ้าที่ย้อมสัมผัสกับสีย้อมผ้าทุกส่วน ประมาณ 5 นาที ซักตากให้แห้ง สังเกตสีของผ้า บันทึกผล[/FONT] [FONT="] กิตติกรรมประกาศ[/FONT][FONT="] โครงงานวิทยาศาสตร์ เรื่อง [/FONT][FONT="]"ยางกล้วยช่วยเพ้นท์ผ้า"[/FONT][FONT="]สำเร็จด้วยความกรุณาจาก[/FONT][FONT="] อาจารย์อัจฉรา โกมลเปลิน ผู้อำนวยการโรงเรียนอนุบาลลำพูน ที่ให้ข้อคิดเห็น และสนับสนุน ด้านงบประมาณ ให้มีการศึกษาโครงงาน ขอกราบขอบพระคุณเป็นอย่างสูง ไว้ ณ ที่นี้ ขอกราบขอบพระคุณ อาจารย์เสาวลักษณ์ ณ ลำพูน, อาจารย์จตุรพร เชี่ยววานิช อาจารย์จิราภรณ์ จันทนุปาน ผู้ ช่วยผู้อำนวยการโรงเรียนอนุบาลลำพูน และอาจารย์ทวี สีวิจี๋ ที่ได้กรุณาให้ข้อคิดเห็นที่เป็นประโยชน์ในการปรับปรุงแก้ไขโครงงานให้ สมบูรณ์ยิ่งขึ้น ขอกราบขอบพระคุณ อาจารย์ถนอมจิต ปิ่นกันทา อาจารย์ที่ปรึกษาโครงงาน ที่ให้ความ ช่วยเหลือ แนะนำ ในการศึกษาโครงงานอย่างใกล้ชิดจนทำให้โครงงาน ที่ศึกษาสำเร็จลุล่วงไปด้วยดี[/FONT] [FONT="] [FONT="]คณะผู้จัดทำ[/FONT][/FONT] [FONT="] บทนำ[/FONT][/FONT][FONT="] [FONT="]1.1 ที่มาและความสำคัญของโครงงาน[/FONT] ใน ชีวิตประจำวันของเรากล้วยนับว่าเป็นพืชที่ให้ประโยชน์แก่คนและสัตว์อย่างมาก เรารับ ประทาน ผลกล้วยสุก ซึ่งให้คุณค่าสารอาหารคาร์โบไฮเดรต เกลือแร่ และวิตามิน นำผลกล้วยสุกและกล้วยดิบที่แก่จัด มาแปรรูปเพื่อ ให้น่ารับประทานมากยิ่งขึ้น เช่น กล้วยกวน กล้วยเชื่อม กล้วยฉาบ ฯลฯ ใบ กล้วยนำมาใช้ห่อขนม เย็บเป็นถาด ใส่อาหาร ใช้ทำบายศรี ฯลฯ ส่วนก้านใบกล้วยนำมาเป็นอาหารสัตว์ ทำเชือก ฯลฯ จะเห็นได้ว่าทุกส่วนของกล้วยให้ประโยชน์มากมาย คณะ ผู้จัดทำสังเกตเห็นว่าเมื่อเรานำเอากล้วยมาใช้ประโยชน์โดยไม่ระมัดระวังยาง กล้วยถ้าติดบนเสื้อผ้าแล้ว จะซักไม่ออกจะเป็นสีน้ำตาลติดแน่น ซึ่งคุณสมบัติของยางกล้วยนี้ คณะผู้จัดทำคิดว่าจะนำไปเพ้นท์ลงบนผ้าเขียนเป็นลวดลายต่าง ๆ แล้วนำไปย้อม จึงได้จัดทำโครงงานนี้ขึ้น[/FONT] [FONT="] บทที่ 2[/FONT][FONT="] [FONT="] เอกสารที่เกี่ยวข้อง[/FONT][/FONT][FONT="] ผ้าแมมเบอร์ก เป็นผ้าฝ้ายเนื้อละเอียด ยับง่าย ผ้ามัสลิน เป็นผ้าฝ้ายเนื้อละเอียด บาง ผ้าดิบ เป็นผ้าฝ้าย เนื้อหยาบ มีสีขาวขุ่น [/FONT][FONT="] กล้วย[/FONT][FONT="] [FONT="]ประวัติของกล้วย[/FONT][/FONT][FONT="] กล้วยเป็นพืชเขตร้อนพืชหนึ่งของไทยที่มีประโยชน์มากมาย