ซึ่งมีทั้งหมดประมาณ 127 ท่า ทำให้เราได้รู้ว่ายิ่งนานวันคนสมัยก่อนก็ยิ่งมีความคิดที่จะพยายามหาวิถีทางที่จะทำให้พ้นจากโรคภัยไข้เจ็บ และรู้จักบันทึกความรู้ไว้เป็นลายลักษณ์อักษร เพื่อป้องกันการสูญหายของความรู้ไปกับตัวของผู้รู้ ถัดจากบอร์ดก็จะเป็นชั้นคล้ายชั้นวางของที่ทำด้วยไม้ มีลูกประคบ หม้อยา สมุนไพรแห้งหลากหลายชนิดที่มีสรรพคุณมากมายหลายอย่าง ซึ่งลูกประคบก็จะทำด้วยผ้าฝ้ายสีขาวข้างในก็จะเป็นสมุนไพรชนิดต่างๆนำลูกประคบมามัดจุกสำหรับไว้เป็นที่ให้มือจับประคบ จากนั้นก็นำมาประคบผู้ป่วย นอกจากลูกประคบก็ยังมีการจัดแสดงยาหม้อที่ใช้ต้มในสมัยก่อนหม้อที่ใช้ก็จะเป็นหม้อดิน ข้างในก็มีสมุนไพร และผสมน้ำนำไปต้มจนเดือดแล้วมาดื่มรักษาโรค ในสมัยก่อนที่หม้อยาจะใช้ ?เฉลว? ซึ่งเฉลวก็ทำมาจากตอกมาพับเป็นรูปดาว มีหลายรูปแบบ เช่น เฉลว4 มุม เฉลว 5 มุม เฉลว 8 มุมเป็นต้น ซึ่งจุดประสงค์ที่ปักเฉลวไว้ที่หม้อยาก็เชื่อกันว่าคอยปกป้องไม่ให้สิ่งชั่วร้ายหรือภูตผีปีศาจลงไปในหม้อยา ซึ่งเราจะเห็นได้ว่ายาที่ใช้รักษาโรคในสมัยก่อนส้วนเป็นสมุนไพรทั้งสิ้น แต่ในขณะเดียวกันสมุนไพรที่มีประโยชน์ต่อการรักษาโรคชนิดหนึ่งอาจจะมีโทษอยู่ในตัวของมันด้วยก็ได้ ซึ่งก็ใช่ว่าคนสมัยก่อนจะนำมาใช้สุ่มสี่สุ่มห้า พวกเขากลับรู้จักเป็นอย่างดีว่าโรคชนิดใดควรใช้สมุนไพรชนิดใดในการรักษาและไม่ควรใช้สมุนไพรชนิดใดรักษา ดิฉันคิดว่าคนสมัยก่อนช่างรู้จักคิดรู้จักสังเกตและจดจำไม่เหมือนการใช้สมุนไพรและยาของคนในสมัยปัจจุบันที่มีแต่ใช้ตามคำแนะนำที่มีอยู่แล้วไม่ได้ใช้การสังเกตความคิดหรือความจำอะไรมากนัก ต่อมาก็จะเป็นส่วนด้านล่างของบอร์ดจะมีตู้กระจกอยู่ 2 ตู้เรียงกัน ในตู้แรกก็จะมีสมุนไพรแห้ง มีดหั่นสมุนไพรซึ่งมีลักษณะคล้ายๆกับที่ตัดกระดาษคือ มีที่รองสำหรับวางสมุนไพรแล้วปลายมีดถูกยึดไว้เพื่อความสะดวกในการยกมีดขึ้นลงเวลาหั่น นอกจากนี้ก็มีหินบดยาสมัยกรุงรัตนโกสินทริ์ เครื่องบดยาชนิดต่างๆและรางพร้อมลูกกลิ้ง ซึ่งรางที่ใช้บดยานี้มีลักษณะคล้ายเรือ ส่วนลูกกลิ้งจะทำจากหินรูปร่างกลมคล้ายจานมีด้ามจับ จากอุปกรณ์ที่เห็นในตู้ทำให้ดิฉันคิดว่าคนสมัยก่อนมีความฉลาดที่จะประดิษฐ์เครื่องบดหรือหั่นยาให้มีวิธีการใช้งานที่แตกต่างกันออกไป เพื่อให้มีความเหมาะสมต่อสมุนพไรที่ต่างชนิดกันออกไป
ในตู้ตัวถัดมาก็จะแสดงรูปภาพของการอยู่ไฟหลังคลอด เพื่อช่วยให้มดลูกเข้าอู่เร็วขึ้น นอกจากอยู่ไฟแวยังต้องอาบน้ำทีต้มมาจากสมุนไพร แล้วทาตัวด้วยขมิ้นเพื่อช่วยรักษาอาการอักเสบและบำรุงผิว แม้ว่าการอยู่ไฟจะมีมาตั้งแต่โบราณแต่ในปัจจุบันนี้การอยู่ไฟก็ยังคงมีอยู่ไม่สูญหายไปจากสังคมไทย โดยเฉพาะคนต่างจังหวัดก็ยังนิยมที่จะอยู่ไฟหลังคลอด นอกจากการอยู่ไฟก็ยังมีรูปอุปกรณ์ที่ช่วยนวด ซึ่งเครื่องนี้ฐานด้านล่างจะเป็นไม้ทำเป็นรางหลายๆราง ส่วนด้านบนจะเป็นแผ่นไม้รูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าค่อนข้างหนา ยังไม่หมดนอกนั้นก็มีรูปวิธีการปรุงยา รูปชุดร่วมยาแพทย์หลวงที่ประกอบด้วยซองยาที่ทำด้วยผ้า เครื่องทำยาลูกกลอน ยาแคปซูล ยาเม็ดที่มีสลากกำกับ เครื่องทำยาแคปซูลซึ่งมีลักษณะเป็นกล่องไม้ ด้านบนจะเป็นรู สุดท้ายก็จะเป็นกระบองแดง เป็นกระบองที่ทำด้วยไม้ทาด้วยสีแดง มีไว้สำหรับหมอหลวง เมื่อสมุนไพรชนิดใดขาดหรือหาไม่ได้ในพระราชวังหมอหลวงก็จะถือกระบองแดงออกไปเก็บสมุนไพรที่ต้องการได้ทุกที่ไม่ว่าสมุนไพรนั้นจะมีใคร