เว็บการ์ตูนหรอยกู

กลับไป   เว็บการ์ตูนหรอยกู > บล็อก > นายโอมเทพไตรกีฬา

Rate this Entry

วิจารณ์บท-บริบท-สัมพันธบท Saw เกม ตัด-ต่อ-ตาย(ภาค1)

โพสเมื่อ 18-09-2011 เวลา 22:09 โดย ohmohm



วิจารณ์บท-บริบท-สัมพันธบท
Saw เกม ตัด-ต่อ-ตาย(ภาค1)




ชีวิตของคนเราหนึ่งคนมีค่าแค่ไหน แล้วคนเราในปัจจุบันคนเราเห็นคุณค่าของตนเองมากน้อยเพียงใด เรื่องนี้ตอบได้เลยว่าปัจจุบันหรือในอดีตคนเราเห็นคุณค่าในตัวเองไม่ต่างจากสมัยก่อน พูดง่ายๆว่าคนเรายังมองไม่ค่อยเห็นคุณค่าของตัวเองเหมือนใน 1,000 ปีที่แล้ว และนี่คือแนวคิดที่เป็นจุดกำเนิดของภาพยนตร์เรื่อง Saw เกม ตัด-ต่อ-ตาย


สุรา ,ยาเสพติด ,การพนัน ,การมีชู้ เป็นสิ่งที่บั่นทอนคุณค่าในชีวิตเราทั้งสิ้น ด้วยแนวคิดว่า ?คนเราต้องเห็นคุณค่าในชีวิตของตนเอง? จึงกำเนิดภาพยนตร์เรื่องนี้ขึ้น โดยมี 2 ผู้กำกับ James Wan และ Leigh Whannel โดยคนแรกเป็นชาวมาเลย์ คนที่สองเป็นชาวออสซี่ ทั้งสองคนเป็นเพื่อนกันตอนที่เรียนมหาวิทยาลัยในออสเตรเลีย พวกเขาทั้งสองคนได้วางเค้าโครงเรื่องไว้ได้อย่างยอดเยี่ยม และก็เป็นแนวคิดของหนังสยองขวัญที่ไม่มีใครเคยทำมาก่อน และทำให้คนดูสยองมากที่สุดก็คือ การที่ใครก็ได้สามารถตกเป็นเหยื่อของฆาตกรโรคจิตคนนี้ โดยฆาตกรโรคจิตคนนี้ใช้ชื่อแทนตนเองว่า ?Jigsaw? ความหมายของคำว่า Jigsaw คงจะหมายถึงชิ้นส่วนที่ขาดหายไปในชีวิต ซึ่งก็เหมือนกับ Jigsaw ถ้าหายไป 1 ชิ้น คุณค่าของงานชิ้นนั้นก็จะหมดไป ชีวิตเราก็เช่นกันถ้าเราไม่เห็นคุณค่าของชีวิตของเราในเรื่องใดเรื่องหนึ่งหรือมองข้ามเรื่องเล็กน้อยไป ก็เหมือนกับ Jigsaw 1 ชิ้นที่หายไปและทำให้คุณค่าในชีวิตของเราหมดไป ด้วยอุดมการณ์ทางความคิดที่ว่า ?คนเราควรเห็นคุณค่าในชีวิตในตนเอง? ต้องย้อนกลับมาว่าทำไมเขาถึงมีอุดมการณ์เช่นนี้ มีอะไรแฝงอยู่ในจิตใต้สำนึกของเขา จิตสำนึกของเขาเป็นอย่างไร 2 ผู้กำกับชาวมาเลย์และออสซี่ ได้เขียนบทเอาไว้ได้อย่างน่าสนใจ สำหรับตัวบุคลิกของ Jigsaw และมีอยู่ 2 เหตุการณ์ด้วยกันที่ทำให้ Jigsaw ต้องกลับกลายมาเป็นคนเช่นนี้