ถิ่นกำเนิดอยู่ในเอเซียตะวันออก เฉียงใต้ มี อยู่ด้วยกันหลายชนิด ที่รู้จักกันดีและปลูกแพร่หลายในเขตนี้คือ กล้วยน้ำว้า กล้วยหอม (กล้วยหอมทอง หอมเขียว หอมค่อม) และกล้วยไข่ ซึ่งโดยเฉพาะกล้วยหอมได้รับความนิยม จากในและต่างประเทศมาก กล้วยใช้ประโยชน์ได้เกือบทุกส่วน เช่น รับประทานสุกและแปรรูป สำหรับแปรรูป สามารถทำของหวาน กลั่นเป็นสุรา เครื่องดื่ม ทำน้ำส้มสายชู ใบแห้งใช้ทำมวนบุหรี่ ปลีใช้เป็นอาหารเป็นต้น[/FONT] [FONT="]ประวัติกล้วย[/FONT][FONT="] กล้วยมีถิ่นกำเนิดอยู่ทางเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กล้วยในปัจจุบันกลายพันธุ์ มาจากกล้วยป่า ที่มีรสหวาน และได้สืบพันธุ์หน่อกล้วย กันออกไป ต่อมาได้มีการคัดเลือกพันธุ์ ุ์กล้วยที่ดีขึ้นเรื่อย ๆ จึงเกิด การผสมพันธุ์กล้วยขึ้นในปัจจุบัน ทำให้กล้วยที่ปลูกเป็นการค้า ในปัจจุบันนี้ไม่มีเมล็ด ปัจจุบันกล้วยมีการเพาะปลูกอยู่ทั่วไปในแถบเส้นศูนย์สูตรขึ้นไปทางเหนือ และลงมาทางใต้ ในประเทศ ที่มีภูมิอากาศเหมาะสมแก่การปลูกกล้วย มีทั้งประเทศในทวีปแอฟริกา เอเชีย และหมู่เกาะใน มหาสมุทร แปซิฟิก ถึงแม้ว่า ประเทศ ไทยไม่ปรากฏหลักฐานแน่ชัดว่า พบ เห็นหรือนำพันธุ์กล้วยพันธุ์ใดเข้ามาครั้งแรก แต่มีผู้กล่าวว่ากล้วยมากกว่า 13 สายพันธุ์มีถิ่นกำเนิดในประเทศไทยนั่นเอง กล้วย ที่นิยมปลูกกันในประเทศไทย กล้วยที่พบในประเทศไทยมีอยู่หลายพันธุ์ด้วยกัน แต่ที่รู้จักกันดีและนิยมปลูกกันแพร่หลายมีอยู่ไม่กี่พันธุ์ ได้แก่ กล้วยหอมทอง เป็นกล้วยพันธุ์ หนึ่งที่ส่งเสริมให้เกษตรกรปลูกกันในปัจจุบัน และได้รับความนิยม จากผู้บริโภคทั้งในและ ต่างประเทศมาก มีลักษณะ ลำต้นใหญ่ แข็งแรง กาบใบชั้นใน มีสีเขียวหรือสีชมพูอ่อน เครือได้รูปทรงมาตรฐานดี มีน้ำหนักมาก ผลยาวเรียว ปลายผลคอดแบบคอขวด เปลือกหนา เมื่อผลสุกผิวจะเปลี่ยนเป็นสีเหลืองมีรสชาติอมหวาน กล้วยหอมทอง เครือหนึ่ง ๆ เฉลี่ย แล้วมีประมาณ 13 หวี แต่กล้วยพันธุ์นี้มีข้อเสียคือ ไม่ทนทานต่อโรคตายพราย และโรคใบจุด [/FONT] [FONT="]1.2 วัตถุประสงค์ของการศึกษาโครงงาน[/FONT][FONT="] [FONT="] ตอนที่ 1[/FONT] เพื่อเปรียบเทียบว่าผ้าชนิดใดเหมาะสมกับการเพ้นท์ผ้า [FONT="] ตอนที่ 2[/FONT] 1. เพื่อศึกษาสีของผ้าหลังจากเพ้นท์ด้วยยางกล้วย นำไปย้อม ซัก แล้วตากให้แห้ง 2. เพื่อศึกษาความคงทนสีของผ้า หลังจากเพ้นท์ด้วยยางกล้วย นำไปย้อมซัก