เป็นเจ้าของ ซึ่งคนนอกวังก็จะรู้ดีว่าหากเป็นหมอหลวงถือกระบองแดงก็จะให้เก็บสมุนไพรได้ทุกเมื่อ เพื่อที่จะนำสมุนไพรเหล่านั้นเข้าไปใช้ในพระราชวัง ดิฉันคิดว่าการใช้กระบองแดงในสมัยนั้นหากมองในแง่ความเสมอภาค ก็คงจะพูดได้ว่าเป็นการเอารัดเอาเปรียบสามัญชนคนธรรมดา บางทีสมุนไพรที่หมอหลวงมาเก็บนั้น คนที่ปลูกก็คงต้องการที่จะให้ประโยชน์จากมันเช่นกัน แต่ที่ต้องยอมให้ก็คงเพราะสมัยก่อนนั้นสามัญชนไม่มีสิทธิ์มีเสียงอะไรก็เป็นแค่ไพร่ฟ้าข้าแผ่นดินที่ต้องทำตามคำสั่งของกษัตริย์หรือเจ้านายขุนนางเท่านั้น แต่ถ้าจะนำกระบองแดงมาใช้ในยุคปัจจุบันก็คงไม่มีใครยอมเป็นแน่แท้


ถัดจากตู้ที่กล่าวมาก็จะเป็นเครื่องบดสมุนไพร เครื่องสกัดหมัก และเครื่องกรองน้ำ โดยที่เครื่องบดสมุนไพรมีลักษณะคล้ายเครื่องบดยาทั่วๆไป ในขวดที่รองรับอยู่ข้างล่าง จะเห็นได้ว่าวิธีการใช้ยาและการปรุงยามีการพัฒนาขึ้นมาในอีกระดับหนึ่ง จากตู้ต่อมาก็คือบอร์ดเกี่ยวกับวิวัฒนาการเภสัชกรรมมีการบอกถึงการเกิด แก่ เจ็บ ตาย ซึ่งเริ่มจากสมัยรัชกาลที่ 1 พระองค์ทรงรับสั่งให้มีการปฎิสังขรณ์วัดโพธิ์แล้วพระราชทานนามว่าวัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามแล้วได้มีการรวบรวมตำรายา ภาพฤๅษีดัดตน มีการจัดตั้งกรมหมอ ซึ่งเรียกผู้ที่เข้ามารับราชการในกรมหมอ เรียกว่า หมอหลวง ส่วนผู้รักษาประชาชนทั่วไป เรียก ?หมอราษฎร์? ต่อมาได้เปลี่ยนมาเรียก ?หมอเชลยศักดิ์? ในสมัยรัชกาลที่ 2 ก็ให้รวบรวมตำรายาจากหมอหลวง หมอเชลยศักดิ์ หมอพระสงฆ์ ไว้เป็นตำรายาในโรงพระโอสถหรือเรียกว่าตำราพระโอสถ เมื่อมาถึงสมัยรัชกาลที่ 5 มีการจัดตั้งกรมพยาบาลสังกัดกระทรวงธรรมการและตั้งโรงพยาบาลชื่อ ?ศิริราชพยาบาล? ในระยะแรกให้ใช้สมุนไพรควบคู่กับยาแผนตะวันตกในการรักษา ต่อมาพลเรือเอกพระเจ้าบรมวงศ์เธอกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ทรงเป็นพระราชโอรสของรัชกาลที่ 5 และเป็นพระบิดาของการแพทย์แผนไทย ทรงเขียนตำรายาแผนโบราณลงในสมุดข่อย ในสมัยรัชกาลที่ 6 มีรูปหล่อหมอบรัดเลย์ผู้ที่เรียบเรียงตำรายาฝรั่งขึ้น ซึ่งก็ได้กล่าวถึงยาฝรั่งลากรใช้สมุนไพรจัดให้มีการฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้ทรพิษและอหิวาตกโรค ในสมัยนั้นถือเป็นเรื่องมหัศจรรย์มากที่มียาฉีดนี้ นอกจากนี้ยังได้จัดตั้งโอสถศาลามีหน้าที่จัดซื้อยาและเวชภัณฑ์เพื่อจำหน่ายให้แก่หน่วยงานของราชการและยังทำหน้าที่เก็บสะสมยา ควบคุมคุณภาพและราคาของยา ต่อมาก็มีรูปของ ดร.ตั้ว โรงงานเภสัชกรรมซึ่งโรงงงานนี้ในระยะแรกผลิตยาทิงเจอร์ ยาสกัด ยาฉีด ข้างล่างลงมาก็จะเป็นบอร์ดแสดงเครื่องชั่งประเภทต่างๆ เช่น เครื่องชั่งจานเดียว เครื่องชั่งชนิดแขวน เครื่องชั่ง 2 แขน จากนั้นก็มีแอลโคโลมิเตอร์ บอรอมิเตอร์ บอลลังแซคโรมิเตอร์ เครื่องเวชภัณฑ์สมัยสงครามมหาเอเชียบูรพาตะวันออก ซึ่งได้แก่ตะเกียงแอลกอฮอล์ ตะเกียงแก๊ส กล้องจุลทรรศน์ เครื่องปั่นแยกตะกอน เครื่องเข้าแผงยาแคปซูล ต่อมาเป็นส่วนที่อยู่หน้าตู้เครื่องชั่งจะมีตู้แสดงตำรายา ตำราเขียนยันต์ ตำรายาสมุนไพร ที่ด้านบนของตู้ก็จะมี Phamacopia BP USP Reminton?spractice pharmacy