เหตุการณ์แรกคือ Jigsaw เป็นชายแก่อายุมากและต้องการที่จะมีลูกแต่ภรรยาของเขาแท้งลูก ซึ่งเขาเสียใจอย่างมากเพราะมันเป็นโอกาสสุดท้ายของเขาที่จะมีลูก และคนที่ทำให้แท้งลูกก็คือ คนติดยาที่อยู่ข้างโรงพยาบาลที่เขาได้ทำงานเป็นหมออยู่ เหตุการณ์ที่ 2 ที่ทำให้เขากลายเป็นJigsaw ที่โหดร้ายในปัจจุบันก็คือ การป่วยเป็นมะเร็งในระยะสุดท้ายของเขา วิเคราะห์ได้ว่าจากจุดนี้ทำให้รู้สึกถึงการใช้ชีวิตที่ไม่คุ้มค่าของเขาและยังไม่ได้ทำอะไรอีกมากมาย อุดมการณ์ ?คนเราเกิดมาต้องรู้คุณค่าของชีวิต? ก็เดขึ้นจากจุดนี้นี่เอง


Adam และ Dr.Gordon เหยื่อคู่แรก ที่Jigsawเลือกผู้ที่ไม่รู้จักคุณค่าของชีวิต ซึ่งทั้งสองคนนี้ตรงตามแบบแผนที่ได้วางเอาไว้ เนื้อเรื่องถูกเขียนเอาไว้โดยเชื่อมความสัมพันธ์ของทั้ง 3 คนได้เป็นอย่างดี(Jigsaw,Adam, Dr.Gordon) ทั้ง 3 คนมีความเกี่ยวพันกัน ซึ่งมีความเป็นเหตุเป็นผลกันอย่างน่าเชื่อถือ พูดง่ายๆว่าทุดคนไม่สงสัยเลยในความสัมพันธ์ว่าทำไมพวกเขาถึงมาอยู่ ณ จุดๆนี้ได้ ผู้เขียนบทได้ตีบทตรงนี้ได้แตก เพราะทำให้คนดูเชื่อได้ว่า Adam และ Dr.Gordon สมควรโดนลงโทษโดยJigsaw โดยทั้งสองคนที่กล่าวมานั้นมีปมความผิดที่แตกต่างกันไป(จริงๆแล้วทุกคนต้องมีมุมมืดแบบนั้นทุกคน)


นักแสดงอีกคนหนึ่งที่เป็นคีย์เวิร์ดที่สำคัญก็คือ นักสืบDavid เขาเป็นคนตำรวจสายสืบที่ต้องการจะจับตัวJigsaw ให้สำเร็จและเป็นคนที่มุ่งมั่นในการทำงานมาก และเป็นตัวความหวังของผู้ชมเลยก็ว่าได้ ตัวละครตัวนี้ทำให้สถานการณ์ในเรื่องสนุกขึ้นมากที่เดียว แต่จนแล้วจนรวดแม้แต่หน้าตาของJigsaw เขาก็ไม่มีโอกาสได้เห็น เขาเป็นเหมือนไฟแห่งความหวังของคนดู ที่คอยลุ้นให้เขาสามารถรู้ตัวคนร้ายที่ชื่อ Jigsaw ให้จงได้ แต่ด้วยการวางแผนที่แยบยลเกินกว่าใครๆจะคาดเดา(รวมถึงผู้ชม) ก็ทำให้นักสืบDavid ไม่สามารจับตัวคนร้ายได้


สิ่งที่น่าทึ่งอีกอย่างหนึ่งนอกจากบทในเรื่อง Saw เกม ตัด-ต่อ-ตาย แล้ว ยังมีเกมและเครื่องมือที่ใช้ในการเล่นเกมของJigsaw ที่ได้รับการออกแบบมาเป็นอย่างดีและทำให้หลายๆคนทึ่งไปตามๆกัน และเกมเหล่านี้ไม่มีหนังเรื่องใดเคยทำมาก่อน ทำให้เป็นปรากฎการณ์ใหม่ของวงการหนังสยองขวัญเลยก็ว่าได้ Sawเป็นภาพยนตร์เรื่องแรกที่เปิดเกมโหดรูปแบบใหม่นี้ขึ้น เกมถูกออกแบบมาได้อย่างอัจฉริยะ เกมในหนังเรื่องนี้มีผลต่อบทของภาพยนตร์อย่างมาก เพราะเป็นเครื่องมีที่มีความสลับซับซ้อนและมีข้อจำกัดด้านเวลากับชีวิตเป็นตัวตัดสินในเกม การตัดสินด้วยเวลาและชีวิตในเกมที่ดูเหมือนเห็นชีวิตคนเป็นผักปลาแบบนี้ ทำให้ทุกคนขนลุกและลุ้นระทึกไปตามๆกัน เมื่อดูภาพยนตร์เรื่องจบหลายๆคนอาจะเปลี่ยนทัศนคติของคำว่า ?เกม? ใหม่ จากเป็นตัวแทนของความสนุกสนาน กลายเป็นความน่ากลัวเมื่อได้ภาพยนตร์เรื่องนี้ เพราะเกมในภาพยนตร์เรื่องนี้คนสนุกมีอยู่คนเดียวก็คือJigsaw ส่วนคนที่เข้าไปเล่นเกมของเขาก็คงจะไม่สนุกด้วย แต่นี้อาจจะเป็นอีกคีย์เวิร์ดหนึ่งที่ทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้แตกต่างจากภาพยนตร์เรื่องอื่น