ตากให้แห้ง [/FONT][FONT="]1.3 ขอบเขตของการศึกษาค้นคว้า[/FONT][FONT="] [/FONT][FONT="] การศึกษาการเพ้นท์ผ้าในครั้งนี้ ศึกษาเฉพาะการนำเอายางกล้วย มาทดลองเพ้นท์ลงบนผ้ามัสลิน ผ้าแมมเบอร์ก และผ้าดิบ เท่านั้น กำหนดเวลาที่ใช้ในการศึกษาคือ ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2544 โรงเรียนอนุบาลลำพูน อำเภอเมือง จังหวัดลำพูน [/FONT][FONT="]1.4 ตัวแปรที่ศึกษา[/FONT][FONT="] [/FONT][FONT="] [FONT="] ตอนที่ 1[/FONT] ตัวแปรต้น ผ้าแมมเบอร์ก ผ้ามัสลิน ผ้าดิบ ตัวแปรตาม ลักษณะ สี ของผ้าแมมเบอร์ก ผ้ามัสลิน ผ้าดิบ หลังจากเพ้นท์ด้วย ยางกล้วย นำไปย้อม ซักแล้วตากให้แห้ง ตัวแปรควบคุม ระยะเวลาที่ใช้ในการย้อมผ้าท่ากัน สีย้อมผ้าชนิดเดียวกัน ภาพวาดเหมือนกัน ผ้าหลังจากทีเพ้นท์ด้วยยางกล้วยแห้ง เหมือนกัน [/FONT] [FONT="]ตอนที่ [/FONT][FONT="]2 [/FONT][FONT="] ตัวแปรต้น สีย้อมผ้าสีแดง สีเหลือง สีเขียว สีส้ม สีน้ำเงิน ตัวแปรตาม สีของผ้าหลังจากเพ้นท์ด้วยยางกล้วย นำไปย้อม ซัก แล้วตากให้แห้ง [/FONT][FONT="]1.5 สมมติฐานการศึกษาค้นคว้า[/FONT][FONT="] [/FONT][FONT="] [FONT="] ตอนที่ 1[/FONT] ถ้านำยางกล้วยมาเพ้นท์ลงบนผ้าแมมเบอร์ก ผ้ามัสลิน และผ้าดิบแล้ว ผ้าแมมเบอร์กน่าจะมีความเหมาะสมกับการเพ้นท์ผ้า [FONT="] ตอนที่ 2[/FONT] ถ้านำยางกล้วย มาเพ้นท์ผ้าแล้วนำไปย้อมด้วยสีย้อมผ้าสีต่าง ๆ แล้ว ผ้าที่เพ้นท์ จากยางกล้วยน่าจะให้สีเหมือนกับสีที่นำมาย้อม [/FONT][FONT="]1.6 ประโยชน์ที่ได้รับจากโครงงาน[/FONT][FONT="] [/FONT][FONT="] ทำให้ทราบการเพ้นท์ผ้าที่ให้สีเรียบ สวยงาม สีไม่ตก และผ้าที่เหมาะ สำหรับการ เพ้นท์ ด้วยยางกล้วย และนำความรู้ที่ได้รับจากการทำ โครงงานไปใช้ ประโยชน์ในชีวิตประจำวัน และ เผยแพร่ให้ผู้สนใจโดยทั่วไป [/FONT][FONT="]1.7 นิยามศัพท์เฉพาะ[/FONT][FONT="] [/FONT][FONT="] 1) ผ้าที่เหมาะสมกับการเพ้นท์ หมายถึง ได้สีเรียบสวยงาม สีไม่ตก หลังจากเพ้นท์ด้วยยางกล้วยแล้วนำไปย้อม ซัก ตากให้แห้ง 2) ยางกล้วย หมายถึง ของเหลวที่ไหลออกมาจากต้นกล้วยเมื่อเราตัด ก้านกล้วยปลีกล้วย หน่อกล้วย 3) ความคงทนสีของผ้า หมายถึง สีของผ้าไม่ซีดจาง หลังจากซักรีดแล้ว 5 ครั้ง[/FONT] [FONT="]บทที่ [/FONT][FONT="]3[/FONT][FONT="] [FONT="]อุปกรณ์และวิธีการดำเนินงาน[/FONT][/FONT] โรงเรียนอนุบาลลำพูน อำเภอเมือง จังหวัดลำพูน [FONT="]3.2 วัสดุ /อุปกรณ์ที่ใช้ในการศึกษา[/FONT] 1. ผ้ามัสลิน ผ้าแมมเบอร์ก ผ้าดิบ 2. ยางกล้วย 3. ช้อนตักแกง 4. สีย้อมผ้า 5. บิกเกอร์ 6. ตะเกียงแอลกอฮอล์พร้อมที่กั้นลมและตะแกรงลวด 7. เฟรม 8. ถังน้ำ 9. ช้อนตักสาร 10. แท่งแก้วคนสาร 11. พู่กัน 12. เทียนไขสีขาว 13. ไม้ขีดไฟ 14. สก็อตเทปใส[/FONT] [FONT="]3.3 วิธีการศึกษาทดลอง[/FONT][FONT="] [/FONT][FONT="]ตอนที่ [/FONT][FONT="]1[/FONT][FONT="] 1. นำผ้าแมมเบอร์ก ผ้ามัสลิน ผ้าดิบ นำมาตัดให้มีขนาด 11 x11 นิ้ว จำนวน ชนิดละ 1 ผืน เย็บริมให้เรียบร้อย นำไปซัก ตากให้แห้ง รีดให้เรียบ 2. นำผ้าแต่ละชนิดไปขึงกับเฟรม วาดรูปตามต้องการ 3. นำช้อนตักแกง ทุบที่ปลายด้ามด้วยค้อนให้มีรูขนาดเล็ก ใช้สำหรับเขียนเทียน 4. ต้มเทียนไขให้ละลาย นำช้อนที่เตรียมไว้ในข้อ 3 โดยนำมาชุบเทียนที่ละลายแล้ว เขียนตามเส้นลวดลายที่วาดไว้ 5. นำยางกล้วยมาระบายตามรูปภาพโดยใช้พู่กัน 6. นำไปตากให้แห้ง 7. ต้มน้ำเตรียมสีย้อมผ้า นำผ้าลงย้อม ใช้แท่งแก้วคนสารคนไปมาเพื่อให้ผ้าที่ย้อม สัมผัสกับสีย้อมผ้าทุกส่วน ประมาณ 5 นาที 8. นำไปซักตากให้แห้ง 9. สังเกตสีของผ้า บันทึกผล 10. ทดลองซ้ำ ตั้งแต่ข้อ 1-9[/FONT] [FONT="]ตอนที่ [/FONT][FONT="]2[/FONT][FONT="] 1. นำผ้ามัสลินมาตัดให้มีขนาด 11 x11 นิ้ว เย็บริมให้เรียบร้อย นำไปซัก ตาก ให้แห้ง รีดให้เรียบ 2. นำผ้าแต่ละชนิดไปขึงกับเฟรม วาดรูปตามต้องการ 3. นำช้อนตักแกง ทุบที่ปลายด้ามด้วยค้อนให้มีรูขนาดเล็ก ใช้สำหรับเขียนเทียน 4. ต้มเทียนไขให้ละลาย นำช้อนที่เตรียมไว้ในข้อ 3 โดยนำมาชุบเทียนที่ละลายแล้ว เขียนตามเส้นลวดลายที่วาดไว้ 5. นำยางกล้วยมาระบายตามรูปภาพโดยใช้พู่กัน 6. นำไปตากให้แห้ง 7. ต้มน้ำเตรียมสีย้อมผ้าสีแดง นำผ้าลงย้อมใช้แท่งแก้วคนสารคนไปมา เพื่อให้ผ้าที่ย้อมสัมผัสกับสีย้อมผ้าทุกส่วน 8. นำไปซักตากให้แห้ง 9. สังเกตสีของผ้า บันทึกผล 10. ทดลองเหมือนกับข้อ 1-9 แต่เปลี่ยนสีย้อมผ้าเป็นสีเขียว เหลือง ส้ม น้ำเงิน 11. ศึกษาความคงทนสีของผ้าโดยนำผ้ามัสลินที่มีขนาดเท่ากัน เย็บริมให้เรียบร้อย มาจำนวน 10 ผืน นำผ้าจำนวน 5 ผืนไปเพ้นท์ด้วยยางกล้วยให้ทั่วทุกผืน ตากให้แห้ง เตรียมสีย้อมผ้าแล้วนำผ้าทั้งหมดลงย้อม นำผ้าไปซัก ตากให้แห้ง สังเกต บันทึกผลหลัง การซัก [/FONT] [FONT="]บทที่[/FONT][FONT="] 