จะเห็นได้ว่าบทของหนังสยองขวัญหลายๆเรื่องก็ยังรักษาบทที่เป็นรูปแบบของตนเองเอาไว้ โดยยังยึดความแตกต่างกันทางความคิด ซึ่งฆาตกรในบทหนังทุกเรื่องก็ยังคงต้องมีความคิดที่วิปริตผิดแปลกไปจากคนทั่วๆไป ไม่มีฆาตกรคนไหนที่จะเป็นปกติ โดยส่วนมากแล้วจะเป็นคนสองบุคลิก หลายเรื่องเอาจุดนี้ไปเล่นกันเยอะมากหรือแทบทุกเรื่องก็ว่าได้ ฆาตกรเก็บกดแนวคิดความโหดร้ายของตนเอาไว้ในสภาพปกติและปล่อยออกมาเมื่อมีโอกาส โดยโอกาสและสถานการณ์ที่ปล่อยออกมานั้น แตกต่างกันตามบทที่ได้เขียน และนี่คือสิ่งที่ยากที่สุดเพราะหนังสยองขวัญส่วนมากเหมือนกันทางด้านความคิดมากเกินไป แต่Jigsawทุกสิ่งที่แตกต่างออกไป ทำให้ผู้ชมจำนวนมากจำทางไม่ติดในภาคแรก แถมยังไม่ลืมสิ่งสำคัญของภาพยนตร์สยองขวัญทุกเรื่องก็คือการหักมุม บางเรื่องหักมุมหลายครั้งแต่โดนผู้ชมจับทางติดได้ตลอด แต่ในหนังเรื่องนี้คงไม่มีใครจับทางติดแน่ๆ ถึงแม้จะมีรูปแบบที่ต้องการจะหักมุมเหมือนบทหนังสยองขวัญอื่นๆแต่ด้วยการเขียนบทที่ดีกว่า ทำให้มีคนพูดถึงเรื่องบทมากกว่าหนังสยองขวัญตลาดๆทั่วไป ถึงแม้จะมีความลำบากในการถ่ายทำในภาพยนตร์เรื่องนี้ในภาคแรก แต่ผู้กำกับทั้งสองคนก็สามารถทำหนังในข้อจำกัดได้ดีมาก ได้ให้ค่ายหนังเล็กๆหลายๆค่ายมองเห็นถึงลู่ทางในการขายหนังมากขึ้น และมองตลาดหนังใหม่ แทนที่จะมองหนังที่มูลค่าในการสร้างเพียงอย่างเดียว ก็มองกลับมามองที่มุมมองของผู้เขียนบทและผู้กำกับมากกว่า


ไม่ว่าจะเป็นบท บริบท และสัมพันธบท ในบทความที่กระผมได้เขียนมาได้อธิบายไว้โดยละเอียด โดยเฉพาะในเรื่องของบทและสัมพันธบท โดยเฉพาะเรื่องบทเป็นที่น่าสนใจได้มากเพราะภาพยนตร์เรื่องนี้ มีจุดเด่นที่บทเป็นจุดชูโรงก็ว่าได้ กระผมก็เลยอยากให้หลายๆคนเข้าใจและได้ศึกษาบทของภาพยนตร์และวิธีคิดต่างๆในหนังเรื่องนี้
โพสเมื่อ การบ้าน
Comments 0 Email Blog Entry

Total Comments 0

Comments

 



ออกจากระบบ | RoiGOo เว็บการ์ตูนหรอยกู | เอกสาร | ไปบนสุด

vBulletin รุ่น 3.8.7
สงวนลิขสิทธิ์ ©2000-2024, บริษัท Jelsoft Enterprises จำกัด