4[/FONT][FONT="] [FONT="]ผลการศึกษาทดลอง[/FONT][/FONT] ตารางบันทึกผลการศึกษาทดลอง [/FONT][FONT="]ตอนที่ [/FONT][FONT="]1 ชนิดของผ้าที่นำมาเพ้นท์จากยางกล้วย[/FONT][FONT="] [/FONT][FONT="]ผลการสังเกต[/FONT][FONT="] [/FONT][FONT="] ผ้าแมมเบอร์ก[/FONT][FONT="] บริเวณที่เพ้นท์ด้วยยางกล้วยมีสีค่อนข้างเรียบ[/FONT][FONT="] ส่วนบริเวณที่ไม่ได้เพ้นท์ด้วยยางกล้วย จะมีสีซีดจางแต่เข้มกว่าผ้ามัสลิน [/FONT][FONT="] ผ้ามัสลิน[/FONT][FONT="] บริเวณที่เพ้นท์ด้วยยางกล้วยมีสีเรียบ สีเข้ม สวยงาม ส่วนบริเวณที่ไม่ได้เพ้นท์[/FONT][FONT="] ด้วยยางกล้วยจะมีสีซีดจาง [/FONT][FONT="] ผ้าดิบ [/FONT][FONT="]บริเวณที่เพ้นท์ด้วยยางกล้วยมีสีไม่เรียบ เป็นด่าง ส่วนบริเวณที่ไม่ได้เพ้นท์[/FONT][FONT="] ด้วยยางกล้วยจะมีสีเข้มกว่า [/FONT][FONT="] ผ้าแมมเบอร์ก [/FONT][FONT="] [/FONT][FONT="]สรุปลจากการศึกษาค้นคว้า[/FONT][FONT="] ตอนที่[/FONT][FONT="] 1 จากการศึกษาการเพ้นท์ผ้าจากยางกล้วยด้วยผ้าแมมเบอร์ก ผ้ามัสลิน และผ้าดิบ ผลศึกษาพบว่า ผ้าที่เหมาะสำหรับเพ้นท์ด้วยยางกล้วยคือ ผ้ามัสลิน รองลงมาคือ ผ้าแมมเบอร์ก ส่วนผ้าดิบไม่เหมาะสำหรับนำมาเพ้นท์ด้วยยางกล้วย เพราะจะให้สีขรุขระ ไม่เรียบ[/FONT] [FONT="]บันทึกผลการศึกษาทดลอง ตอนที่ [/FONT][FONT="]2[/FONT][FONT="] [/FONT][FONT="]สีที่นำมาย้อมหลังจากเพ้นท์ด้วยยางกล้วย[/FONT][FONT="] [/FONT][FONT="]ผลการสังเกต[/FONT][FONT="] [/FONT][FONT="]สีแดง[/FONT][FONT="] บริเวณที่เพ้นท์ด้วยยางกล้วยมีสีชมพูเข้ม สีเรียบ ส่วนบริเวณที่ไม่ได้เพ้นท์[/FONT][FONT="] ด้วยยางกล้วยจะมีสีชมพูอ่อน [/FONT][FONT="]สีเขียว[/FONT][FONT="] บริเวณที่เพ้นท์ด้วยยางกล้วย มีสีเขียว สีเรียบ ส่วนบริเวณ ที่ไม่ได้เพ้นท์ด้วยยางกล้วย[/FONT][FONT="] จะมีสีเขียวอมฟ้า ซีดจาง [/FONT][FONT="]สีน้ำเงิน[/FONT][FONT="] บริเวณที่เพ้นท์ด้วยยางกล้วย มีสีนำเงิน สีเรียบ ส่วนบริเวณ ที่ไม่ได้เพ้นท์[/FONT][FONT="] ด้วยยางกล้วย จะมีสีฟ้าอมเทา [/FONT][FONT="]สีส้ม[/FONT][FONT="] บริเวณที่เพ้นท์ด้วยยางกล้วย มีส้มอมน้ำตาล สีเรียบ ส่วนบริเวณที่ไม่ได้เพ้นท์ด้วยยางกล้วยจะมีสีส้มอ่อน[/FONT][FONT="] [/FONT][FONT="]สีเหลือง [/FONT][FONT="]บริเวณที่เพ้นท์ด้วยยางกล้วยมีสีเหลือง สีเรียบ ส่วนบริเวณ ที่ไม่ได้เพ้นท์ด้วยยาง[/FONT][FONT="] กล้วยจะมีสีเหลืองอ่อน ผลการศึกษาความคงทนของสีผ้า ลักษณะของผ้าที่ย้อม [/FONT][FONT="]ผลการสังเกต[/FONT][FONT="] ผ้าที่เพ้นด้วยยางกล้วยแล้วนำไปย้อม เมื่อนำผ้าไปซักจำนวน 5 ครั้ง สีของผ้าไม่ซีดจาง ผ้าที่ไม่ได้เพ้นท์ด้วยยางกล้วยแล้วนำไปย้อม เมื่อนำผ้าไปซักจำนวน 5 ครั้ง ผ้าจะมีสีซีดจางลงตามลำดับ [/FONT] [FONT="]สรุปผลการศึกษาค้นคว้า ตอนที่ [/FONT][FONT="]2[/FONT][FONT="] 1. ผ้าที่เพ้นท์ด้วยยางกล้วยแล้วนำไปย้อมด้วยสีเขียว สีเหลือง และสีน้ำเงิน บริเวณที่เพ้นท์ด้วยยางกล้วย จะให้สีผ้าเหมือนกับสีที่นำมาย้อม บริเวณอื่นจะให้สีซีดจางลง ส่วนสีแดง บริเวณที่เพ้นท์ด้วยยางกล้วย จะให้สีผ้าเป็นสีชมพูเข้ม สีส้มให้สีผ้าเป็นสีส้มอมน้ำตาล และบริเวณอื่นจะให้สีซีดจางลง 2. ผ้าที่เพ้นท์ด้วยยางกล้วยแล้วนำไปย้อม สีของผ้าจะมีความคงทน ส่วนผ้าที่ไม่ได้เพ้นท์ด้วยยางกล้วย สีจะซีดจางลงตามลำดับ[/FONT] [FONT="]บทที่ [/FONT][FONT="]5[/FONT][FONT="] [FONT="] สรุป อภิปราย และข้อเสนอแนะ[/FONT][/FONT][FONT="] [FONT="]5.1 สรุปผลการศึกษา[/FONT] จากการศึกษาค้นคว้าโครงงานเรื่อง ยางกล้วยช่วยเพ้นท์ผ้า ผลการศึกษาพบว่า 1. ผ้าที่เหมาะสำหรับเพ้นท์ด้วยยางกล้วยคือ ผ้ามัสลิน รองลงมาคือผ้าแมมเบอร์ก ส่วนผ้าดิบไม่เหมาะสำหรับนำมาเพ้นท์ด้วยยางกล้วย เพราะจะให้สีขรุขระ ไม่เรียบ 2. ผ้าที่เพ้นท์ด้วยยางกล้วยแล้วนำไปย้อม บริเวณที่เพ้นท์ด้วยยางกล้วยจะให้ สีผ้าเหมือนกับสีที่นำมาย้อมหรือสีใกล้เคียง ส่วนบริเวณอื่นจะให้สีจางลง 3. ผ้าที่เพ้นท์ด้วยยางกล้วยแล้วนำไปย้อม สีของผ้าจะมีความคงทน ส่วนผ้าที่ไม่ได้ เพ้นท์ด้วยยางกล้วยสีจะซีดจางลงตามลำดับ [FONT="]5.2 อภิปราย[/FONT] การศึกษาโครงงานวิทยาศาสตร์ เรื่อง ยางกล้วยช่วยเพ้นท์ผ้า คณะผู้จัดทำได้ทำการศึกษาเพิ่มเติมพบว่า 1. ยางกล้วยที่ได้จากการตัดก้านกล้วย ปลีกล้วย หน่อกล้วยที่สูงไม่เกิน 1 เมตร จะนำมาใช้ในการเพ้นท์ผ้าได้ดี ส่วนน้ำที่คั้นได้จากลำต้นของกล้วยที่โตเต็มที่ กาบของปลีกล้วย เพ้นท์ผ้าไม่ดี[/FONT] [FONT="]2. บริเวณที่เพ้นท์ด้วยยางกล้วยแล้วนำไปตากจนแห้งจะดูดสีย้อมผ้าได้ดีกว่าแห้งหมาด ๆ หรือยังเปียกอยู่ และขณะเพ้นท์ผ้าไม่ควรให้ยางกล้วยหยดลงบนผืนผ้าที่ไม่ต้องการเพ้นท์เพราะเวลาย้อมผ้าออกมาแล้ว จะให้สีเลอะเทอะ ไม่สวย 3. การเพ้นท์ผ้าด้วยยางกล้วย ถ้าเราใส่สารช่วยย้อม ไม่ว่าจะย้อมด้วยสีแดง สีเขียว หรือสีน้ำเงิน บริเวณที่เพ้นท์ด้วยยางกล้วยจะให้สีน้ำตาล ส่วนบริเวณอื่นจะให้สีเหมือนกับที่นำมาย้อมหรือใกล้เคียง แต่สีจะเข้มกว่าที่ไม่ได้ใส่สารเคมีที่ช่วยในการย้อมผ้าลงไป 4. ในการย้อมผ้าควรคลี่ผ้าให้สัมผัสกับสีย้อมผ้าให้ทั่ว ถ้ามีบางส่วนของผ้าไม่ได้สัมผัสกับสีย้อมผ้า สีที่ได้จะไม่เรียบ 5. การคำนวณหาต้นทุน-กำไรในการทำผ้าเช็ดหน้าตามโครงงาน ยางกล้วยช่วยเพ้นท์ ผ้ามัสลิน 1 เมตร ราคา 55 บาท นำไปตัดผ้าเช็ดหน้าได้ 15 ผืน นำไปจ้างเย็บริมผ้า ผืนละ 2 บาทค่าสีย้อมผ้าผืนละ 1 บาทคิดเป็นต้นทุนประมาณ ผืนละ 7 บาท ถ้าขายผืนละ 10 บาท จะได้ค่าแรงและกำไรผืนละ 3 บาท [/FONT][FONT="] [FONT="]5.3 ข้อเสนอแนะ[/FONT][/FONT][FONT="] ควรมีการศึกษานำผ้าที่เพ้นท์จากยางกล้วยแล้วนำไปย้อมด้วยสีจากธรรมชาติ[/FONT] [FONT="]เอกสารอ้างอิง [/FONT] ว 0110 เส้นใยกับสีย้อม. กรุงเทพฯ : โรงพิมพ์คุรุสภาลาดพร้าว. Maejo.com - Agricuture of Thailand - การปลูกกล้วย.[/FONT] [FONT="]แหล่งเรียนรู้เพิ่มเติม[/FONT] [FONT="]www.mahidol.ac.th/mahidol/py/mpcenter/html/musa.html http://www.bangkokhealth.com/consumer_htdoc/consumer_health_detail.asp?Number=9154 http://www.thaigoodview.com/library/studentshow/st2545/5-4/no01/banana.html http://www.thai.net/kochkorn/Co/Banana.html http://se-ed.net/thaieducate/7fruit3.html http://www.school.net.th/library/create-web/10000/technology/10000-4064.html http://suan_naratip.tripod.com/banana.htm[/FONT] [FONT="] โครงงานวิทยาศาสตร์ http://www.jstp.org/science_project.htm http://www.jstp.org http://www.nstda.or.th/index.php http://www.school.net.th/library/create-web/10000/science/10000-5726.html http://www.ipst.ac.th http://www.onec.go.th/publication/t_boonma/index_boonma.htm[/FONT] อ่านต่อ : เด็กดีดอทคอม > Writer > การเขียนโครงงานวิทยาศาสตร์&ตัวอย่าง
__________________ สงสัยเรื่องการใช้ยาแวะเข้ามาถามได้จ๊ะ ที่นี่ (อย่ายากมากนะค่ะ) | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
Tags |
โครงงาน สิ่งประดิษฐ์, โครงงานวิทยาศาสตร์, โครงงานวิทยาศาสตร์สิ่งประดิษฐ์, ตัวอย่างโครงงานวิทยาศาสตร์, วิทยาศาสตร์, วิทยาศาสตร์สิ่งประดิษฐ์, สิ่งประดิษฐ์ |
| |